ปิย สมุทรโคจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดขนมขบเคี้ยว ช่วงครึ่งปีแรก 2568 มีมูลค่า 20,000 กว่าล้านบาท เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และทั้งปีคาดมีมูลค่า 40,000 ล้านบาท โดยได้รับอานิสงส์จากการเข้ามาของขนมเซกเมนต์ใหม่ คือ ขนมจากปลาหมึก
ปัจจุบัน พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง ครองมาร์เก็ตแชร์เบอร์ 3 ในตลาดขนม และ ‘ทาโร’ ครองอันดับ 1 ในขนมกลุ่มปลาเส้น โดยมีการเติบโตด้านยอดขาย 6% (YoY)
“ทาโร เติบโตต่อเนื่องปีละ 5-6% แม้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว หลัก ๆ เป็นเพราะสินค้าราคาไม่แพง เริ่มต้น 5-10 บาท กลุ่มลูกค้ามีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะ สินค้าวางทาร์เก็ตเน้นวัตถุดิบปลา ทานเพื่อสุขภาพได้”

สำหรับแผนระยะยาว 3-5 ปี ทาโร เดินกลยุทธ์หลากหลาย อาทิ
1.ลอนช์สินค้าใหม่ 3-4 โปรดักส์/ปี อาทิ ทาโร สูตรโซเดียมต่ำ, ทาโร แผ่นโรล, ทาโร ชุบน้ำจิ้ม ทำให้สามารถกระตุ้นการซื้อของผู้บริโภคได้ แม้ช่วงไตรมาส 2-3 จะเป็นโลว์ซีซั่นก็ตาม และคาดว่าจะพิกอัพในไตรมาส 4 – ไตรมาส 1 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของทาโร
2.แตกไลน์สินค้าใหม่ในกลุ่มสุขภาพ ทั้งรูปแบบวัตถุดิบที่เน้นปลา และไม่ใช้ปลา (Non-Fish) เช่น สินค้าเจาะกลุ่มผู้สูงวัย เป็นต้น
3.บุกตลาดต่างประเทศ อาทิ ตลาดจีนและสหรัฐอเมริกา เบื้องต้น ตลาดจีนได้เข้าไปจดทะเบียนการค้าและแบรนด์เป็นที่เรียบร้อย ส่วนในสหรัฐฯ จะบุกช่องทางอีคอมเมิร์ซเป็นหลัก
โดยตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตฯ รายได้ต่างประเทศขึ้นเป็น 10% หรือประมาณ 200 ล้านบาท (จากรายได้รวมของทาโรราว 2,000 ล้านบาท) จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 2-3% เท่านั้น
“ด้านปัญหาความขัดแย้งไทยกัมพูชา เห็นสัญญาณที่ดิสทริบิวเตอร์ฝั่งกัมพูชา ชะลอการสต๊อกของ เนื่องจาก ความไม่มั่นใจ จากกระแสการแบนสินค้าไทยในกัมพูชา ซึ่งประเมินว่า กระทบยอดขายเล็กน้อย เนื่องจาก การส่งออกไปยังกัมพูชา เป็นพอร์ตเล็กมาก สินค้าเราหลัก ๆ ในต่างประเทศจะเน้นลาวและยุโรป”

วิภาส จิรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี เอม ฟูด จำกัด กล่าวว่า ปี 2568 ทาโร ยังได้รุกแผนด้านความยั่งยืนมากขึ้น โดยจะเพิ่มการใช้ประโยชน์จากปลาทั้งตัวให้คุ้มค่ามากขึ้น จากปกติจะใช้เพียง 40% ของปลาเฉพาะส่วนเนื้อบด และทิ้งอีก 60% คือ ส่วนก้าง หัว หนัง และไส้ปลา
อย่างไรก็ตาม เพื่อลด Food Waste จากนี้ไปจะนำเศษปลาเหลือทิ้งไปทำอาหารสัตว์ และปุ๋ยอินทรีย์แทน
รวมไปถึงการทำแคมเปญ “ทาโร รักษ์โลก โชคเด้ง” กับพันธมิตร อาทิ ไปรษณีย์ไทย PTG และ SLEEK EV ชวนคนไทยร่วมส่งคืนซองเปล่าทาโร เพื่อกำจัดขยะอย่างถูกวิธี เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล นำไปแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงผลิตพลังงานไฟฟ้า ทดแทนอุตสาหกรรมการใช้ถ่านหิน เพื่อลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 – 31 มกราคม 2569
“แคมเปญฯ ตั้งเป้าสามารถลดขยะพลาสติกได้กว่า 1,000 ตันต่อปี เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน รวมถึงมั่นใจว่าแคมเปญนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นยอดขายของทาโรได้อีกทางด้วย”

