ต้องยอมรับว่า ในเรื่องของ GenAI ตอนนี้เบอร์ 1 ก็คือ OpenAI และ Mark Zuckerberg ก็รู้สึกไม่โอเคที่ Meta ต้องตามหลัง ทำให้บริษัทยอมควักเงินกว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ได้ Scale AI มาช่วยปรับปรุงโมเดล Llama ของ Meta ให้แข่งขันได้มากขึ้น
อย่างที่รู้กันว่าในโลกของ AI ข้อมูล เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะ AI จะเรียนรู้จากข้อมูลที่เราป้อนให้ และบริษัทที่ทำหน้าที่คัดกรองข้อมูลก็คือ Scale AI ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดย Alexander Wang ที่ตอนนั้นมีอายุเพียง 19 ปี
โดย Scale AI ให้บริการด้าน Data Labeling หรือ การติดป้ายระบุประเภทให้กับข้อมูลดิบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์หรือระบบ AI เข้าใจและเรียนรู้ข้อมูลนั้นได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอ รวมถึงช่วยตรวจสอบถูกต้องของข้อมูลที่ผ่านการสร้างขึ้นด้วย
ซึ่งบริการของ Sclae AI ได้รับการยอมรับในวงกว้างในอุตสาหกรรม AI โดยมีลูกค้าอย่าง Microsoft, OpenAI และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนหลายราย เช่น Nvidia, Amazon และ Meta ทำให้บริษัทเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเทคโนโลยี
ดังนั้น Meta ที่ยังตามหลังคู่แข่งในด้าน AI จึงยอมทุ่มเงินสูงถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนใน Scale AI เพื่อจะได้มาช่วยพัฒนา โมเดล Llama ของ Meta ให้แข่งขันได้ โดยตามรายงานจาก The Information เปิดเผยว่า ข้อตกลงในการลงทุนคือ Meta จะถือหุ้น 49% และ Alexander Wang ต้องมาเป็นผู้นำห้องปฏิบัติการวิจัย AI แห่งใหม่ที่บริษัท
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2025 AI เป็นหนึ่งในสิ่งที่ Meta ให้ความสำคัญสูงสุด โดย Mark Zuckerberg ได้ลดความสำคัญของหน่วย Fundamental Artificial Intelligence Research (FAIR) เพื่อสนับสนุนทีม GenAI ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์มากกว่า เพื่อช่วยให้ Meta ก้าวหน้าใน AI และปรับปรุงตระกูลโมเดล AI Llama
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวโมเดล Llama 4 AI ของ Meta ในเดือนเมษายนไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักพัฒนา และดูเหมือนว่าคู่แข่งอย่าง OpenAI จะนำหน้าทั้งในเรื่องโมเดล AI พื้นฐาน และจำนวนการใช้งานแอปพลิเคชัน ซึ่งนั่นทำให้ Mark Zuckerberg ยื่งกำหมัดด้วยความหงุดหงิด
ด้วยความที่เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ Mark Zuckerberg จึงประกาศที่จะเปิดตัวโมเดล Behemoth ที่ใหญ่และทรงพลังกว่า แต่โมเดลนั้นยังไม่ได้เปิดตัว เนื่องจากเขายังกังวลเกี่ยวกับความสามารถ เมื่อเทียบกับโมเดลของคู่แข่ง โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบ Behemoth กับโมเดลล่าสุดจากบริษัทอย่าง OpenAI และ DeepSeek ของจีน
และหลังการเปิดตัว Llama 4 ที่ไม่ประสบความสำเร็จ Meta ได้ปรับโครงสร้างหน่วย GenAI โดยแบ่งออกเป็นสองส่วน คอนเนอร์ เฮย์ส พนักงาน Meta ที่มีประสบการณ์ยาวนานได้รับผิดชอบ AI Products ขณะที่ AGI Foundations ถูกมอบให้ อามีร์ เฟรนเคล อดีตรองประธานด้านวิศวกรรมและผลิตภัณฑ์ของหน่วย Reality Labs hardware ของ Meta และ อาห์หมัด อัล-ดาห์เล อดีตหัวหน้า GenAI แทน