จากตำนานสู่เกม: “ศรีเทพ ผจญภัย” ปลุกมรดกโลกให้มีชีวิตในมือคุณ ผ่าโมเดลเกมมรดกวัฒนธรรมไปกับ คุณ “แซ็ค ศรุต”

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 วงการวัฒนธรรมไทยได้รับข่าวดีที่น่าภาคภูมิใจ เมื่อยูเนสโกประกาศให้เมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมลำดับที่ 7 ของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “The Ancient Town of Si Thep and its Associated Dvaravati Monuments”

นี่คือจุดเริ่มต้นของการถักทอตำนานอันเก่าแก่กว่าพันปีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
จากผืนดินทรงคุณค่า สู่การผจญภัยในโลกเสมือน

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 กรมศิลปากรได้เปิดตัวเกมมรดกวัฒนธรรม “ศรีเทพ ผจญภัย” ภายใต้โครงการเนรมิตพิพิธวัฒนธรรม SITHEP Cultural Metaverse ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกมรูปแบบใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากเมืองโบราณศรีเทพ สร้างประสบการณ์ด้านมรดกวัฒนธรรมในการสร้างสรรค์ Digital Content ที่นำมาถ่ายทอดผ่านเกม ให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ และเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 114 ปีแห่งการสถาปนากรมศิลปากร

แต่อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดเกมนี้?

คุณศรุต ทับลอย (แซ็ค) Game Director และ CEO บริษัท lumin drive ผู้สร้างเกมนี้เล่าว่า “ผมได้รับโจทย์จากกรมศิลปากรว่าอยากให้คนรุ่นใหม่รู้จักประวัติศาสตร์ของเรา โดยเฉพาะเมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์    ที่เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ผ่านสื่อที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น แอปพลิเคชันเกม แทนที่จะหลงใหลในประวัติศาสตร์ต่างชาติ เราควรภูมิใจในมรดกวัฒนธรรมของไทยที่ไม่แพ้ใคร”คำถามคือ จะทำอย่างไรให้เยาวชนรุ่นใหม่หันมาสนใจประวัติศาสตร์ที่ดูห่างไกลจากพวกเขา?

ความท้าทายของผู้สร้าง: ผสานความจริงกับจินตนาการ

คุณศรุตทุ่มเทเวลาหลายเดือนในการค้นคว้าข้อมูล ลงพื้นที่สำรวจ และทำ 3D Scan โบราณสถานและโบราณวัตถุ เพื่อให้สามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณของเมืองโบราณศรีเทพได้อย่างแท้จริง

“การสร้างเกมนี้ท้าทายมาก เรามีเวลาเพียง 6-7 เดือน และข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ก็ยังมีไม่มาก” คุณศรุตเล่า “เราต้องนำตำนานที่มีอยู่มาปรับให้เป็นเกมที่สนุก แต่ก็ต้องคงความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ไว้”

ความยากอีกประการคือ จะทำอย่างไรให้เรื่องราวที่ดูแห้งแล้งสำหรับเยาวชน กลายเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น?
ตัวละครที่สร้างสรรค์จากอดีต เชื่อมโยงสู่ปัจจุบัน

เกม “ศรีเทพ ผจญภัย” ได้สร้างตัวละครหลักที่น่าจดจำ:

1. นะโม – พระเอกของเรื่อง เป็นเด็กยุคใหม่ที่หลงยุคเข้าไปในเมืองโบราณศรีเทพ เปรียบเสมือนตัวแทนของผู้เล่นที่จะได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน

2. ฤๅษีตาไฟ – ผู้นำทางที่ต้องการความทรงจำและจิตวิญญาณของตนคืนมา เปรียบเสมือนปราชญ์ผู้ถ่ายทอดความรู้จากอดีตสู่อนาคต

3. บอสต่างๆ – พัฒนามาจากโบราณวัตถุจริง เช่น วานรศิลา คนแคระยักษ์แห่งโทสะ เจ้าเมืองศรีเทพและวัวโรคภัย ซึ่งเป็นกลไกให้ผู้เล่นได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านการเอาชนะด่านต่างๆ

การผสมผสานระหว่างตำนานดั้งเดิมกับแฟนตาซีร่วมสมัย ทำให้เกมนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัว

มากกว่าเกม คือการเชื่อมโยงโลกเสมือนสู่โลกจริง

ไฮไลท์สำคัญของเกมนี้คือการเชื่อมโยงโลกเสมือนกับโลกจริง ผู้เล่นต้องเดินทางไปที่เมืองโบราณศรีเทพจริงๆ เพื่อค้นหาและเก็บโบราณวัตถุให้ครบ

“นี่ไม่ใช่แค่การเล่นเกมเพื่อความสนุก แต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนได้สัมผัสประวัติศาสตร์ด้วยตัวเอง” คุณศรุตอธิบาย “เมื่อพวกเขาได้เห็นความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมไทยด้วยตาตัวเอง จะเกิดความภาคภูมิใจที่ไม่มีวันลืม”

นี่คือการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในรูปแบบใหม่ที่ทุกคนได้ประโยชน์:

• เยาวชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านความสนุก
• ชุมชนท้องถิ่นได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
• มรดกวัฒนธรรมไทยได้รับการอนุรักษ์และต่อยอด
Soft Power ที่ยั่งยืน: จากเกมสู่ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์

คุณศรุตมองการณ์ไกลว่า ตัวละครในเกมสามารถพัฒนาเป็นทรัพย์สินทางปัญญา (IP) เพื่อต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ของที่ระลึก, เสื้อยืด, Art Toy สร้างรายได้และอาชีพให้กับคนในชุมชน

“เราไม่ได้สร้างเกมเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างเครื่องมือที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมของไทย” คุณศรุตกล่าวอย่างมุ่งมั่น

มองไปข้างหน้า: เส้นทางสู่การอนุรักษ์มรดกไทยผ่านเทคโนโลยี

คุณศรุตมีวิสัยทัศน์ที่จะขยายแนวคิดนี้ไปยังแหล่งมรดกโลกและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งอื่นๆ ของไทย เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท, พระนครศรีอยุธยา, สุโขทัย, ศรีสัชนาลัย, กำแพงเพชร และแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง

“เกม ‘ศรีเทพ ผจญภัย’ เป็นเพียงจุดเริ่มต้น” คุณศรุตกล่าวทิ้งท้ายด้วยความหวัง “เราจะใช้พลังของเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ เป็นสะพานเชื่อมรุ่นต่อรุ่น ให้ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของไทยไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา”

ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดเกม “ศรีเทพ ผจญภัย” ได้ที่แอปพลิเคชัน Sithep Adventure บนสมาร์ทโฟนทั้งระบบ iOS และ Android หรือคอมพิวเตอร์ PC ที่เว็บไซต์กรมศิลปากร finearts.go.th