ไม่ยาก!!หากอยากเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่แบรนด์ดังแม้เงินในกระเป๋ามีจำกัดและไม่มีบัตรเครดิต เพราะปัจจุบันแค่บัตรประชาชนใบเดียวก็ผ่อนได้ ไม่ต้องง้อคนค้ำ เป็นทางเลือกที่มาพร้อมคำว่า “ง่าย” และ “เร็ว” ซึ่งได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นคำเคลมโฆษณษา ที่หลอกล่อให้ลูกค้าตกหลุมพราง เพราะเบื้องหลังแฝงไปปัญหามากมายตามมาจากกลโกงที่ซ่อนอยู่หากขาดการศึกษาข้อมูลที่ดี
วางแผนดี หนีเงื่อนไขและดอกเบี้ยสุดโหด
สรุปง่าย ๆ การผ่อนมือถือโดยใช้บัตรประชาชน เหมาะกับผู้ที่มีรายได้ประจำ แต่ยังไม่มีประวัติเครดิต ซึ่งเงื่อนไข ของร้านที่ไม่ตรวจประวัติเครดิต มักให้วางเงินดาวน์ 50% ที่เหลือผ่อน 6–12 เดือนแต่ระวังดอกเบี้ยอาจสูงถึง 200-300% ต่อปี ต่างจากร้านถูกกฎหมายที่เช็กประวัติเครดิต ดอกเบี้ยจะต่ำกว่า 25% ต่อปี ส่วนเงินดาวน์ก็แล้วแต่ประวัติเครดิต มีตั้งแต่ 0-50%
ไม่อยากติดกับดักเงื่อนไขและดอกเบี้ยสุดโหดต้องวางแผนให้ดี มีวินัยทางการเงินและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนจ่าย อีกเรื่องที่สำคัญมาก ๆ คือ อย่าลืมเปรียบเทียบโปรโมชันและดอกเบี้ยจากผู้ให้บริการที่มีอยู่หลายเจ้าในตลาด ซึ่งบางรายคิดอัตราดอกเบี้ยแท้จริงสูงลิ่วเกินกว่ากฎหมายกำหนดสำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล เช่นID Money ที่มีดอกเบี้ยสูงถึง 382% ต่อปี, CJ More อยู่ที่ 352% ต่อปี, Strawberry IT ที่คิดดอกเบี้ย 231% ต่อปี และ T-Plus รวมถึง iFINNที่อยู่ที่ 175% ต่อปี ทั้งหมดนี้เกินกว่าข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลที่ควรไม่เกิน 25% ต่อปีอย่างชัดเจน ในขณะที่ผู้ให้บริการที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่าง SG Finance+ และ Samsung Finance+ มีอัตราดอกเบี้ยที่ 21.5% และ 18.7% ต่อปีตามลำดับ
หลุมพราง “ผ่อนง่าย” ซ่อนอะไรบ้าง
การผ่อนมือถือโดยใช้บัตรประชาชน ตอบโจทย์เรื่องความสะดวก สมัครง่าย และมักมาพร้อมคำโฆษณา “ผ่อนจ่ายราคาถูก” หรือโปรโมชัน 0% ซึ่งต้องระวังให้ดี เพราะในความเป็นจริงอัตราดอกเบี้ยอาจสูงกว่าผ่อนผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเงินสด ไปดูกันว่ามีอะไรที่เป็นหลุมพรางแอบซ่อนอยู่บ้าง?
• ภาพลวงตา ผ่อน0% โปรสุดปัง!:ดอกเบี้ย 0% เป็นกลยุทธ์ที่พบได้บ่อย หลายคนหลงเชื่อโดยไม่รู้ว่าเป็นแค่ภาพลวงตาจงระลึกเสมอว่าสินค้าเงินผ่อน ร้านค้ามักบวกราคาให้สูงกว่าปกติไปแล้วซึ่งเมื่อคำนวณแล้วจะพบว่าซื้อแบบผ่อนจ่ายสูงกว่าซื้อเงินสด
• สัญญาซับซ้อน ทำลูกค้าสับสน:เอาเปรียบลูกค้าด้วยเงื่อนไขสัญญาที่มีความซับซ้อนและไม่เป็นธรรม โดยอาศัยความสับสนและรู้ไม่เท่าทันของผู้บริโภคเป็นช่องทางสร้างประโยชน์
• ระวังข้อมูลส่วนบุคคลหลุด:หากผู้ให้บริการไม่มีมาตรการจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย อาจนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดได้
• ทวงหนี้โหด ลืมจ่าย “ล็อกเครื่อง”:หนึ่งวิธีที่น่ากลัวสุด ๆ ในการทวงหนี้ คือ “ล็อกเครื่อง”หมดสิทธิ์ใช้มือถือ ซึ่งผู้ให้บริการมีกลไกล็อกเครื่องจากระยะไกลเมื่อผิดชำระ นอกจากนี้ ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลสำคัญอาจตกอยู่ในความเสี่ยงด้วย

ในยุคดิจิทัล “มือถือ” ไม่ใช่แค่เครื่องมือสื่อสาร แต่ยังช่วยสร้างโอกาส ทั้งการงาน การเรียน รวมถึงสร้างรายได้ ผ่อนมือถือคุณภาพดีราคาแพงไม่ใช่เรื่องผิด! เพียงแต่ต้องไม่ตกเป็น “เหยื่อ” เพราะแค่สมัครง่าย ผ่อนจ่ายราคาถูก ดังนั้น ก่อนผ่อนมือต้องตรวจสอบให้ดีกับเช็กลิสต์ที่เอามาฝากกัน ดังนี้
• ร้านค้าน่าเชื่อถือแค่ไหน? ตรวจสอบให้ถ้วนถี่ ทั้งชื่อร้านและประวัติการขายสินค้า ลองค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เช่น เสิร์ชชื่อร้านบนกูเกิล หรือเว็บไซต์ blacklistseller.com ต้องระมัดระวังร้านค้าที่ไม่มีหน้าร้าน หรือโพสต์ขายตามสื่อโซเชียล
• สินเชื่อถูกกฎหมายหรือไม่? เลือกผู้ให้บริการที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อลดปัญหาการทวงหนี้ และดอกเบี้ย เกินจากกฎหมายกำหนด
• ดูให้ครบเงื่อนไขสัญญาเป็นอย่างไร? ตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญาทุกข้ออย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนเซ็นชื่อ โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่าย เช่น ค่าธรรมเนียม หรือเบี้ยปรับ
• ผ่อนครบกรรมสิทธิ์เป็นของใคร? ต้องระวังดูเงื่อนไขให้แน่ใจ ว่าเมื่อผ่อนชำระครบตามสัญญาแล้ว มือถือจะเป็นของเราโดยสมบูรณ์จริง ๆ
• ดอกเบี้ยที่แท้จริงเท่าไหร่? อย่าหลงเชื่อ แค่คำว่า “ดอกเบี้ยต่ำ” หรือ 0% ให้ถามหา “อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี” (Effective Interest Rate) เสมอ และที่สำคัญให้ดูยอดจ่ายทั้งหมด เทียบกับราคาเครื่องจริง
• รายได้เหมาะสมพอผ่อนจ่ายหรือไม่? พิจารณาความสามารถในการผ่อนจ่ายให้สอดคล้องกับรายได้ในแต่ละเดือน และจ่ายชำระตรงเวลา ซึ่งอาจช่วยสร้างประวัติเครดิตที่ดีในอนาคต
แม้การผ่อนจะช่วยให้ได้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนที่ต้องการได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องจ่ายเงินสดทั้งจำนวนในครั้งเดียว แต่ต้องเลือกแหล่งผ่อนที่เหมาะสมและมีวินัย สิ่งสำคัญต้องระวังรู้เท่าทันกลโกงของร้านค้าด้วย
