เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยืนหยัดในความเป็นที่สุดแห่งศูนย์กลางแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ระดับไฮพรีเมียมลักชัวรี่ใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยการนำเสนอประสบการณ์อันเป็นเลิศในแบบฉบับ ACE FASHION & STYLE ที่ผสานความล้ำสมัยไว้อย่างลงตัวสถานที่ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่าผู้หลงใหลในแฟชั่นระดับโลกล่าสุด Hermès ได้เผยโฉมร้านใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงและขยายพื้นที่ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซีร้านแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในสี่ของ Hermès ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็น Duplex ที่ครบจบในที่เดียวที่รวบรวมทุกไลน์ผลิตภัณฑ์ของ Hermès ไว้ได้อย่างครบครันตั้งอยู่ภายในแลนด์มาร์กทางสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น โครงสร้างภายนอกที่โค้งมนทันสมัยของอาคาร สอดรับกับดีไซน์ของร้านที่นำเสนอความร่วมสมัยได้อย่างกลมกลืน พร้อมเผยความวิจิตรของผลิตภัณฑ์จาก 16 métiers อันเป็นเอกลักษณ์ของ Hermès
Hermès ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้รับแรงบันดาลใจจากความงามของโครงสร้างไม้ไผ่ในการสร้างสรรค์งานดีไซน์ร้านใหม่แห่งนี้ โทนสีที่งดงามและละเอียดอ่อนสะท้อนถึงเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมไทยดั้งเดิมของกรุงเทพฯ ผสานเข้ากับความสง่างามเหนือกาลเวลาของ Hermès ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เช่นเดียวกับความโดดเด่นของอาคารเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่ประดับประดาด้วยแผ่นโลหะกว่า 300,000 แผ่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากหลังคาอุโบสถแบบไทย สร้างความสอดคล้องระหว่างภายนอกและภายในได้อย่างน่าอัศจรรย์
ร้าน Hermès โฉมใหม่ นำเสนอประสบการณ์ลักชัวรีอันน่าดื่มด่ำบนพื้นที่สองชั้นที่กว้างขวางยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วย façade เมทัลสีแชมเปญบริเวณทางเข้าเชื้อเชิญด้วยความงดงามของกระเบื้องโมเสก Faubourg อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับพื้นที่ และเมื่อก้าวเข้าสู่ภายใน ท่านจะได้สัมผัสกับการเผยโฉมผลิตภัณฑ์ความงามที่ Hermès รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์อันมีระดับควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและน้ำหอม ภายในร้านยังมีโซนผ้าพันคอสำหรับสุภาพสตรีอยู่ใจกลางร้านรายล้อมด้วยแฟชั่นจิวเวลรี่ คอลเลกชันขี่ม้า ของใช้ภายในบ้าน และเครื่องหนัง ที่จัดวางอย่างประณีต สร้างบรรยากาศอันสงบและสุขุม บันไดหินขัดเชื่อมสู่ชั้นบนที่จัดแสดงเสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษและสตรี รองเท้า จิวเวลรี่ และนาฬิกาประดับตกแต่งด้วยผ้าสั่งทำพิเศษและลวดลายโค้งมนอันอ่อนช้อย
ร้านแห่งนี้ออกแบบโดย RDAI บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมจากฝรั่งเศสนำเสนอบรรยากาศผ่อนคลาย เรียบง่ายแต่น่าหลงใหล ภายใต้มุมมองโมเดิร์นที่ยังคงอัตลักษณ์ Hermès ผ่านรายละเอียดต่างๆ เช่น ม่านไม้ สีสันสดใส พรมช่างฝีมือท้องถิ่น สร้างเส้นทางการค้นพบที่น่าสนใจนำเสนอการเปลี่ยนผ่านระหว่างสถาปัตยกรรมและงานฝีมืออันประณีต
และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองธีม “Drawn to Craft” ของ Hermès ในปี 2025 Hermès เซ็นทรัล เอ็มบาสซีได้เผย Window Display เปี่ยมเอกลักษณ์ใหม่ผลงานดีไซน์ของ “ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์” ศิลปินร่วมสมัยชาวไทยชื่อดังผู้มีชื่อเสียงในการผสมผสานงานฝีมือไทยแบบดั้งเดิมเข้ากับศิลปะสมัยใหม่อย่างลงตัว โดยผลงานของเขาซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมท้องถิ่น เลือกผสมผสานความเชื่อเรื่องจิตและวิญญาณ ธรรมชาติ และประเด็นทางสังคมเข้าไว้ด้วยกัน บนเส้นทางที่หยั่งรากลึกอยู่ภายใต้ความประทับใจของเขาที่มีต่องานศิลปะผลงานที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาของธีรวัฒน์ สะท้อนถึงความงดงามล้ำค่าของวัฒนธรรมไทย ทั้งยังบอกเล่ามุมมองที่เป็นปัจจุบัน ทั้งในเรื่องเอกลักษณ์ สิ่งแวดล้อม และชุมชนได้อย่างกลมกลืน
สำหรับ Window Display นี้ ธีรวัฒน์ได้นำเสนอการตีความประเพณีและงานฝีมือของ Hermès ได้อย่างโดดเด่น โดยหยิบแรงบันดาลใจจากดีไซน์ของผ้าพันคออันเป็นเอกลักษณ์ของ Hermès มาตีความใหม่ได้อย่างน่าสนใจ อาทิ “Mon Petit Cheval Mexicain” ผลงานการออกแบบของ Wlodek Kaminski และ “Brides de Gala” ผลงานของ Hugo Grygkar โดยมุมมองของธีรวัฒน์นั้นมุ่งเน้นไปที่การเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับม้าซึ่งเป็นสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในรากฐานของ Hermès มาอย่างยาวนาน
ในส่วนของ “Mon Petit Cheval Mexican” ธีรวัฒน์ได้นำแรงบันดาลใจมาถ่ายทอดเป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่แสดงให้เห็นถึงทักษะการทำงานฝีมืออันยอดเยี่ยมตั้งแต่การวาดเส้นที่มากด้วยรายละเอียดไปจนถึงการทอผ้าอย่างพิถีพิถัน แต้มด้วยสัมผัสของมนุษย์ที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของผลงานต้นฉบับได้อย่างงดงาม
ด้วยความชื่นชอบผ้าพันคออันเป็นเอกลักษณ์ของ Hermès อย่าง “Brides de Gala” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากบังเหียนม้าในคอลเลกชั่นของสะสม Émile Hermès ธีรวัฒน์ทำให้ผ้าพันคอผืนนี้มีชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยการสร้างบังเหียนม้าในรูปแบบ 3 มิติสุดโดดเด่น โดยผสมผสานวัสดุต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มผิวสัมผัสและความล้ำลึกเข้ามา
การผสมผสานเสน่ห์ของภาพสเก็ตช์ที่วาดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติเข้ากับความแม่นยำของงานฝีมือชั้นสูง ทำให้ Window Display ทั้งหมดนี้กลายเป็นการตีความดีไซน์ดั้งเดิมของผ้าพันคอด้วยมุมมองใหม่ในรูปแบบที่สนุกสนาน ธีรวัฒน์นำงานของเขามาผสมผสานกับงานฝีมือท้องถิ่น ทั้งงานทอผ้าและงานปักโดยใช้ฟาง เส้นใยสับปะรด ผักตบชวาตากแห้ง ลูกปัดไม้ธรรมชาติ และหนังลูกวัวของ Hermès มาเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการสร้างสรรค์การออกแบบทั้งหมดนี้
นอกจากนี้ ผลงานศิลปะจากคอลเลกชันของสะสม Émile Hermès ไม่ว่าจะเป็น ประติมากรรมม้าสามมิติรังสรรค์จากโครงลวดโดย Marie Christophe ประติมากรชาวฝรั่งเศสภาพวาดแอ็บสแตร็กต์เรขาคณิตโดย Cécile Baillot-Jourdan ศิลปินชาวฝรั่งเศสรวมถึงภาพถ่ายขาวดำอันสง่างามของนักเต้น โดย Tadzio ช่างภาพชาวฝรั่งเศสได้ถูกนำมาจัดแสดงอย่างพิถีพิถัน สะท้อนความผูกพันของ Hermès ต่อธรรมชาติและศิลปะเสริมสร้างประสบการณ์การเดินทางแห่งสุนทรียะที่น่าจดจำให้ผู้มาเยือน
ขอเชิญทุกท่านร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในห้วงแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่งานฝีมือพร้อมขยายขอบเขตแห่งการสร้างสรรค์อันเหนือกาลเวลาอย่างต่อเนื่อง ณ ร้าน Hermès ชั้น G – ชั้น 1 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป