ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ ไตรมาส 1 ปี 2568 พบว่า หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่ทั่วประเทศ จำนวน 65,276 หน่วย ลดลง 10.5% และมีมูลค่า 181,545 ล้านบาท ลดลง 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
หากจำแนกตามประเภทที่อยู่อาศัย พบว่า
- บ้าน มีหน่วยโอนฯ 43,462 หน่วย ลดลง 12.1% และมูลค่า 125,557 ล้านบาท ลดลง 13.9% (YoY)
- อาคารชุด มีหน่วยโอนฯ 21,814 หน่วย ลดลง 7.3% และมูลค่า 55,988 ล้านบาท ลดลง 11.1% (YoY)
“มีเพียงจังหวัดระยองและสุราษฎร์ธานี ที่ยังเติบโต 3.8% และ 6.2% ตามลำดับ สะท้อนการขึ้นมามีความสำคัญของทั้ง 2 จังหวัดในตลาดอสังหา”
สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของคนต่างชาติ ไตรมาส 1 ปี 2568 ก็หดตัว 2 ไตรมาส ติดต่อกัน
- ไตรมาส 4 ปี 2567 จำนวน 3,557 หน่วย ลดลง 5% และมีมูลค่า 16,778 ล้านบาท ลดลง 19.7% (YoY)
- ไตรมาส 1 ปี 2568 จำนวน 3,919 ลดลง 0.5% และมีมูลค่า 16,392 ล้านบาท ลดลง 9.0% (YoY)
10 สัญชาติ ที่มี “หน่วย” โอนกรรมสิทธิ์มากสุด ได้แก่
อันดับ 1 จีน 1,481 หน่วย (-7.2%)
อันดับ 2 เมียนมา 439 หน่วย (+12%)
อันดับ 3 รัสเซีย 288 หน่วย (-2.4%)
อันดับ 4 ไต้หวัน 197 หน่วย (+37.8%)
อันดับ 5 ฝรั่งเศส 158 หน่วย (+22.5%)
อันดับ 6 สหรัฐอเมริกา 147 หน่วย (-10.4%)
อันดับ 7 สหราชอาณาจักร 131 หน่วย (+21.3%)
อันดับ 8 เยอรมัน 115 หน่วย (-23.8%)
อันดับ 9 สิงคโปร์ 93 หน่วย (+63.2%)
อันดับ 10 ออสเตรเลีย 61 หน่วย (-26.5%)
ในด้าน 10 อันดับสัญชาติ ที่มี “มูลค่า” การโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด ได้แก่
อันดับ 1 จีน 6,117 ล้านบาท (-19.2%)
อันดับ 2 เมียนมา 1,587 ล้านบาท (-28.1%)
อันดับ 3 รัสเซีย 987 ล้านบาท (+6.9%)
อันดับ 4 ไต้หวัน 910 ล้านบาท (+33.9%)
อันดับ 5 สหรัฐอเมริกา 820 ล้านบาท (-10.7%)
อันดับ 6 สหราชอาณาจักร 744 ล้านบาท (+99.7%)
อันดับ 7 ฝรั่งเศส 612 ล้านบาท (+11.2%)
อันดับ 8 สิงคโปร์ 511 ล้านบาท (+52.5%)
อันดับ 9 เยอรมัน 407 ล้านบาท (-16.1%)
อันดับ 10 อินเดีย 373 ล้านบาท (+2.1%)
กมลภาพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการ REIC กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่มีการไล่จับนอมินีแบบจริงจัง โดย DSI จับทั้งต่างชาติและคนไทยที่ร่วมขบวนการ ทำให้ภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ต่างชาติลดลง
“ปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลให้ต่างชาติหันมาซื้อคอนโดแบบ Leasehold (สิทธิการเช่าในระยะ 30 ปี) เพราะคุ้มกว่าการโดนจับ”