• ศูนย์บริการดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสแห่งใหม่ตั้งอยู่ที่ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เสริมการเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยและทุกประเทศทั่วโลก
• มีระบบคัดแยกพัสดุความเร็วสูงถึง 900 ชิ้นต่อชั่วโมงในช่วงพีค
• อาคารสร้างด้วยโครงสร้างและระบบเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน ติดตั้งสมาร์ทมิเตอร์ ไฟ LED แผงโซล่าเซลล์และระบบชาร์จไฟสำหรับรถขนส่งไฟฟ้า
ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศเปิดศูนย์บริการแห่งใหม่แห่งที่ 15 ในประเทศไทยที่ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งมอบบริการขนส่งด่วนข้ามประเทศที่รวดเร็วและไว้วางใจได้ให้ลูกค้าผ่านเครือข่ายการขนส่งทางอากาศครอบคลุมทั่วโลกของดีเอชแอล
ศูนย์บริการดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส สาขาเทพารักษ์มีพื้นที่ปฏิบัติการ คลังสินค้าและสำนักงานรวม 2,462 ตารางเมตร นับเป็นหนึ่งในศูนย์บริการของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตำแหน่งที่ตั้งเชิงกลยุทธ์ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิช่วยย่นระยะเวลาขนส่งไปและจากศูนย์กระจายสินค้ากรุงเทพฯ (DHL Bangkok Hub) ซึ่งเป็นฮับระดับภูมิภาคสำหรับส่งออกและนำเข้าของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ด้วยเที่ยวบินขนส่งสินค้ารวมกว่า 85 เที่ยวบินในหนึ่งสัปดาห์ เชื่อมต่อประเทศไทยและ 220 ประเทศและเขตปกครองพิเศษทั่วโลก
มุ่งมั่นสนับสนุนการค้าโลกให้เติบโต
“การเปิดศูนย์บริการแห่งใหม่ของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสเป็นเครื่องยืนยันความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดนิ่งของเราในการพัฒนาความสามารถในการให้บริการและช่วยลูกค้าทั้งองค์กรขนาดใหญ่หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้สามารถส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยและทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว” คุณเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าว “ศูนย์บริการสาขาเทพารักษ์ไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งของเน็ตเวิร์คการขนส่งระหว่างประเทศของดีเอชแอล แต่ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนและนวัตกรรมโลจิสติกส์อีกด้วย”
ข้อมูลรายงานเรื่องการเชื่อมต่อระหว่างประเทศของดีเอชแอล (DHL Global Connectedness Track) ระบุว่าการค้าระหว่างประเทศยังคงเป็นเสาหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยในปี 2566 มูลค่าสินค้าและบริการทั้งหมดที่เกิดขึ้นคิดเป็นการซื้อขายข้ามประเทศ 21% ต่ำกว่าสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ที่ 22% เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสยังเห็นแนวโน้มการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นภายในเน็ตเวิร์คของดีเอชแอล โดยเฉพาะระหว่างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไปยังทวีปต่างๆ ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น 6% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2567 เทียบกับปี 2566
นอกจากเปิดศูนย์บริการสาขาเทพารักษ์แล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยยังได้ย้ายศูนย์บริการจากดอนเมือง กรุงเทพฯ มาที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รองรับการส่งออกและนำเข้าของกลุ่มลูกค้าองค์กร SME และลูกค้าทั่วไปในพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาศูนย์บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งมอบบริการขนส่งระหว่างประเทศตามความต้องการลูกค้ามากที่สุด
พัฒนาขีดความสามารถเพื่อตอบรับดีมานต์ที่เพิ่มขึ้น
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับบริษัทที่ต้องการกระจายฐานการผลิตและลดผลกระทบจากการหยุดชะงักด้านซัพพลายเชน ด้วยที่ตั้งของศูนย์บริการใหม่ที่อยู่ท่ามกลางเขตอุตสาหกรรมต่างๆ ศูนย์บริการดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เทพารักษ์จึงสามารถส่งมอบบริการโลจิสติกส์เพื่อสนับสนุนธุรกิจระหว่างประเทศให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิศาสตร์และการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ
ศูนย์บริการเทพารักษ์เพียบพร้อมด้วยเครื่องตรวจพัสดุระบบเอกซเรย์แบบดูอัลวิว ระบบคัดแยกและกระจายสินค้าที่ทันสมัย รองรับทั้งชิปเมนต์น้ำหนักเบาที่สามารถลำเลียงบนสายพานได้ (น้ำหนักต่ำกว่า 25 กิโลกรัม) และชิปเมนต์ขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก (มากกว่า 100 กิโลกรัม) โดยสามารถคัดแยกชิปเมนต์ได้สูงสุดกว่า 900 ชิปเมนต์ต่อชั่วโมงในช่วงพีค ศูนย์บริการเทพารักษ์ยังมีจุดให้บริการ (ServicePoint) สำหรับลูกค้าทั่วไปที่ต้องการส่งของไปต่างประเทศด้วยตัวเอง
ศูนย์บริการเทพารักษ์ให้บริการลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ เขตพระโขนงและเขตบางนา และลูกค้าที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรม รวมถึงเขตที่อยู่อาศัยในจังหวัดสมุทรปราการ ครอบคลุมอำเภอเมืองสมุทรปราการ เทพารักษ์ สำโรงเหนือ บางเมืองและบางปู
ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ยั่งยืน
การก่อสร้างศูนย์บริการเทพารักษ์เป็นไปตามกลยุทธ์ของดีเอชแอล กรุ๊ปที่สะท้อนความมุ่งมั่นในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ โดยอาคารได้รับการออกแบบให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ด้วยการติดตั้งระบบที่ส่งเสริมความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สมาร์ทมิเตอร์ ไฟ LED และแผงโซล่าเซลล์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ศูนย์บริการแห่งนี้ยังได้เตรียมสถานีชาร์จไฟเพื่อรองรับการนำรถขนส่งไฟฟ้ามาใช้ในอนาคตอีกด้วย
ปัจจุบัน ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสได้เปลี่ยนมาใช้รถขนส่งไฟฟ้ารวมแล้วมากกว่า 50 คัน คิดเป็น 21% ของจำนวนยานพาหนะทั้งหมดที่ใช้สำหรับขนส่งทั้งเฟิร์สและลาสไมล์ในประเทศไทย
ดีเอชแอล กรุ๊ปตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ให้ต่ำกว่า 29 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี 2573