‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ สยายปีกบุกภูมิภาคเอเชียใต้ เจาะตลาดอินเดีย ผนึกบิ๊กพาร์ทเนอร์ ‘Creaticity’ สู่เดสทิเนชันเฟอร์นิเจอร์-ของแต่งบ้าน ปักธงเมืองปุเณ รองรับเศรษฐกิจขนาดใหญ่ TOP 5 ของโลก

บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM กางแผนบุกตลาดต่างประเทศภูมิภาคเอเชียใต้ เจาะตลาดอินเดีย  ผนึกบิ๊ก  พาร์ทเนอร์ ‘Creaticity’ ปักธงให้บริการศูนย์การค้าแหล่งรวมสินค้าไลฟ์สไตล์ครบวงจรรวมแบรนด์ดังที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปุเณ ประเทศอินเดีย รองรับเมืองเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก พร้อมตอบรับการขยายตัวของกลุ่มชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อและขยายตัวสูงขึ้น หลังดีมานด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านพุ่งสูง เตรียมเปิดบริการแห่งแรกไตรมาส 4 นี้ พร้อมวางแผนขยายสาขา 3 แห่งภายใน 5 ปีข้างหน้า วางเป้าหมายผลักดันรายได้การจัดจำหน่ายต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน ของตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เรายังคงวางแผนขยายการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำสินค้าไลฟ์สไตล์เรื่องบ้านที่สมบูรณ์แบบ ครอบคลุมสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของใช้และของตกแต่งบ้าน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตภายในบ้าน โดยปีนี้ บริษัทฯ วางแผนขยายธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม เมียนมาร์ โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียใต้ ประเทศอินเดีย ที่เราต้องการเข้าไปทำตลาดเนื่องจากเป็นประเทศที่น่าจับตา จากปัจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จากฐานตัวเลขพบว่าการขยายตัวของธุรกิจในประเทศและอัตราการบริโภคภายในประเทศ มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 10%  ต่อปี ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อินเดียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐฯ จีน เยอรมัน และญี่ปุ่น และคาดการณ์ว่า GDP อินเดียจะเติบโตราว 6.5-7% ในปีงบประมาณ 2567-2568 สะท้อนถึงศักยภาพและความมั่นคงของเศรษฐกิจอินเดีย (ข้อมูลโดย: ศูนย์วิจัยกสิกรไทยและกระทรวงการคลัง อินเดีย)

ล่าสุดบริษัทฯ เตรียมเปิดตลาดในประเทศอินเดีย โดยผนึกความร่วมมือกับ ‘Creaticity’ กลุ่มธุรกิจค้าปลีกรวมสินค้าไลฟ์สไตล์ครบวงจร มานานกว่า 16 ปี รวมถึงเป็นเดสทิเนชันไลฟ์สไตล์เรื่องบ้านที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปุเณ (Pune) ประเทศอินเดีย โดย อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้ให้สิทธิ์แฟรนไชส์การนำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน ทั้งนี้ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ประเทศอินเดีย จะเปิดให้บริการ ณ ศูนย์การค้า Creaticity เมืองปุเณ (Pune) ไตรมาส 4/2567 บนพื้นที่ราว 3,200 ตร.ม. พร้อมสร้างปรากฏการณ์ช้อปปิ้งเรียบง่ายทันสมัยกับดีไซน์สไตล์โมเดิร์น โดยจัดวางเลย์เอ้าท์เน้นความโปร่งโล่งสบายตา เพื่อง่ายต่อการเลือกช้อปสินค้า พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านด้วยดิสเพลย์ห้องเสมือนจริง โดยแบ่งสัดส่วนสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์ แบรนด์ Index Furniture, Winner Furniture, Furinbox และสินค้า HDI (ของใช้และของแต่งบ้าน) แบรนด์ Index Home อยู่ที่ 55 : 45 ดังนี้ เฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนั่งเล่น ได้แก่ โซฟา อาร์มแชร์ โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี , เฟอร์นิเจอร์ห้องนอน เช่น เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะแป้ง, ชุดโต๊ะอาหาร, ออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ+เก้าอี้+ตู้จัดเก็บ โดยสินค้าสามารถแมทช์ฟังก์ชันและดีไซน์หลากสไตล์ ทั้งโมเดิร์น, มินิมอล, สไตล์ร่วมสมัยแบบดั้งเดิมภายใต้ความเข้าใจทางวัฒนธรรมของชาวอินเดีย เข้ากันอย่างลงตัวกับทุกสเปซ เหมาะกับทุกที่อยู่อาศัยทั้งบ้าน คอนโดมิเนียม ออฟฟิศ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีบริการออกแบบห้องเสมือนจริงจากดีไซน์เนอร์มืออาชีพ เพื่อรองรับเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยมองโอกาสที่กลุ่มเป้าหมายครอบครัวระดับชนชั้นกลาง-ระดับบน (คนเมือง) กลุ่มคนรุ่นใหม่-วัยทำงานที่มีการขยายฐานมากขึ้น และยังมีกำลังซื้อมากขึ้นตามลำดับ โดยได้เตรียมความพร้อมด้านสินค้าที่หลากหลายครบทุกสไตล์ ทั้งนี้วางเป้าหมายภายใน 5 ปี (2567-2571) จะขยายสาขาราว 3 แห่ง โดยมองความเป็นไปได้ในการขยายไปสู่เมืองบังกาลอร์ (Bangalore) เมืองทางตอนใต้ของอินเดียที่มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจและประชาชากร

นางสาวกฤษชนก กล่าวว่า ความร่วมมือกันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์การเติบโตของ ILM รวมถึงเป็นการเปิดประตูสู่การแข่งขันในตลาดต่างประเทศ อย่างประเทศอินเดียที่มีศักยภาพสูงและเติบโตอย่างรวดเร็ว ถือเป็นที่จับตามองในเวทีเศรษฐกิจโลก อีกทั้งสินค้าของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Creaticity ที่ต้องการนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์เรื่องบ้านแบรนด์ดังเข้ามาจำหน่าย และยังเป็นการเสริมพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวกับบ้านอีกด้วย ด้วยความร่วมมือของทั้งสองบริษัท จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตไปพร้อมกัน และจะเป็นการช่วยสนับสนุน Creaticity ให้เป็นที่ยอมรับในฐานะธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาตรฐานและดีไซน์เป็นเลิศ เพื่อก้าวสู่จุดหมายใหม่แห่งการช้อปสินค้าเรื่องบ้านในประเทศอินเดีย

“ปัจจุบัน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้ขยายธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ด้วยการมอบสิทธิ์แฟรนไชส์ให้กับพันธมิตรชั้นนำไปแล้ว 6 ประเทศ รวม 15 สาขา ได้แก่ เวียดนาม, เมียนมาร์, ลาว, กัมพูชา, เนปาล, มัลดีฟส์ และล่าสุดอินเดีย เป็นประเทศที่ 7 โดย ILM นำความแข็งแกร่งในฐานะการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า รวมถึงความโดดเด่นด้านการออกแบบสินค้าที่ทันสมัยหลากสไตล์ สามารถตอบโจทย์ฟังก์ชันและดีไซน์ครบครัน ทั้งกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของแต่งบ้าน สามารถช้อปได้ครบจบในที่เดียว ภายใต้คุณภาพและความคุ้มค่า โดยนำศักยภาพการมีโรงงานเป็นของตนเอง ทำให้ควบคุมวัสดุ คุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับสากล ในราคาที่สามารถแข่งขันได้ ส่งผลให้พันธมิตรทางธุรกิจและลูกค้ามั่นใจได้ว่าสินค้าแบรนด์ ILM เป็นสินค้าที่ดีมีคุณภาพ ดีไซน์สวยงาม และมีความคงทน โดยคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง” นางสาวกฤษชนก กล่าว

Dr. Mahesh M, CEO of Creaticity ประเทศอินเดีย กล่าวว่า “การร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เป็นผู้นำร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านอันดับ 1 ของประเทศไทย ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 34% ของค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ ปัจจุบันมีทั้งหมด 33 สาขา โดยมีผู้ประสบการณ์และดำเนินธุรกิจมากว่า 5 ทศวรรษ ILM จะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมาย Creaticity นำเสนอเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มีคุณภาพสูง สไตล์โดดเด่น และใช้งานได้จริง ที่สะท้อนรสนิยมและความชอบของลูกค้าชาวอินเดีย เราเชื่อว่าการผสมผสานเทรนด์โลกกับความอ่อนไหวของชาวเอเชียจะสร้างเสน่ห์ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในอินเดียได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่ม และมีแผนที่จะเปิดตัวอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาอื่นๆ เพิ่มเติมบนทำเลที่มีศักยภาพต่อไปในอนาคต”

แนวโน้มตลาดเฟอร์นิเจอร์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นภูมิภาคที่ครองส่วนแบ่งตลาดเฟอร์นิเจอร์โลกถึง 41% ในปีที่ผ่านมา สำหรับ Creaticity ศูนย์กลางค้าที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านตกแต่งบ้านใหญ่ที่สุดของอินเดีย มีแบรนด์สินค้าภายในบ้านมากกว่า 100 แบรนด์ ทั้งในระดับภูมิภาค ประเทศ และของโลก สำหรับตลาดเฟอร์นิเจอร์ในประเทศอินเดีย ยังมีศักยภาพและเติบโตอีกมาก เนื่องจากมีจำนวนประชากรที่มากกว่า 1,400 ล้านคน และด้วยการเติบโตของชนชั้นกลางที่มีกำลังการซื้อที่ดี ซึ่งมีการขยายตัวของกลุ่มวัยทำงานอายุโดยเฉลี่ย 28 ปี มีการศึกษาและทักษะที่ดี ตลอดจนแนวโน้มของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญมีพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและคุ้มราคา