-
Copper Beyond Buffet เป็นร้านอาหารเจ้าของเดียวกันกับ The Sense ปิ่นเกล้า คอมมูนิตี้มอลล์ย่านปิ่นเกล้า มีความตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อดึงทราฟฟิกเข้าศูนย์ เริ่มเปิดตั้งแต่ปี 2559
-
ช่วงแรกขาดทุนติดกัน 8-9 เดือน จนปรับเมนูให้พรีเมียม มี 2 สาขา ล่าสุดมีลูกค้ารวม 480,000 คนต่อปี
-
ตั้งเป้าเป็น Best International Buffet in Southeast Asia พร้อมรายได้ 1,000 ล้านบาท
เริ่มจากร้านที่เป็นแมกเน็ตให้ห้างฯ
เชื่อได้ว่าใครที่เป็นสายกิน สายบุฟเฟต์ต้องเคยไปลิ้มลอง Copper Beyond Buffet อย่างแน่นอน ขึ้นชื่อว่าเป็นบุฟเฟต์ระดับพรีเมียม ใช้วัตถุดิบคุณภาพ ราคาก็สมความพรีเมียมในระดับหนึ่ง ตอนนี้ Copper ได้เดินทางมา 9 ปีแล้ว พร้อมการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
Copper มีจุดเริ่มต้นจากการที่ “สมศักดิ์ พินิจศักดิ์กุล” เจ้าของคอมมูนิตี้มอลล์ The Sense Pinklao ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 2557 อยากสร้างแมกเน็ตที่ดึงดูดลูกค้าให้เข้าศูนย์มากขึ้น เลยมีไอเดียสร้างร้านบุฟเฟต์ เริ่มฟอร์มทีมงานตั้งแต่ปี 2558 แล้วเปิดตัว Copper Beyond Buffet ในเดือนมีนาคม 2559
ด้วยความที่ครอบครัวชอบกินอาหารบุฟเฟต์โรงแรม และร้านอาหารญี่ปุ่น จึงตั้งใจปลุกปั้นร้านอาหารบุฟเฟต์ ที่รวมทั้งสองความชอบไว้ด้วยกัน พร้อมสร้างประสบการณ์พรีเมียมที่ฉีกกรอบจากร้านอาหารบุฟเฟต์ทั่วไปในตลาด พร้อมแก้ Pain Point ของกลุ่มลูกค้าในย่านปิ่นเกล้า ที่ยังไม่มีร้านอาหารบุฟเฟต์พรีเมียมเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค
ที่ใช้ชื่อว่า Copper เพราะ “พจนีย์ พินิจศักดิ์กุล” ลูกสาวของสมศักดิ์ ที่ปัจจุบันเป็น CEO คนใหม่ของ Copper เป็นคนหา Reference การสร้างร้าน การตกแต่งต่างๆ เน้นไปในโทนสีโรสโกลด์ สีคอปเปอร์ เพื่อให้ดูพรีเมียม แต่ยังเข้าถึงง่าย จึงเลือกใช้ชื่อคอปเปอร์
ในช่วงแรกยังเป็นช่วงที่ทดลองตลาด และจับทางผู้บริโภค วางจุดยืนเป็นบุฟเฟต์นานาชาติ ตั้งราคาเริ่มต้นที่ 678 บาท มีเพียง 40 กว่าเมนู ตอนนั้นขาดทุนติดกัน 8-9 เดือน มีลูกค้าเฉลี่ย 8,000-9,000 คนต่อเดือนเท่านั้น ขาดทุนหนักสุดที่เดือนละ 1 ล้าน แต่ตอนนั้นสมศักดิ์มองว่าขาดทุนไม่เป็นไร เพราะเป้าหมายหลักคือดึงทราฟฟิกเข้าศูนย์การค้า
แต่หลังจากนั้นได้ใช้เวลาในการสะสมบารมี เพิ่มเมนู หาวัตถุดิบที่ดีขึ้น ปรับราคาให้เหมาะกับเมนู เพิ่มความคุ้มค่า จนเริ่มมีการบอกต่อแบบปากต่อปาก และเริ่มมียูทูบเบอร์สายอาหารมารีวิวที่ร้าน จนมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด
- ปี 2561 มีลูกค้า 10,000-12,000 คน/เดือน
- ปี 2562 มีลูกค้า 15,000 คน/เดือน
และเมื่อปี 2567 ได้เปิดสาขาที่ 2 ที่ศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์ มีลูกค้ารวม 2 สาขาที่ 480,000 คน/ปี และมีรายได้ 800 ล้านบาท
ในปีนี้ พจนีย์ พินิจศักดิ์กุล ที่เป็นทายาทรุ่น 2 ได้รับตำแหน่ง CEO เต็มตัว ก่อนหน้านี้พจนีย์ดูในส่วนของดูแลพื้นที่เช่าใน The Sense Pinklao และเข้ามาช่วยดู Copper เมื่อปี 2566
Fine Dining ในราคาบุฟเฟต์
จากที่วางจุดยืนเป็นบุฟเฟต์นานาชาติในระดับพรีเมียม พร้อมมอบประสบการณ์ผ่านวัตถุดิบต่างๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนทานอาหาร Fine Dining ในแบบบุฟเฟต์ โดยที่ Copper มี 14 แพ็กเกจด้วยกัน ราคาเริ่มต้นที่ 1,999 บาท ไปจนถึง 3,999 บาท ใช้บริการได้ 2 ชั่วโมง ต่างกันที่เมนูอาหารพิเศษ
- Pack A – ราคา 1,999 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + เลือก 1 เมนูพิเศษ
- Pack B – ราคา 2,559 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + เลือก 2 เมนูพิเศษ
- Pack C – ราคา 3,339 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + เมนูเนื้อออสเตรเลียนวากิว เรนเจอร์ วัลเลย์ โทมาฮอคว์ MB9+ สำหรับ 2 ท่าน
- Pack C – ราคา 2,349 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + เมนูเนื้อออสเตรเลียนวากิว เรนเจอร์ วัลเลย์ โทมาฮอคว์ MB9+ สำหรับ 4 ท่าน
- Pack D – ราคา 2,299 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + เลือกเมนูพิเศษ จาก Michelin Star Executive ได้ 1 เมนู
- Pack E – ราคา 4,199 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + เลือกเมนูพิเศษ จาก Michelin Caviar Elite Experience ได้ 3 เมนู
- Pack F – ราคา 3,399 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + รับเซต Caviar Colony Russian Hybrid Beyond Experience Set (เซตคาเวียร์) สำหรับ 1 ท่าน
- Pack F – ราคา 2,350 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + รับเซต Caviar Colony Russian Hybrid Beyond Experience Set (เซตคาเวียร์) สำหรับ 2 ท่าน
- Pack H – ราคา 3,999 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + รับเมนูซี่โครงแกะนิวซีแลนด์ลูมิน่าอบสมุนไพร สำหรับ 2 ท่าน
- Pack G – ราคา 2,099 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + รับเมนูล็อบสเตอร์อบชีส + เซต Caviar Colony Russian Hybrid Beyond Experience สำหรับ 1 ท่าน
- Pack H – ราคา 2,499 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + รับเมนูล็อบสเตอร์อบชีส + เซต Caviar Colony Russian Hybrid Beyond Experience สำหรับ 2 ท่าน
- Pack I – ราคา 2,099 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + รับเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อริบอายวากิวญี่ปุ่น A5 (2 ชาม) สำหรับ 1 ท่าน
- Pack J – ราคา 2,099 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + เมนูออสเตรเลียนวากิว เรนเจอร์ วัลเลย์ เทนเดอร์ลอยน์ MB5+ บีฟเวลลิงตัน สำหรับ 2 ท่าน
- Pack K – ราคา 3,999 บาท/ท่าน บุฟเฟต์ไลน์นานาชาติ + เมนูล็อบสเตอร์ไม่อั้น
โดยลูกค้าต้องจองผ่านแพลตฟอร์ม Hungry Hub ก่อนเท่านั้น ไม่รับวอล์กอินที่หน้าร้าน โดยที่แพ็กเกจ A ราคา 1,999 บาทเป็นแพ็กที่ขายดีที่สุด ช่วงเดือนที่ยอดจองเยอะที่สุดเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม
9 ปี มี 2 สาขา แต่รายได้กำลังพันล้าน
ปัจจุบัน Copper มี 2 สาขาด้วยกัน สาขาแรกที่ The Sense Pinklao เปิดทำการเปิดปี 2559 มีพื้นที่รวม 2,300 ตารางเมตร มีที่นั่ง 400 ที่ ส่วนที่สาขาเกษรอัมรินทร์มีพื้นที่ 1,300 ตารางเมตร มีที่นั่ง 300 ที่
โดยภาพรวมมีอัตราการจองเฉลี่ย (Occupancy Rate) อยู่ที่ 70% เป็นสัดส่วนลูกค้าไทยอยู่ที่ 65% และลูกค้าชาวต่างชาติ 35% โดยที่สาขาเกษรอัมรินทร์มียอดจองเฉลี่ย 85% แต่ถ้าเป็นช่วงปลายเดือนจะเพิ่มขึ้นเป็น 95%
ถ้าถามว่าเปิดมา 9 ปี มี 2 สาขาน้อยไปหรือไม่ พจนีย์ให้คำตอบว่า
“ตอนแรกเปิด Copper เพื่อดึงทราฟฟิกเข้าศูนย์การค้า มองว่าเป็นธุรกิจครอบครัว ไม่อยากขยายไปไหน แต่เมื่อโตขึ้น เห็นแบรนด์ดิ้งที่สามารถขยายต่อได้ มีกลุ่มลูกค้า มองเห็นโอกาสในอนาคต พอดีกับที่เกษรอัมรินทร์กำลังรีโนเวต จึงเริ่มคุยกันตั้งแต่ปลายปี 65 เลยคิดว่าจะขยายสาขา 2 มองว่าเป็นแบรนด์ที่ต่อยอด เป็นการขยายสู่ธุรกิจ F&B เต็มตัวแบบจริงจัง มองไปถึงการแตกแบรนด์ทำสินค้าเมอร์เชนไดส์ และธุรกิจรับจัดเลี้ยงต่อไปด้วย”
ปิดปี 2567 มีรายได้รวม 800 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นที่สาขาเกษรอัมรินทร์ 65% และที่ปิ่นเกล้า 35% สามารถที่สาขาเกษรอัมรินทร์รายได้เยอะกว่าเพราะมีแพ็กเกจราคาที่แพงกว่านิดหน่อย มีเมนูที่พรีเมียมกว่า และมีลูกค้าชาวต่างชาติเยอะถึง 40%
ในปีนี้มองเป้าหมายในการมีรายได้ 1,000 ล้านบาท และมีฐานลูกค้า 500,000 คน/ปี และก้าวสู่การเป็น Best International Buffet in Southeast Asia ให้ได้