‘LG Energy Solution’ ผู้ผลิตแบตรถอีวีเบอร์ 2 ของโลก เตรียมลดการลงทุน หลัง ‘ขาดทุน’ ในรอบ 3 ปี เนื่องจากตลาดเริ่มโตอืด

นับตั้งแต่การเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้ตลาดรถอีวีของสหรัฐฯ เริ่มระส่ำระสาย ส่งผลถึง LG Energy Solution เป็นบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเกาหลีใต้ต้องลดการลงทุนลง เพราะทิศทางที่เริ่มไม่สดใส

LG Energy Solution (LGES) ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตแบตรถอีวีรายใหญ่ อันดับ 2 ของโลก โดยลูกค้าหลักส่วนใหญ่จะเป็นค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากฝั่งตะวันตก อาทิ Tesla (เทสล่า), General Motors (เจนเนอรัล มอเตอร์ส) และ Volkswagen (โฟล์คสวาเกน)

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลูกค้าของ LGES ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นจากฝั่งตะวันตก ซึ่งเจอกับการแข่งขันที่รุนแรงจากจีน โดยเฉพาะค่าย General Motors ที่ลดลงในช่วงไตรมาส 4/2024 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนรายไตรมาสที่ 158 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,530 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 3 ปี 

แม้ว่าบริษัทคาดว่า ความต้องการจากลูกค้ารายใหญ่จะฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่สองเป็นต้นไป เนื่องจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ แต่การมาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะพิจารณา ยกเลิกเครดิตภาษีมูลค่า 7,500 ดอลลาร์ สำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ LGES มองว่าอาจส่งผลต่อการเติบโตของตลาด ส่งผลให้บริษัทประกาศ ลดการลงทุน 30% ในปีนี้

“การเปลี่ยนแปลงของภาษีและมาตรการสนับสนุนของสหรัฐฯ อาจทำให้การใช้พลังงานไฟฟ้าในระยะสั้นเริ่มชะลอตัวลง แต่เราเชื่อว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทิศทางของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ในอนาคต” ลี ชางซิล CFO ของ LG Energy Solution กล่าว

ในส่วนของการลดค่าใช้จ่าย บริษัทจะเน้นไปที่การใช้ประโยชน์จากการผลิตที่มีอยู่หรือที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ แทนที่จะสร้างโรงงานใหม่ในอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ 5%-10% ในปีนี้ ที่จะมาจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่ร่วมกับ Stellantis และ Honda (ฮอนด้า) ที่จะเริ่มการผลิตในอเมริกาเหนือในช่วงครึ่งหลังของปีนี้