BioActive+ การปั้นแบรนด์ครั้งแรกของ “เมย์-วาสนา” เปิดมา 4 เดือน ฟาดรายได้เกือบพันล้าน!

ชื่อของ “ไฮโซเมย์” หรือ ดร.วาสนา อินทะแสง กลายเป็นที่รู้จักในสื่ออย่างแพร่หลายมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในบทบาทของเจ้าแม่ OEM เครื่องสำอาง อาหารเสริมอย่าง Revomed Group (รีโว่เมด) รวมไปถึงการมีประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์กับ “ดิว อริสรา” ยิ่งทำให้คนรู้จักเมย์ วาสนาเพิ่มมากขึ้น

แต่วันนี้เมย์ วาสนามาพร้อมบทบาทใหม่ กับการปั้นแบรนด์ของตัวเองเป็นครั้งแรกกับ BioActive+ ภายใต้ บริษัท ไบโอแอคทีฟ เอ็นแซต 1984 จำกัด ซึ่งแบรนด์นี้จะเป็นอย่างไร Positioning จะเล่าให้ฟัง

BioActive+ คือใคร

ก่อนอื่นต้องเล่าว่าเมย์ วาสนาอยู่ในแวดวงความสวยความงาม และสุขภาพมาตลอด จบการศึกษาด้าน Anti-Aging โดยตรง ปัจจุบันเป็น CEO ของ บริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งโรงงานนี้ก่อตั้งมา 10 ปีแล้ว เป็นโรงงานรับผลิตสินค้าสุขภาพ ความงามครบวงจร ทั้งอาหารเสริม สกินแคร์ เครื่องสำอางต่างๆ

เมย์ วาสนาได้ทำการเทคโอเวอร์แบรนด์ BioActive มาได้ราวๆ 2 ปีครึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาตินิวซีแลนด์ โดยก่อนการซื้อกิจการได้มีการร่วมทุนกันราวๆ พันล้านบาท มีแผนที่จะจัดตั้งโรงงานที่นิวซีแลนด์ร่วมกัน โดยทางเมย์ วาสนาถือหุ้น 55% และทางนิวซีแลนด์ถือหุ้น 45%

BioActive+

BioActive ที่นิวซีแลนด์ มีอายุ 41 ปี ก่อตั้งเมื่อปี 2527 มีสินค้าที่โดดเด่นกลุ่มสุขภาพ เช่น Colostrum (โค ลอสตรุ้ม) หรือ “นมน้ำเหลือง” เป็นหัวน้ำนมแพะ ที่ผลิตในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังคลอด ทำให้มีภูมิคุ้มกันสูง นอกจากนั้นบริษัทได้เน้นที่ธุรกิจ MLM (ขายตรง) เป็นส่วนใหญ่ 

จากเจ้าแม่ OEM สู่การปั้นแบรนด์ครั้งแรก

เมื่อซื้อกิจการแบรนด์ BioActive มาแล้ว ในการทำการตลาดในไทยจึงเปลี่ยนชื่อเป็น BioActive+ เอาแบรนด์อายุ 41 ปี มาปัดฝุ่นใหม่ เพิ่ม Plus (+) เข้าไป เพื่อสื่อถึงการผสมผสาน หรือเพิ่มอะไรใหม่ๆ เข้ามา โดยสินค้าก็จะแตกต่างจากที่นิวซีแลนด์โดยสิ้นเชิง

นอกจากเมย์ วาสนาจะเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท ไบโอแอคทีฟ เอ็นแซต 1984 จำกัด ยังได้ “จี๋ – สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร” นักแสดงรุ่นใหม่ มาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งด้วย โดยที่เมย์ วาสนาจะดูแลทางฝั่งบริหาร การเงิน ปฏิบัติการต่างๆ ส่วนจี๋ สุทธิรักษ์ ดูแลทางด้านแบรนด์ดิ้ง และการตลาด 

BioActive+

หลังจากที่เมย์ วาสนาทำธุรกิจ OEM ภายใต้ Revomed มานาน การบริหาร BioActive+ จึงเป็นการสร้างแบรนด์ครั้งแรก ซุ่มพัฒนาแบรนด์กว่า 2 ปี เพิ่งวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยวางจุดยืนให้เป็นอาหารเสริมรูปแบบใหม่ นวัตกรรม Concentrated Liquid Supplement ที่มีรูปแบบเป็นหลอด ต้องบีบผสมน้ำ แล้วดื่ม ซึ่งทางแบรนด์บอกว่าจะช่วยดูดซึมได้เร็วกว่าอาหารเสริมรูปแบบอื่นที่เป็นแบบผง หรือแบบเม็ด 

ปัจจุบัน BioActive+ มีด้วยกัน 4 สูตร ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 690-1,450 บาท ได้แก่

  • Concentrated Liquid Collagen : คอลลาเจนเข้มข้น รส Mixed Berry ฟื้นฟูโครงสร้างผิว เพิ่มความยืดหยุ่นและชุ่มชื้น
  • Concentrated Liquid Asta Drink : แอสตาแซนธินเข้มข้น รส Fruit Punch ผิวเด็กทนแดด และช่วยปลุกพลังงานระดับเซลล์
  • Concentrated Liquid Gold : สูตรต่อต้านอนุมูลอิสระ รส Fresh Lemon พร้อม Duo TetraSOD และ GF Fermenta MnSOD
  • Concentrated Liquid Gluta : สูตรเพื่อผิวกระจ่างใส รส Strawberry Lychee ผสม Duo กลูต้าไธโอนและเซราไมด์จากข้าวญี่ปุ่น

BioActive+

เมย์ วาสนา เล่าว่า ทำ Revomed มา 8 ปี ผลิตกว่า 5,000 แบรนด์ ในนี้มีถือหุ้นอยู่ราวๆ 10 แบรนด์ BioActive+ เป็นแบรนด์แรกที่ตั้งใจทำให้เป็นระดับโกลบอล เป็นแบรนด์แรกที่ออกหน้าเต็มๆ บริหารเต็มตัว เป็นคนที่ทำอะไรต้องทำออกมาให้สุดอยู่แล้ว ต้องมาคิดการทำงานใหม่ โจทย์คือกินอาหารเสริมเหมือนกินของอร่อย 

ปัญหาของ Revomed ก็คือ ขายดี 7 ปีโตกว่า 500% แต่เก็บหนี้ยาก เลยคิดว่าขายดีแต่ไม่ได้เงิน ก็ทำของขายเองก็ได้ การทำ OEM ถ้ายืมจมูกหายใจตลอดมันไม่ยั่งยืน 

อาณาจักรพอร์ตไฮโซเมย์ 3,500 ล้าน

ปัจจุบันเมย์ วาสนา มีธุรกิจในพอร์ตของตัวเองรวม 27 บริษัท ธุรกิจหลักยังเป็นกลุ่มความงาม ทั้งโรงงาน Revomed บริษัททำแพ็กเกจจิ้ง บริษัททำวัตถุดิบต่างๆ และมีบริษัทที่เข้าไปร่วมทุนรวม 10 บริษัท 

BioActive+

รวมมูลค่าพอร์ตทั้งหมดกว่า 3,500 ล้านบาท แบ่งสัดส่วยรายได้เป็น BioActive+ 1,500 ล้านบาท, Revomed 1,000 ล้านบาท และธุรกิจอื่นๆ 1,000 ล้านบาท 

“ถ้านึกถึงตลาดอาหารเสริมระดับโลก คนจะนึกถึงที่นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ เรามี Relation ที่ดีกับโรงงาน การทำ BioActive+ จึงเป็นชาเลนจ์สุดท้าย อยากทำให้ดีที่สุด เราอยากเป็น    นีเวียกระปุกสีน้ำเงิน ที่ผ่านไป 100 ปีคนก็ยังใช้อยู่ เป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวัน ตื่นมาก็กิน อยู่ไปยาวๆ” 

เปิดขาย 4 เดือน ยอดขายเกือบพันล้าน

ปัจจุบันตลาดอาหารเสริมไทยมีมูลค่าสูงกว่า 90,000 ล้านบาท โต 7-10% โดยเฉพาะกลุ่ม Liquid Supplement และ Functional Supplement ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มาพร้อมเทรนด์ Anti-Aging กินเสริม สุขภาพจากภายใน หรือ Energy Booster เทรนด์สูงวัยอย่างสง่างาม และการดูแลสุขภาพองค์รวม 

BioActive+

BioActive+ เปิดตัวมาได้ 4 เดือน ตั้งแต่ 5 พฤษภาคม– 9 กันยายน 2568 สามารถทำยอดขาย 921 ล้านบาท  มียอดคำสั่งซื้อสิ้นค้าทั้งหมด 1,541,707 กล่อง หรือจัดจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 15 ล้านหลอด คิดเป็นวันละ 121,394 หลอด ชั่วโมงละ 5,058 หลอด นาทีละ 84 หลอด

และตั้งเป้าแตะ 1,500 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2568 หรือคิดเป็น Market Share ประมาณ 3% ของตลาดอาหารเสริมไทย 

BioActive+

มีแผนเปิดตัวสูตรใหม่ในช่วงปลายปี อีก 3 รายการ เพื่อขยายฐานลูกค้า และในเดือนธันวาคมจะมีการขายแบบ 1 ชิ้นในเซเว่นฯ ราคาชิ้นละ 59-79 บาท เพื่อการทดลองใช้ของลูกค้าใหม่ๆ

อย่างไรก็ดี BioActive+ ถือว่ามีราคาสูง เมื่อเทียบกับอาหารเสริมอื่นๆ เพราะวางจุดยืนในระดับพรีเมียม มีการทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังต่างๆ รวมไปถึงประเด็นเรื่องขยะพลาสติก ที่หลายคนมองว่าการทำอาหารเสริมแบบช็อตวิตามินในรูปแบบนี้ สร้างขยะพลาสติกอีกมหาศาล ซึ่งก็เป็นอีกความท้าทายที่แบรนด์ต้องข้ามผ่านไปให้ได้ เพื่อที่จะมัดใจลูกค้าทุกกลุ่ม