บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (SET: SHR) ผู้นำด้านธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทระดับนานาชาติในเครือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (SET: S) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับนานาชาติ โชว์ผลกำไรจากการดำเนินงานหลักในไตรมาส 3 ปี 2567 เติบโตขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 307.6 ล้านบาท สะท้อนถึงศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจหลัก (Core Operations) ที่โดดเด่น รับแรงหนุนจากกระแสการท่องเที่ยวทั่วโลกที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงแรมในฟิจิที่มียอดจองเต็มเกือบตลอดทั้งไตรมาส รวมไปถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพห้องพักและการให้บริการ ซึ่งผลักดันให้ ADR เฉลี่ยทั้งพอร์ทเติบโตขึ้น 11% จากไตรมาส 3 ของปีก่อน
แม้ว่าในไตรมาสนี้ บริษัทฯ จะเผชิญกับปัจจัยท้าทายในระยะสั้น อาทิ ผลการดำเนินงานที่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายในช่วงปีแรกของการเปิดให้บริการโรงแรม SO/ Maldives รวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เล็งเห็นถึงสัญญาณเชิงบวกอย่างชัดเจนในธุรกิจหลัก (Core Operations) โดยมีรายได้จากการให้บริการสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7,745.6 ล้านบาท และสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ผลกำไรจากการดำเนินงานหลักเติบโตขึ้นกว่า 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 947.2 ล้านบาท
ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งของบริษัทฯพร้อมกับได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งยังเป็นผลมาจากความสำเร็จของการดำเนินกลยุทธ์ธุรกิจที่รอบคอบและหลากหลาย โดยเฉพาะกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกที่สามารถสร้างฐานลูกค้าที่มีความแข็งแกร่งและสมดุลมากขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์หลักอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของแขก ผู้เข้าพัก
อีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญของบริษัทฯ คือการได้รับรางวัลสาขา Business Excellence รางวัลนักลงทุนสัมพันธ์ดีเด่น หรือ Outstanding Investor Relations ในงาน “SET Awards 2024” เป็นครั้งที่ 3 และต่อเนื่องเป็นที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้รับผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2567 ในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ยั่งยืน มีธรรมาภิบาลและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาวเพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายไมเคิล เดวิด มาร์แชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “ผลประกอบการในไตรมาสนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพของบริษัทฯโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) กว่า 36% ของโรงแรม Outrigger ในฟิจิและความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดใหม่ๆเพื่อเข้ามาเติมเต็มศักยภาพในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของโรงแรมในโครงการ CROSSROADSMaldives รวมไปถึงแผนการลดต้นทุนทางการเงินที่เริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในไตรมาสนี้ ความสำเร็จดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนาศักยภาพในการทำไรให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการต่อยอดการเติบโตในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า”
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2567 ของบริษัทฯส่งสัญญาณเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีแนวโน้มสดใสในปี2568โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นของโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ ศักยภาพในการปรับราคาห้องพักสูงขึ้นและจำนวนห้องพักพร้อมให้บริการที่เพิ่มขึ้นของโรงแรมทรายลากูน่าภูเก็ต ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนดการเดิมและการตัดสินใจเลื่อนแผนปรับปรุงโรงแรมทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ไปเป็นปี 2569 เพื่อให้สามารถสร้างรายได้อย่างเต็มศักยภาพ ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทฯยังมุ่งมั่นในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงคาดการณ์ว่ารายได้และกำไรของบริษัทฯในปี 2568 จะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
“ปี2568นับเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลลัพธ์ที่สำคัญสำหรับ SHRหลังจากที่ได้ทุ่มเทพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์หลักมาอย่างต่อเนื่องตลอด3ปีที่ผ่านมาโดยเราจะมุ่งเน้นไปที่การบริหาร RevPAR ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาวะตลาดควบคู่ไปกับการส่งมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่แขกผู้เข้าพัก เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถสร้างผลกำไรที่เติบ โตอย่างยั่งยืนให้แก่พอร์ทโฟลิโอของเราได้อย่างเต็มที่” นายไมเคิล กล่าวปิดท้าย