• บริษัทในประเทศไทยเผชิญความเป็นจริงเรื่องความพร้อมด้าน AI โดยพบว่ามีเพียง 21% เท่านั้นที่มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการใช้ประโยชน์จาก AI ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 20% ในปีที่ผ่านมา
• องค์กรต่างๆ ลงทุนด้าน AI อย่างหนัก โดยบริษัทมากกว่าครึ่งจัดสรรงบประมาณไอที 10-30% ในการนำ AI มาใช้ แต่ผลตอบแทนยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
• บริษัทต่างๆ กำลังเผชิญกับความเร่งด่วนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้โดย 62% ระบุว่ามีเวลาเพียง “หนึ่งปี” ในการวางกลยุทธ์ด้าน AI ให้ถูกต้องมิฉะนั้นอาจได้รับผลกระทบในเชิงลบ
ซิสโก้ (Cisco) ผู้นำระดับโลกด้านเครือข่ายและความปลอดภัยเปิดเผย ‘ผลการศึกษาจากดัชนีความพร้อมด้าน AI ประจำปี 2024’ (Cisco 2024 AI Readiness Index) พบว่าองค์กรในประเทศไทยเพียง 21% เท่านั้นที่มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้งานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 20% ในปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่บริษัทต่างๆกำลังเผชิญในการนำ AI มาใช้ติดตั้งและใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เมื่อพิจารณาถึงการพัฒนาของตลาดที่รวดเร็วและผลกระทบสำคัญที่คาดว่า AI จะมีต่อการดำเนินธุรกิจช่องว่างของความพร้อมนี้จึงเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง
ดัชนีนี้จัดทำขึ้นจากการสำรวจแบบ double-blind กับผู้บริหารระดับสูง 3,660 คนจากองค์กรที่มีพนักงาน 500 คนขึ้นไปครอบคลุม 14 ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกญี่ปุ่นและจีนโดยผู้บริหารเหล่านี้เป็นผู้รับผิดชอบการผสานและติดตั้ง AI ในองค์กรของตนโดยดัชนีความพร้อมด้าน AI วัดผลจาก 6 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ กลยุทธ์ โครงสร้างพื้นฐานข้อมูล การกำกับดูแล บุคลากร และวัฒนธรรมองค์กร
การดำเนินการด้วยความเร่งด่วน
AI ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ทางธุรกิจและบริษัทต่างๆ กำลังเผชิญกับความเร่งด่วนที่เพิ่มขึ้นในการนำ AI มาใช้ สำหรับประเทศไทยบริษัททั้งหมด (100%) รายงานว่ามีความเร่งด่วนในการนำ AI มาใช้เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมาโดยมีซีอีโอและทีมผู้บริหารเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก นอกจากนี้บริษัทต่างๆ ยังทุ่มเททรัพยากรจำนวนมากให้กับ AI โดย 53% จัดสรรงบประมาณด้านไอทีถึง 10-30% สำหรับการนำ AI มาใช้
แม้จะมีการลงทุนด้าน AI อย่างมากในด้านกลยุทธ์สำคัญ เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและการวิเคราะห์และจัดการข้อมูล แต่หลายบริษัทรายงานว่า “ผลตอบแทนจากการลงทุน”เหล่านี้ยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
นายวีระ อารีรัตนศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสโก้ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในขณะที่บริษัทต่างๆเร่งเดินหน้าสู่การใช้งาน AI สิ่งสำคัญคือต้องมีแนวทางการนำไปใช้ที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงความมุ่งมั่นด้าน AI เข้ากับความพร้อมขององค์กร ดัชนีความพร้อมด้าน AI ประจำปีนี้ชี้ให้เห็นว่า เพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ AI ได้อย่างเต็มที่บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องมี ‘โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัย’ ซึ่งสามารถรองรับความต้องการด้านประสิทธิภาพที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พร้อมด้วยมุมมองที่ชัดเจนเพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ และที่สำคัญไม่แพ้กันคือทั้งหมดนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจ และการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบเพื่อขับเคลื่อนอนาคตสำหรับทุกคน”
ผลการศึกษาที่สำคัญ
ความพร้อมด้าน AI หยุดนิ่งในหลายด้าน โดยพบว่า ‘โครงสร้างพื้นฐาน’ เป็นจุดที่น่ากังวล: บริษัทต่างๆ กำลังเผชิญความท้าทายด้านความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีช่องว่างในหลายด้าน ทั้งประสิทธิภาพการประมวลผล เครือข่ายศูนย์ข้อมูล และความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีเพียง33% ขององค์กรที่มี GPU ที่จำเป็นสำหรับรองรับความต้องการด้าน AI ทั้งในปัจจุบันและอนาคต และมีเพียง 47% ที่มีขีดความสามารถในการปกป้องข้อมูลในโมเดล AI ด้วยการเข้ารหัสแบบครบวงจร (end-to-end encryption) การตรวจสอบความปลอดภัย การเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องและการตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบทันที
บริษัทต่างๆ ลงทุนแล้ว แต่ผลลัพธ์ยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง: ในปีที่ผ่านมา AI เป็นรายจ่ายที่องค์กรในประเทศ ไทยให้ความสำคัญ โดย 53% จัดสรรงบประมาณด้านไอที 10-30% สำหรับโครงการด้าน AI โดยการลงทุนด้าน AI มุ่งเน้นใน 3 กลยุทธ์ที่สำคัญ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (59% ของบริษัทอยู่ในระดับการใช้งานเต็มรูปแบบ/ขั้นสูง) ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (45%) และการบริหารการตลาดและการขาย (43%) โดยผลลัพธ์หลัก 3 ประการที่องค์กรต้องการบรรลุ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ กระบวนการ การดำเนินงาน และความสามารถในการทำกำไร; ความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและรักษาความสามารถในการแข่งขัน; และการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าและพาร์ทเนอร์
แม้จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น แต่โดยเฉลี่ย 40% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่ายังไม่เห็นผลลัพธ์ หรือผลลัพธ์ที่ได้ต่ำกว่าที่คาดหวังไว้ ทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ การช่วยเหลือ หรือการทำงานอัตโนมัติของกระบวนการ หรือการดำเนินงานในปัจจุบัน
แรงกดดันที่ต่อเนื่องเพื่อความสำเร็จ: ผู้บริหารระดับสูงเพิ่มแรงกดดันและความเร่งด่วนในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ โดยกว่าครึ่ง (59%) รายงานว่า ซีอีโอและทีมผู้บริหารเป็นผู้ผลักดันการนำ AI มาใช้ ตามมาด้วยผู้บริหารระดับกลาง (49%) และคณะกรรมการบริษัท (44%) ในขณะที่เวลาเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจในประเทศไทยกำลังเร่งความพยายามและเพิ่มการลงทุนเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคและรับการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่น่าสนใจคือ หนึ่งในห้า (23%) ขององค์กรวางแผนที่จะจัดสรรงบประมาณด้านไอทีมากกว่า 40% สำหรับการลงทุนด้าน AI ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปัจจุบันที่มีเพียง 5% ของบริษัทที่จัดสรรงบประมาณในสัดส่วนใกล้เคียงกันให้กับ AI
บริษัทต่างๆ ตระหนักดีว่าต้องดำเนินการเพิ่มเพื่อให้มีความพร้อมในการใช้ประโยชน์จาก AI อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบว่า 57% ของบริษัทในประเทศไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับ การปรับปรุงความสามารถในการขยายระบบ ความยืดหยุ่น และการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทตระหนักถึงช่องว่างที่ต้องได้รับการแก้ไขเพื่อยกระดับความพร้อมด้าน AI โดยรวม
การจัดการช่องว่างด้านทักษะและบุคลากร
แม้จะมีความท้าทายเฉพาะในแต่ละด้าน แต่พบประเด็นปัญหาร่วมกันอย่างชัดเจน นั่นคือ “การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ” บริษัทต่างๆ ชี้ว่านี่คือความท้าทายอันดับต้นๆ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูล และการกำกับดูแล สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการมีผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการด้าน AI