บล.เกียรตินาคินภัทร ชี้นโยบายทรัมป์สะเทือนเศรษฐกิจโลก แนะตราสารหนี้โดดเด่นสร้างรายได้ในยุคดอกเบี้ยขาลง

ในงานสัมมนา “The New Appeal of Fixed Income: Why It’s Hotter Than Ever?” ที่จัดโดยบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญจาก บล.เกียรตินาคินภัทร และ Neuberger Berman Group LLC บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำจากสหรัฐฯ ได้ร่วมกันให้มุมมองถึงผลกระทบของนโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ต่อเศรษฐกิจโลก พร้อมเจาะลึกแนวโน้มดอกเบี้ยที่กำลังลดลงทั่วโลก โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของตราสารหนี้ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์เด่นที่นักลงทุนควรพิจารณาในปีหน้า ท่ามกลางสภาวะความไม่แน่นอนที่ยังคงปกคลุมเศรษฐกิจ

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บล.เกียรตินาคินภัทร ได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบจากการกลับมาในอำนาจของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และพรรค Republican ครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาว่านโยบายการค้า นโยบายการต่างประเทศ นโยบายพลังงาน นโยบายการคลัง และความมั่นคง จะเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก และสร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลก ทั้งด้านการค้า การลงทุน แนวโน้มเศรษฐกิจ ทิศทางอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยน นักลงทุนจึงต้องติดตามสถานการณ์ และประเมินผลกระทบต่อการลงทุนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะนโยบาย 100 วันแรกหลังรับตำแหน่ง เช่น นโยบายภาษี นโยบายการค้า และแนวทางการดำเนินการกับผู้อพยพ

ในขณะที่ ดร.ณชา อนันต์โชติกุล หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ KKP Research บล.เกียรตินาคินภัทร  คาดว่าเงินบาทจะผันผวนมากขึ้นจากปัจจัยภายนอกที่มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น โดยเฉพาะจากนโยบายของทรัมป์   และแนวทางการตอบโต้ของจีน ขณะที่ในระยะยาวค่าเงินบาทจะเผชิญกับแรงกดดันด้านอ่อนจากความสามารถในการแข่งขันที่น้อยลงและดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีแนวโน้มเกินดุลลดลง อีกทั้งส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันค่าเงินบาทในระยะต่อไป แนะนำให้นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศ ทยอยแลกเงินในจังหวะที่ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งในระยะสั้น

ในยุทธศาสตร์ภาพใหญ่ ช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในภาวะที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน บล.เกียรตินาคินภัทรมองว่าการลงทุนในตราสารหนี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยนายทวีศักดิ์ เผ่าพัลลภ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บล.เกียรตินาคินภัทร ได้กล่าวว่าในระยะเวลาต่อไปนี้ ตราสารหนี้โลกเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนใน เพราะตราสารหนี้ในปัจจุบันมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง และตลาดเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยขาลง เพียงแต่ต้องระวังประเด็นหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูง และนโยบายของทรัมป์ซึ่งจะส่งผลต่อการขาดดุลทางการคลังเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น การลงทุนในตราสารหนี้ต้องมีกลยุทธ์การลงทุนที่ยืดหยุ่นสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนได้ทันในทุกสภาวะตลาด การเลือกลงทุนในตราสารหนี้ระดับ investment grade ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำและสามารถให้ผลตอบแทนที่มั่นคง แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน จึงเป็นกลยุทธ์ที่แนะนำ เนื่องจากตราสารหนี้คุณภาพดีสามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนของนโยบายของทรัมป์ได้ โดยเฉพาะตราสารหนี้ที่มีอายุตราสารเฉลี่ยไม่ยาวเกินไป หรือในกรอบ 3-5 ปี ถือเป็นจุดที่เหมาะสมในการลงทุน

นายณฤทธิ์ โกสาลาทิพย์ ประธานสายงานที่ปรึกษาการบริหารการลงทุนลูกค้าบุคคล บล.เกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า การลงทุนในตราสารหนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มั่นคงในภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยต่างๆ ในปี 2025 โดยเฉพาะการเลือกตราสารหนี้คุณภาพดีและใช้กลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักลงทุนไทยส่วนใหญ่อาจคุ้นเคยกับการลงทุนตราสารหนี้ผ่านการซื้อหุ้นกู้และถือจนครบกำหนดอายุ หรือกองทุนตราสารหนี้ไทย แต่การขยายเงินลงทุนไปยังตราสารหนี้โลกนับเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้นักลงทุนเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เบื้องต้นอาจจะดูซับซ้อนและต้องติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบหลากหลายจนนักลงทุนบางท่านลังเล แต่ด้วยการกระจายการลงทุนผ่านกลยุทธ์และพอร์ตที่ได้รับการจัดการอย่างดี นักลงทุนก็จะสามารถเข้าถึงประโยชน์ของสินทรัพย์นี้ได้ โดยเฉพาะในภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้ KKP จึงได้นำเสนอ Neuberger Berman หนึ่งในผู้นำด้านการบริหารการลงทุนในตราสารหนี้ระดับโลก เพื่อเป็นตัวช่วยสร้างโอกาสการลงทุนที่มั่นคงและตอบโจทย์ให้กับนักลงทุนไทยในระยะยาว

ทั้งนี้ ในช่วงสุดท้ายของงาน นักลงทุนได้รับฟังมุมมองและกลยุทธ์การลงทุนจาก Neuberger Berman บริษัทจัดการกองทุนจากสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 85 ปี และมีความเชี่ยวชาญมากกว่า 40 ปีในด้านตราสารหนี้ โดยได้รับการยอมรับจากนักลงทุนสถาบันทั่วโลก เนื่องจากความสามารถในการบริหารจัดการทรัพย์สินให้ได้ผลตอบแทนที่น่าประทับใจในทุกสภาวะตลาด และโดดเด่นในเรื่องการบริหารกลยุทธ์ด้านตราสารหนี้ที่ครอบคลุมหลากหลาย ตั้งแต่ High Yield, Emerging Market Debt, Securitized ไปจนถึง Investment Grade โดยกลยุทธ์หลักที่บริษัทนำเสนอนั้นได้รับการจัดอันดับอยู่ใน 1st Quartile จากข้อมูลของ eVestment ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จในการสร้างผลตอบแทนในระดับสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดเดียวกัน