ตอนนี้ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ หรือที่หลายคนรู้จักเขาในนามของ ‘บอส’ ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของวงการนางงาม เพราะนอกจากจะเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของเวที ‘มิสแกรนด์’ ที่ทลายกรอบการประกวดนางงามแบบ เดิม ๆ ยังถือสิทธิ์เวทีการประกวด ‘มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์’ (MUT) ระยะเวลารวม 25 ปี
รวมถึงเตรียมขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ‘บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)’ หรือ JKN เจ้าของลิขสิทธิ์ Miss Universe (มิสยูนิเวิร์ส) ด้วยการซื้อหุ้น JKN จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่า 150 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับเป็นการเข้าผูกพันสถานะเจ้าของ Miss Universe ไปโดยปริยาย และปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง Executive Director or MUO บอร์ดบริหารองค์กรมิสยูนิเวิร์สอีกด้วย
ก่อนจะมาถึงจุดนี้ เส้นทางของณวัฒน์เป็นอย่างไร?
ณวัฒน์ เกิดและเติบโตที่ อ. ดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และเมื่อเรียนจบได้สมัครงานเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดของบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง ก่อนจะผันตัวมาเป็นไกด์นำเที่ยว และเปิดบริษัทนำเที่ยวของตัวเอง ในชื่อ ‘บริษัท โบอิ้ง ฮอลิเดย์ ทัวร์ แอนด์ ทราเวล จำกัด’
จากการทำธุรกิจทัวร์ ทำให้เขามีโอกาสก้าวเข้าสู่วงการโทรทัศน์ ด้วยการเปิด ‘บริษัท ฮอลิเดย์ เทเลวิชั่น จำกัด’ ผลิตรายการมากมาย อาทิ ก่อนถึงจันทร์, เปิดเมืองแปลก, คุยแหกโค้ง ฯลฯ และได้ทำหน้าที่พิธีกรหลายรายการ เช่น รายการเมืองแปลกในต่างแดน, รายการทูไนท์โชว์ และรายการครัวคุณต๋อย ฯลฯ
ขณะที่จุดเริ่มต้นบนเส้นทางนางงาม เริ่มเมื่อณวัฒน์เข้ามาอยู่ช่อง 3 และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการกองประกวด ‘มิสไทยแลนด์เวิลด์’ ตั้งแต่ปี 2550-2555 ซึ่งเมื่อหมดสัญญาเขาขอซื้อลิขสิทธิ์มาบริหารเอง แต่ได้รับการปฏิเสธ จึงตัดสินใจสร้างเวทีประกวดของด้วยตัวเอง นั่นก็คือ ‘มิสแกรนด์’ และตั้ง ‘บริษัท มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล จำกัด’ ขึ้นมาเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจจัดประกวดนางงามทั้งระดับในประเทศและระดับต่างประเทศ
เวทีแห่งนี้ ถือเป็นเวทีที่กล้าฉีกกรอบ ‘นางงาม’ แบบเดิมๆ โดยให้นางงามนำเสนอความสามารถ ความกล้าแสดงออก เป็นตัวของตัวเองแบบตรงไปตรงมา พร้อมสร้างเอกลักษณ์จนกลายเป็นไวรัลกับผ่านการแนะนำตัวเองและชื่อจังหวัดด้วยเสียงดัง ลากยาว แถมเปิดโอกาสให้เหล่านางงามแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นร้อนแรงทางสังคมและการเมืองได้บนเวทีถ่ายทอดสด
ไม่เพียงเท่านั้น ณวัฒน์ยังมีแนวคิดในการสร้าง ‘มูลค่า’ และ ‘เม็ดเงิน’ ให้มิสแกรนด์ไม่ใช่แค่ ‘เวทีนางงาม’ เท่านั้น ซึ่งเป้าหมายคือ การต่อยอดให้เวทีดังกล่าวสามารถหารายได้จากธุรกิจมากกว่าการประกวดและสปอนเซอร์ จึงดีไซน์ให้ภายใต้บริษัทมิสแกรนด์ฯ ทำธุรกิจหลากหลายแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1.ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Pageant), 2.ธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) อาทิ เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ, อาหารแปรรูป เป็นต้น 3.ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) และ 4.ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Talent)
หนึ่งความสำเร็จที่ชัดเจนจากเวทีมิสแกรนด์และฝีมือการปั้นของณวัฒน์ ก็คือ ‘อิงฟ้า วราหะ’ Miss Grand Thailand 2022 ที่นอกจากสวยยังมีความสามารถครบเครื่องไม่ว่าจะร้อง เต้น หรือการแสดง จนได้รับความนิยมกลายเป็นขวัญใจมหาชนมาถึงวันนี้
ด้วยความคิดที่จะต่อยอดธุรกิจให้เป็นมากกว่าเวทีประกวดนางงามแล้ว ณวัฒน์ได้นำบริษัทมิสแกรนด์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในชื่อ ‘บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)’ หรือ MGI เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ด้วยราคา 4.95 บาทต่อหุ้น มีหุ้นทั้งหมด 210 ล้านหุ้น ตีมูลค่า ณ ตอนนั้นอยู่ที่ราว 1,040 ล้านบาท
มาดูผลประกอบการของ MGI กันบ้าง
ปี 2565 มีรายได้รวม 319.86 ล้านบาท กำไร 47.85 ล้านบาท
ปี 2566 มีรายได้รวม 617.04 ล้านบาท กำไร 119.25 ล้านบาท
ปี 2567 มีรายได้รวม 746.82 ล้านบาท กำไร 121.12 ล้านบาท
เส้นทางบนสายธุรกิจนางงามของณวัตน์ถูกจับตามองอีกครั้ง เมื่อประกาศคว้าสิทธิ์ประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2568 – 2572 จาก JKN ของ ‘แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’ ด้วยเม็ดเงิน 180 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีข่าวคราวความขัดแย้งกันอยู่ (ต่อมา MGI แจ้งว่า ได้ถือครองสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์เพิ่มอีก 20 ปี รวมทั้งสิ้น 25 ปี)
และณวัฒน์ ยังเข้ารับตำแหน่ง Executive Director or MUO บอร์ดบริหารองค์กรมิสยูนิเวิร์ส หลังจากที่แอน-จักรพงษ์ และ JKN ถูก ‘สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์’ (ก.ล.ต.) ลงโทษทางแพ่งกรณีเผยแพร่ข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการขายธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล โดยปรับกว่า 4 ล้านบาท พร้อมห้ามแอน-จักรพงษ์ เป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 56 เดือน
นอกจากนี้ ณวัฒน์มักจะกล้าออกมาพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ของสังคมอย่างตรงไปตรง ทำให้เขาถูกพูดถึงเสมอ และด้วยความสามารถของณวัฒน์ นอกจากธุรกิจนางงามแล้ว เขายังนั่งเป็นกรรมการบริษัทและผู้บริหารบอร์ดในหลายบริษัท อาทิ กรรมการบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA, บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ฯลฯ