AWC ปี 68 ลงทุนใหญ่ 2.2 หมื่นล้านบาท ผุด 9 โครงการไฮไลต์ เป้า 5 ปี สินทรัพย์แตะ 3 แสนล้าน

วัลลภา ไตรโสรัส แม่ทัพใหญ่ของ บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป หรือ AWC เจ้าของโครงการอสังหาฯ ดัง อาทิ เอเชียทีค, อาคารเอ็มไพร์, ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2567 บริษัทฯ ทำรายได้รวม 21,011 ล้านบาท เติบโต 10.5% (YoY) และกำไรสุทธินิวไฮ 5,850 ล้านบาท เติบโต 14.6% (YoY)

คีย์หลักการเติบโตมาจากธุรกิจโรงแรม ที่ทำอัตราเข้าพักเฉลี่ย 72% เติบโต 7% (YoY)

โดยรายได้เฉลี่ยต่อวัน (ADR) 5,873 บาทต่อคืน เติบโต 3.8% (YoY) ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) 4,200 บาทต่อคืน เติบโต 14.8% (YoY)

ปี 2568 เตรียมลงทุนใหญ่ 22,000 ล้านบาท จำนวน 9 โครงการไฮไลต์ ในธุรกิจโรงแรมและคอมเมอร์เชียล อาทิ

  • ซื้อกิจการ บริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด ย่านรัชดาฯ ครอบคลุม อาคารสำนักงานขนาด 45,792 ตารางเมตร และโรงแรมขนาด 407 ห้อง โดยพัฒนาเป็น “Jubilee Prestige Tower” แทน พลิกโฉมสู่อาคารสำนักงานไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ และโรงแรมหรูภายใต้แบรนด์ JW Marriott ที่บริหารงานโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดปี 2571 ใช้งบลงทุนมูลค่า 8,704 ล้านบาท
  • เปิดตัวโรงแรมใหม่อีกหลายแห่ง เช่น โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทยโครงการแรกของ AWC ในพัทยาซึ่งเปิดให้บริการแล้วในเดือนมกราคม 2568 ตามด้วยโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา โรงแรม แฟร์มอนท์ แบงคอก สุขุมวิท
  • โครงการ The Empire Wellness  เน้นสุขภาพ ประเดิมอาคาร “เอ็มไพร์”
  • โครงการ ลานนาทีค เดสทิเนชั่นเฟส 1 ณ จังหวัดเชียงใหม่
  • โครงการ Jurassic World: The Experience ณ โครงการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น รูปแบบสวนสนุกธีมพาร์ค

สำหรับเป้าหมายระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2568 – 2572) มี 3 ประการ ได้แก่

  • เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินดำเนินงาน 2 เท่า สู่ระดับ 300,000 ล้านบาท พร้อมขยายห้องพักรวมสู่ 12,000 ห้อง
  • สร้างผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) มากกว่า 15% จากการเร่งผลักดันศักยภาพของทรัพย์สินที่อยู่ในช่วงดำเนินงานเริ่มต้น (Ramp Up) ให้เข้าสู่ระดับการดำเนินงานปกติ (BAU)
  • เดินหน้าการเติบโตก้าวกระโดด มุ่งเน้นการสร้างจุดหมายปลายทางยั่งยืนระดับโลก ด้วยโครงการระดับแลนด์มาร์ก โดยร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก