สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย ถือว่ามีอิทธิพลเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนไทยโดยเฉพาะในการค้นหาร้านอาหาร ใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งการเลือกซื้อสินค้าลักซ์ชัวรี่จากผลการสำรวจเรื่องแนวโน้มการท่องเที่ยวการรับประทานอาหารและไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมของอเมริกันเอ็กซ์เพรสสำหรับประเทศไทยหรือ American Express Travel, Dining, and Luxury Trends Research for Thailand* พบว่า 85% ของคนไทยที่ตอบแบบสำรวจใช้โซ เชียลมีเดียเพื่อค้นหาร้านอาหารใหม่ ๆ และ 67% ใช้โซเชียลมีเดียในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าลักซ์ชัวรี่ จึงนับว่าเป็นแหล่งข้อมูลอันดับหนึ่งสำหรับคนไทย
นอกจากการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาร้านอาหารใหม่ ๆ แล้ว ช่องทางอื่นที่เป็นที่นิยม 3อันดับแรกที่คนไทยใช้ ได้แก่ การบอกต่อ (46%) และรีวิวออนไลน์ (43%) ส่วนการเลือกซื้อสินค้าลักซ์ชัวรี่นั้นรองจากโซเชียลมีเดียแล้ว คนไทยจะให้ความสำคัญกับคำแนะนำจากครอบครัว (41%) และโฆษณาจากสื่อต่าง ๆ (38%) มากที่สุด
คนไทยยังคงนิยมการรับประทานอาหารนอกบ้าน
การรับประทานอาหารนอกบ้านยังคงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ตอบแบบสอบถามคนไทย โดยมี 73% ระบุว่ารับประทานอาหารนอกบ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง 56% ของคนไทยที่ตอบแบบสำรวจระบุว่ารับประทานอาหารนอกบ้านบ่อยครั้งขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 โดยเกือบ 8 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถามมักออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านกับครอบครัว
เมื่อมองหาร้านอาหารที่จองได้ยาก เคล็ดลับที่ผู้ตอบแบบสอบถามคนไทยนิยมใช้มากที่สุด (45%) คือการเลือกรับประทานในช่วงเวลาที่คนไม่เยอะ โดย 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) และเจนเนอเรชันแซด (Gen Z) ระบุว่าเคยใช้บริการ Concierge ของบัตรเครดิตในการช่วยจองร้านอาหาร นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่าคนไทยนิยมสรรหาสิทธิพิเศษต่าง ๆ โดย 8 ใน 10 คนมองหาร้านอาหารที่มอบโปรโมชันพิเศษในการเลือกร้านอาหาร
พร้อม สิริสันต์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย กล่าวว่า “การรับประทานอาหารนอกบ้านกับครอบครัวและเพื่อนฝูงเป็นกิจกรรมที่คนไทยให้ความนิยมเป็นอย่างมาก เราจึงต้องการมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าและพิเศษสุดให้แก่พวกเขา โดยเราได้ร่วมมือกับโรงแรมและร้านอาหารชั้นนำหลายแห่งในประเทศไทยรวมถึงแสวงหาความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอเอกสิทธิ์ที่ครอบคลุมและทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับสมาชิกบัตรของเรา”
สมาชิกบัตรแพลทินัมอเมริกัน เอ็กซ์เพรส สามารถรับเครดิตเงินคืนสำหรับการรับประทานอาหารมูลค่า 14,000 บาทเมื่อรับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารที่ร่วมรายการทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังจะได้รับสิทธิประโยชน์ “1 for 1” สำหรับ Sunday Brunch ที่หลากหลายห้องอาหารในโรงแรมชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ อาทิ โรงแรม คาเพลลากรุงเทพ โรงแรม สยาม เคมปินสกี้ โรงแรม พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก และ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ นอกจากนี้สมาชิกผู้ถือบัตรยังสามารถใช้บริการ Platinum Concierge Service ในการจองที่นั่งล่วงหน้าได้อีกด้วย
คนไทยเป็นผู้บริโภคที่ใส่ใจในการเลือกซื้อสินค้าลักซ์ชัวรี่
เมื่อเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ไฮเอนด์ สิ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถามคนไทยให้ความสำคัญมากที่สุดคือคุณภาพและฝีมือการผลิตของสินค้านั้นๆ (86%) รองลงมาคือการที่แบรนด์นั้นสอดคล้องกับค่านิยมของตน (80%) ประมาณ 4 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบคนไทยจะเลือกใช้จ่ายเงินกับแบรนด์พรีเมียมที่มีคุณภาพคงทนกว่าแบรนด์แฟชั่นราคาประหยัด
“แบรนด์ไฮเอนด์มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และชื่อเสียงในด้านคุณภาพและฝีมือการผลิตผลสำรวจของเราเผยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในทุกรุ่นเราเห็นแนวโน้มเดียวกันนี้จากสมาชิกบัตรของเรา และเรามุ่งมั่นที่จะขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์แบรนด์ไฮเอนด์ของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบประสบการณ์และสิทธิประโยชน์พิเศษให้แก่สมาชิกของเรา” คุณพร้อมกล่าวเสริม
อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ได้ร่วมมือกับแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลกมากมาย เพื่อจัดกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ให้กับสมาชิกบัตรแพลทินัม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงสินค้าคอลเลกชันใหม่ก่อนใคร ข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ รวมถึงเคล็ดลับคำแนะนำจาก ผู้เชี่ยวชาญในวงการแฟชั่น
จากการสำรวจพบว่า 82% ของผู้ตอบแบบสอบถามซื้อสินค้าลักซ์ชัวรี่อย่างน้อยปีละครั้ง โดยสินค้าไฮเอนด์ที่ผู้หญิงนิยมซื้อมากที่สุดคือรองเท้า (58%) และกระเป๋าถือ (57%) ในขณะที่กลุ่มผู้ชายให้ความสนใจสินค้าไฮเอนด์ประเภทนาฬิกา (64%) และรองเท้า (54%)
*เกี่ยวกับการสำรวจของอเมริกัน เอ็กซ์เพรส เรื่องแนวโน้มการท่องเที่ยว การรับประทานอาหาร และไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมสำหรับประเทศไทย
การสำรวจเกี่ยวกับแนวโน้มการท่องเที่ยว การรับประทานอาหาร และไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และดำเนินการโดยบริษัท Kantar ข้อมูลในรายงานฉบับนี้มาจากการสำรวจกลุ่มผู้อยู่อาศัยในประเทศไทย จำนวน 363 คน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 140,000 บาท ผู้ตอบแบบสอบถามได้รับการคัดเลือกจากเครือข่ายผู้เข้าร่วมสำรวจของ Kantar การสัมภาษณ์ทั้งหมดดำเนินการในรูปแบบแบบสอบถามออนไลน์ระหว่างวันที่ 2 ถึง 16 พฤษภาคม 2567