ก่อนหน้านี้ Sasha Luccioni หนึ่งใน 100 คนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกของ AI ที่จัดโดยนิตยสาร Time ของอเมริกา เคยออกมาเปิดเผยว่า การใช้งานเครื่องมือที่มี AI ใช้พลังงานกว่า Search engine ดั้งเดิม 30 เท่า และด้วยการเติบโตของ AI ทำให้ อีลอน มัสก์ มองว่าในช่วงกลางปีหน้า อุตสาหกรรมจะเจอปัญหาด้านพลังงาน
อีลอน มัสก์ (Elon Musk) กล่าวว่า การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์กำลังเผชิญข้อจำกัดหลัก 3 ข้อ ได้แก่ ชิป หม้อแปลงไฟฟ้า และการผลิตพลังงาน และภายในกลางปีหน้าการพัฒนา AI อาจประสบปัญหาด้านการผลิตพลังงาน เนื่องจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลัง data center ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
“เมื่อเราแก้ปัญหาการขาดแคลนหม้อแปลงไฟฟ้าแล้ว จะเกิดปัญหาการขาดแคลนการผลิตไฟฟ้าขั้นพื้นฐาน ผมคาดว่าผู้คนจะเริ่มประสบปัญหาด้านการผลิตพลังงานอาจจะราวกลางปีหน้า หรือปลายปีหน้า” มัสก์ กล่าว
เพื่อแก้ปัญหา xAI บริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI ของมัสก์จึงได้วางแผนสร้างโรงงานขนาดกิกะวัตต์นอกเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 6 – 9 เดือน ซึ่งขนาดหนึ่งกิกะวัตต์มีกำลังการผลิตเทียบเท่ากับ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์โดยเฉลี่ยในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ มัสก์เปิดเผยว่า จีนกำลังสร้างกำลังการผลิตพลังงานมากกว่าสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ ในวันที่ทั้ง 2 ประเทศกำลังช่วงชิงความได้เปรียบในเทคโนโลยี AI
“การผลิตพลังงานของจีนดูเหมือนจรวดที่กำลังเข้าสู่วงโคจร ส่วนการผลิตพลังงานของสหรัฐฯ เป็นเส้นตรงราบ”
ด้าน Google ได้ออกมาเตือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า สหรัฐฯ กำลังเผชิญวิกฤตกำลังการผลิตไฟฟ้า ทำให้ Google เริ่มศึกษาพลังงานนิวเคลียร์หลังจากตระหนักว่าพลังงานหมุนเวียนอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรในระบบไฟฟ้า ซึ่ง Google กำลังกังวลว่า อาจไม่มีกำลังการผลิตเพียงพอในระบบเพื่อจ่ายไฟให้ศูนย์ข้อมูลของเราในระยะสั้น และอาจจะในระยะยาวด้วย