‘ธุรกิจไมซ์’ ถือเป็นหนึ่งธุรกิจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีมูลค่านับแสนล้านบาท แม้ที่ผ่านมาทิศทางของธุรกิจนี้ยังดูสดใส แต่ปัจจุบันด้วยปัจจัยท้าทายรอบด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจ และอีกหลายปัจจัย จึงน่าสนใจธุรกิจไมซ์ของไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
จากข้อมูลของ ‘สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ’ หรือ TCEB ได้รายงานว่า ในปี 2567 ประเทศไทยมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนรวมกว่า 25.35 ล้านคน สร้างรายได้โดยตรงให้กับประเทศคิดเป็นมูลค่ากว่า 148,340 ล้านบาท
น่าสนใจไปมากกว่านั้น คือ อุตสาหกรรมไมซ์ได้สร้างรายได้ประชาชาติรวมกว่า 309,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.67% ของ GDP ประเทศไทย ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนและมีนัยสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเมื่อพูดถึงไมซ์ไม่ใช่แค่การจัดประชุมหรือการจัดแสดงนิทรรศการ แต่เป็นหนึ่งฟันเฟืองในการหมุนเวียนของเศรษฐกิจระดับประเทศ ตั้งแต่โรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจการขนส่ง ไปจนถึงคนทำงานในอุตสาหกรรมบริการ
‘กฤษณา จรรยาสกุลวงศ์’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอัลไลแอนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมและการแสดงระดับโลก รอยัล พารากอน ฮอลล์ และ ทรู ไอคอนฮอลล์ กล่าวว่า ไทยมีศักยภาพสูงมากในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางไมซ์ของภูมิภาคอาเซียน ด้วยปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่
1.‘ทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์’ : ไทยอยู่ใจกลางภูมิภาคอาเซียน ถือเป็นจุดตัดสำคัญที่เดินทางสะดวกจากทั้งเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง ทำให้ได้เปรียบมากในการเชื่อมต่อ
2.ไทยมีโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกที่พร้อมรองรับงานไมซ์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ เช่น สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง และมีหัวเมืองสำคัญอย่างเชียงใหม่ ภูเก็ต และอู่ตะเภา ที่ต่างก็มีศักยภาพในการรองรับผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลก รวมถึงมีระบบขนส่งมวลชนทั้ง BTS, MRT และ Airport Rail Link ที่เชื่อมโยงสนามบินและศูนย์การจัดงานในเมืองได้อย่างไร้รอยต่อ ช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ร่วมงาน
3. นโยบายภาครัฐที่เสริมความแข็งแรงให้กับธุรกิจไมซ์ไทย เช่น TCEB กับการขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ 5 ด้าน และโครงการ 3S ‘Stay Longer, Spend More, See You Again’ ซึ่งไม่เพียงกระตุ้นการจัดงานในไทย แต่ยังช่วยเพิ่มระยะเวลาพำนักและการใช้จ่ายของนักเดินทางไมซ์ในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
4.ไทยเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับจากเวทีระดับโลก โดยเมื่อปี 2024 สมาคมการประชุมนานาชาติ (ICCA) จัดอันดับให้ไทยเป็น ‘อันดับ 1 ในอาเซียน’ และ ‘อันดับ 5 ในเอเชียแปซิฟิก’ ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของไทยในธุรกิจไมซ์บนเวทีโลก
แม้แนวโน้มอุตสาหกรรมไมซ์ไทยยังดูสดใส แต่ปีนี้ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับแรงกดดันหลายด้าน อาทิ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ภาวะผันผวนของเศรษฐกิจโลก และอีกหลายปัจจัย ที่ล้วนส่งผลต่อพฤติกรรมการเดินทางและการใช้จ่ายของนักเดินทางกลุ่มไมซ์โดยตรง โดยเฉพาะ ‘ตลาดจีน’ อีกตลาดเป้าหมายของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย
“เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อภาพลักษณ์ความปลอดภัยของประเทศ ความเชื่อมั่นย่อมสั่นคลอน และเราก็ได้เห็นแล้วว่านักเดินทางจีนชะลอการเดินทางออกไปอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือความท้าทายที่ทุกภาคส่วนต้องเร่งฟื้นฟู และร่วมกันสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ให้ชัดเจน” กฤษณาอธิบาย พร้อมเสริมว่า
‘ความยั่งยืน’ เป็นอีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ของผู้ประกอบการไมซ์ในวันนี้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ ‘เทรนด์’ แต่เป็นเงื่อนไขสำคัญในการตัดสินใจของผู้เข้าร่วมงานและองค์กรผู้จัดงานในระดับสากลทั้งเรื่อง Carbon Footprint และ Sustainability ดังนั้นภาคธุรกิจไมซ์ไทยต้องรีบปรับตัวให้ทัน
กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอัลไลแอนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด มองว่า ‘ทุกวิกฤตเป็นโอกาส’ ในการยกระดับมาตรฐานงานอีเวนต์ของไทยให้เทียบเท่าระดับโลก โดยกลยุทธ์หลักของพารากอน ฮอลล์ คือการทรานสฟอร์มภายใต้แนวคิด Extraordinary Eventainment สร้างสุดยอดประสบการณ์ที่ผสานอีเวนต์ระดับโลกเข้ากับความบันเทิงเหนือความคาดหมาย พร้อม Co-Create กับพันธมิตรในการสร้างสรรค์ Global Events ที่ทั้งดึงดูดใจ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้จริง
“พารากอน ฮอลล์ โฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่แล้ว เรายกระดับพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม. ให้รองรับการจัดอีเวนต์ได้ทุกรูปแบบ ตั้งแต่งานขนาดเล็กมีผู้ร่วมงาน 50 คน ถึงงานที่มีผู้ร่วมงาน 10,000 คน ด้วยระบบที่ดีเยี่ยมและยกระดับการบริการแบบ PremiumizedService ให้เทียบเท่าโรงแรม 5 ดาว ด้วยทีมงานที่มากด้วยความรู้และประสบการณ์ผ่านการรับรองจากสมาคมและสมาพันธ์ธุรกิจไมซ์ระดับโลก บวกกับทำเลที่ตั้งใจกลางแลนด์มาร์คระดับโลกอย่างสยามพารากอน การเดินทางสะดวก ทำให้เราได้เปรียบ”
สำหรับความยั่งยืน พารากอน ฮอลล์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ด้วยการยกระดับสถานที่ให้เป็น Carbon Neutral Venue แห่งแรกของประเทศไทย และกำลังขยายแนวทางนี้ไปยังทรู ไอคอน ฮอลล์
นอกจากนี้ ยังหันมาให้ความสำคัญกับกลุ่มองค์กรที่ต้องการจัดสัมมนาแบบยั่งยืน โดยใช้จุดแข็งด้าน Carbon Neutral Venue แห่งแรกของประเทศไทยมาเป็นหัวใจ สร้างแพ็กเกจการประชุมที่ตอบโจทย์ ESG และ Sustainability ซึ่งกำลังเป็นวาระสำคัญของทุกองค์กรทั่วโลก
รวมถึงเน้นการ Co-create กับพันธมิตรภายในศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อออกแบบ Exclusive Privilege สำหรับลูกค้าและผู้จัดงานที่เลือกใช้บริการพารากอน ฮอลล์ ซึ่งทั้งหมดเป็นการสร้างน่านน้ำใหม่ที่พารากอน ฮอลล์ ไม่ต้องแข่งขันด้วย ‘ราคา’ แต่ใช้ ‘ประสบการณ์และมูลค่า’ มาเป็นหัวใจ ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับธุรกิจในระยะยาว และผลักดันให้กรุงเทพฯ ให้เป็น World Class Event City ได้อย่างแท้จริง
ไฮไลต์อีเวนต์ช่วงครึ่งหลังปีนี้ อาทิ IRENE & SEULGI Concert Tour [ BALANCE ] in BANGKOK , The 1st CISM Military Muay Thai Challenge การแข่งขันมวยไทยทหารนานาชาติครั้งแรกในประเทศไทย, Dragonfly Summit 2025 อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ที่รวมเหล่าสปีกเกอร์ชั้นนำระดับโลกจากหลายเส้นทางธุรกิจในด้าน Leadership และ Well-being, งานแข่งขันเกมส์ E-sport ชิงแชมป์โลก เป็นต้น
“ปีนี้พารากอน ฮอลล์ ตั้งเป้าจะมีงานเพิ่มขึ้น 30% ยกระดับรายได้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตรระดับ Global เพื่อวางตำแหน่ง พารากอน ฮอลล์ ให้เป็น World-Class Event Hub อย่างแท้จริงได้”