โอมากาเซะมันเข้าถึงยาก! ‘Sushi Cyu’ รีเฟรชแบรนด์ใหม่สู่ ‘Cyu Roll & Sushi Bar’ เน้นเสิร์ฟ Hand Roll จับพรีเมียม-แมส เริ่มต้น 590-

หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า เผาจริง จากเจ้าของธุรกิจร้านอาหารในไทย ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากประเภทร้านอาหารยอดนิยมอย่าง อาหารญี่ปุ่น ในปีนี้จะ ไม่เติบโต โดยทรงตัวอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ดังนั้น ในวันที่ผู้บริโภค รัดเข็มขัด และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ZEN Group ก็ต้องแก้เกมใหม่เพื่อสร้างการเติบโต

Sushi Cyu จากโอมากาเซะ สู่ Cyu Roll & Sushi Bar

สำหรับ เซ็นกรุ๊ป ที่มีแบรนด์อาหารญี่ปุ่นรวม 4 แบรนด์ ได้แก่ เซ็น (ZEN), อากะ (AKA), ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) และซูชิ ชู (Sushi Cyu) โดยมีเพียง ซูชิ ชู ที่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบ โอมากาเซะ เท่านั้นที่จับกลุ่มลูกค้า พรีเมียม อีก 3 แบรนด์ที่เหลือเน้นกลุ่มลูกค้าแมส-พรีเมียม

อย่างไรก็ตาม หากอ้างอิงจากผลสำรวจของ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) พบว่า ร้านซูชิ เป็นร้านที่มีจำนวนมากเป็นอันดับ 2 แต่ ปิดตัวมากที่สุด โดยคาดว่าปีนี้อาจลดเหลือเพียง 1,279 ร้าน หรือลดลงประมาณ 6.8% ซึ่งสาเหตุก็เป็นเพราะ เหตุผู้บริโภคมองหา รสชาติต้นตำรับในราคาย่อมเยา สวนทางต้นทุนที่สูงขึ้น 

ดังนั้น ผู้บริโภคอาจไม่ได้ต้องการ ของถูกที่สุด แต่เป็น ของดีในราคาจับต้องได้ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากร้าน ซูชิสายพาน จะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภค

ดังนั้น ZEN Group จึงได้ รีเฟรชแบรนด์ซูชิ ชู ที่สาขาเซ็นทรัลเวิล์ด จากที่เป็นโอมากาเซะ ไปเน้นเสิร์ฟ Hand Roll เป็นคอร์สแทน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Cyu Roll & Sushi Bar เริ่มต้นที่ 590 บาท จากเดิมที่เป็นคอสโอมากาเซะเริ่มต้น 1,850 บาท เพื่อให้ผู้บริโภค จับต้องได้ง่ายขึ้น 

และในเดือนกรกฎาคม จะปรับโฉมร้าน Cyu Carnival & Yakiniku เป็น Cyu Carnival Shabu & Yakiniku โดยเพิ่มเมนู ชาบู แบบ Individual Dining เข้าไปด้วย ปัจจุบัน Cyu Carnival Shabu & Yakiniku มี 2 สาขา ได้แก่ สาขาโครงการ เอท ทองหล่อ และเอ็มควอเทียร์

โดย จอมขวัญ จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็น กรุ๊ป (Zen Group) ยอมรับว่า ต้องโดดหนีคำว่าแพง และต้องทำให้เขารู้สึกว่าร้านเราคุ้มเงินที่จ่ายไป ดังนั้น ซูชิ ชูจึงปรับจากการเป็นโอมากาเซะ ที่เน้นกลุ่มพรีเมียม ให้เป็นพรีเมียมแมส เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น 

ยังไม่มีแผนทำอาหารพร้อมทานในแบรนด์ญี่ปุ่น

อีกแบรนด์ที่ทำการรีเฟรชในปีนี้ก็คือ ออน เดอะ เทเบิ้ล โดยใช้คอนเซ็ปต์การเป็นโตเกียวคาเฟ่ แต่จะรีโนเวตร้านให้ดูมีความโมเดิร์น นั่งสบาย ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัว และวัยทำงาน อีกทั้งเตรียมออกแคมเปญใหม่ คิดถึงนะ ในเดือนสิงหาคมนี้ 

“เราต้องการขยายฐานลูกค้าไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เริ่มต้นทำงาน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายสูงถึง 300-600 บาทต่อครั้ง”

อย่างไรก็ตาม จอมขวัญ ย้ำว่า กลยุทธ์ในฝั่งของแบรนด์อาหารญี่ปุ่น จะเน้นไปที่การ รีเฟรชแบรนด์ เป็นหลัก ยังไม่มีแผนที่จะทำ อาหารพร้อมทาน เหมือนกับฝั่งแบรนด์อาหารไทย รวมถึงการขยายสาขาจะเน้นที่ แฟรนไชส์ โดยเฉพาะใน ต่างประเทศ โดยปีนี้มีแผนเปิดใหม่ 4 สาขา เป็นแฟรนไชส์ในต่างประเทศทั้งหมด

ความท้าท้ายคือ เปิดใจลองแบรนด์ใหม่ในเครือ

สำหรับปีนี้ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง แต่ก็ได้ลูกค้าใหม่ เช่น กลุ่มยังเจน ผู้สูงอายุ และต่างจังหวัด เข้ามาเสริม ทำให้ช่วงครึ่งปีแรกทางเครือยังเติบโตได้ และคาดว่าทั้งปีจะเติบโตได้ 10% ตามเป้า

จอมขวัญ ทิ้งท้ายว่า ความท้าทายของ ZEN Group ตอนนี้คือทำให้ผู้บริโภค เปิดใจลองแบรนด์ใหม่ ๆ ในเครือ ดังนั้น ทาง ZEN Group จึงพยายามทำให้แต่ละแบรนด์สามารถเข้าถึงได้ง่าย และมี เมนูไม่ซ้ำกัน ซึ่งทาง ZEN Group กำลังเริ่มนำ AI มาใช้ในการทำการตลาด เพื่อนำข้อมูล ความถี่ และการ ไขว้แบรนด์ เพื่อเดินหน้ากลยุทธ์ Everyday Zen ที่ต้องการให้ผู้บริโภคสามารถเข้าร้านในเครือเซ็น กรุ๊ปได้ทุกวัน