กล้องพกพาน่าใช้ 2025: DJI, Insta360, GoPro ครบทั้ง Action, Vlog และ 360

GoPro – ตำนานผู้บุกเบิกตลาด Action Cam

GoPro ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 โดย Nick Woodman จากความต้องการส่วนตัวที่จะถ่ายวิดีโอขณะเล่นเซิร์ฟโดยใช้กล้องที่สามารถติดตั้งกับร่างกายได้จริง กล้องรุ่นแรกเปิดตัวในปี 2004 เป็นกล้องฟิล์มแบบติดข้อมือ และนับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเทรนด์ “กล้องแอคชัน” ที่ไม่เคยมีมาก่อน GoPro ไม่ได้ขายแค่กล้อง แต่ขายประสบการณ์ของการถ่ายวิดีโอแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (POV) ซึ่งเชื่อมโยงกับความตื่นเต้น ผจญภัย และไลฟ์สไตล์กลางแจ้งได้อย่างชัดเจน

ช่วงรุ่งเรืองของ GoPro เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ในรุ่น HERO3 ถึง HERO5 ที่กลายเป็นกล้องคู่ใจของนักผจญภัย Youtuber นักกีฬา extreme และสารคดีระดับโลก กล้องมีขนาดกะทัดรัด ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง กันน้ำได้โดยไม่ต้องใส่เคส และติดตั้งกับอุปกรณ์ได้สารพัดรูปแบบ ทั้งหมดนี้ทำให้ GoPro กลายเป็นแบรนด์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกล้องพกพาในยุคดิจิทัล

เมื่อเข้าสู่ยุคหลังปี 2016 GoPro เริ่มเผชิญกับความท้าทายจากการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของตลาด คู่แข่งรายใหม่อย่าง DJI และ Insta360 นำเสนอมุมมองที่แตกต่าง ทั้งด้านฟีเจอร์ AI, ความยืดหยุ่นในการใช้งาน และราคาที่เข้าถึงง่าย ขณะเดียวกันสมาร์ตโฟนก็มีบทบาทมากขึ้นในโลกของการถ่ายวิดีโอ ทำให้ GoPro ต้องเร่งปรับตัวทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

แม้จะไม่ใช่ผู้เล่นเพียงรายเดียวในตลาดอีกต่อไป และต้องเผชิญกับแรงกดดันจากทั้งคู่แข่งและสมาร์ตโฟนที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ แต่ GoPro ก็ยังคงพยายามรักษาตำแหน่งของตัวเองเอาไว้ รุ่น HERO13 Black ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว สะท้อนความพยายามของแบรนด์ในการขยับเข้าหากลุ่มครีเอเตอร์มืออาชีพมากขึ้น ทั้งด้านคุณภาพวิดีโอและการรองรับเลนส์เสริมที่เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม กระแสความสำเร็จของรุ่นนี้ไม่ได้แรงเหมือนยุครุ่งเรืองในอดีตนัก และในปีนี้ก็มีข่าวลือถึงการเปิดตัวของ GoPro Max 2 กล้อง 360 องศารุ่นใหม่ที่จะเป็นการกลับมาสู่ตลาดที่เริ่มได้รับความสนใจอีกครั้ง แม้ยังไม่แน่ชัดว่าจะสร้างความแตกต่างได้มากพอหรือไม่ แต่ก็ถือเป็นความพยายามอีกครั้งของ GoPro ในการหาจุดยืนท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด.

Insta360 – ผู้เล่นใหม่ที่ใช้นวัตกรรมเปลี่ยนเกม

Insta360 เข้าสู่ตลาดกล้องพกพาในปี 2015 ด้วยแนวทางที่แตกต่างจาก GoPro อย่างชัดเจน แทนที่จะเน้นความทนทานหรือการใช้งานกลางแจ้ง แบรนด์กลับเน้น “มุมมองใหม่” และการควบคุมผ่านแอปมือถือ จุดเริ่มต้นของกระแสเกิดจากกล้อง Insta360 Nano ที่เสียบกับ iPhone และสามารถถ่ายภาพ 360 องศาได้ง่าย ๆ ซึ่งสร้างแรงดึงดูดในหมู่ผู้ใช้ที่ต้องการอะไรแปลกใหม่ สนุก และแชร์ได้ทันที

ช่วงพลิกเกมจริง ๆ คือในปี 2018 กับการเปิดตัว Insta360 One X กล้อง 360 ขนาดพกพาที่มาพร้อมระบบกันสั่น FlowState ที่ลื่นไหลอย่างน่าทึ่ง พร้อมกับแอปที่สามารถตัดต่อ เลือกมุม และสร้างเอฟเฟกต์ได้โดยไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี “ถ่ายก่อน เลือกมุมทีหลัง” นี้เองที่ทำให้ Insta360 แตกต่างจากทุกแบรนด์ และเป็นที่นิยมในกลุ่ม Creator บนโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว

ตลอดระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี Insta360 ขยายผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกล้อง GO ขนาดจิ๋วที่ติดเสื้อได้ กล้อง X-Series ที่ใช้เซนเซอร์คู่ถ่าย 360 องศาความละเอียดสูง หรือ Gimbal อย่าง Flow และ Webcam อย่าง Link แบรนด์เน้นประสบการณ์ที่ “ง่ายแต่ฉลาด” เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานจริง ไม่ว่าจะถ่าย Vlog สายเที่ยว หรือสร้างคอนเทนต์แบบมืออาชีพบนแพลตฟอร์มโซเชียล

ในฝั่ง Insta360 ปีนี้ไลน์อัปชัดเจนและครบโจทย์ขึ้น: X5 จับตลาด 360° ระดับจริงจัง เน้นคุณภาพภาพสูงและเวิร์กโฟลว์ “ถ่ายก่อน-เลือกมุมทีหลัง” ด้วยแอปและ AI ที่ฉลาดกว่าเดิม; GO Ultra คือกล้องจิ๋วสาย Vlog/ท่องเที่ยว โดดเด่นที่ความเล็ก-เบา ติดตั้งแม่เหล็กได้ทุกที่ ถ่ายคล่อง ชาร์จไว และเก่งแสงน้อยขึ้น เหมาะกับครีเอเตอร์ที่อยากหยิบ-ถ่าย-แชร์ทันที; ส่วน ACE Pro 2 เป็นแอ็กชันแคมมุมกว้างร่วมพัฒนาเลนส์กับ Leica โฟกัสที่ภาพสวย สีดี กันสั่นนิ่ง จอพับถ่ายตัวเองสะดวก และกันน้ำลุยงานได้จริง ครอบคลุมตั้งแต่ Vlog ไปจนถึงกีฬาเอ็กซ์ตรีมในตัวเดียว.

DJI – จากโดรนสู่ Action Cam ระดับมืออาชีพ

DJI เป็นแบรนด์ที่เติบโตมาจากอุตสาหกรรมโดรน และได้รับการยอมรับในระดับโลกจากความแม่นยำของกล้องที่ติดตั้งในอากาศ ก่อนจะขยายมาสู่ตลาดกล้องพกพาในปี 2019 ด้วยการเปิดตัว Osmo Action รุ่นแรก ซึ่งสร้างความประหลาดใจในวงการ เพราะแม้จะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ แต่กลับมาพร้อมเทคโนโลยีที่ไม่เป็นรองใคร ทั้งระบบกันสั่น RockSteady ที่พัฒนาต่อยอดจากประสบการณ์ในโดรน และจอสีด้านหน้าแบบ Dual Screen ที่กลายเป็นจุดขายหลักในยุคนั้น

หลังจากเปิดตัว Osmo Action และได้รับกระแสตอบรับในทางบวก DJI เดินหน้าพัฒนาสายกล้องพกพาแบบจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น Osmo Action 2 ที่ออกแบบมาในรูปแบบแยกโมดูล, Action 3–4 ที่เน้นการใช้งานทนทาน และกล้องขนาดเล็กแต่คุณภาพสูงอย่าง DJI Pocket Series ซึ่งมีระบบกันสั่นแบบ Gimbal จริงภายในตัว ช่วยให้ DJI ขยายฐานผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่ม Creator ที่ต้องการความลื่นไหลระดับโปร แต่ไม่ต้องการใช้อุปกรณ์ใหญ่

DJI แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง GoPro และ Insta360 ตรงที่แบรนด์มีความแข็งแกร่งในด้าน “คุณภาพของภาพ” และ “การควบคุมที่เป็นมิตร” ผ่านหน้าจอที่ตอบสนองเร็ว อินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย และระบบเสียงที่จัดการได้ดี ทั้งยังเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่เน้นความสามารถในการใช้งานในที่แสงน้อยและการบันทึกเสียงคุณภาพสูงสำหรับสาย Vlog และสัมภาษณ์ จุดแข็งอีกด้านคือประสบการณ์ในระบบกันสั่นจากโดรน ซึ่งถูกถ่ายทอดลงมากล้องพกพาได้อย่างลื่นไหล

ในปี 2025 DJI ยังคงถูกมองว่าเป็นผู้นำตลาดกล้องพกพา หลังจากที่ Osmo Pocket 3 เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2023 และยังคงขายดีต่อเนื่องจนกลายเป็นมาตรฐานของกล้องกิมบอลพกพาสำหรับสาย Vlog และครีเอเตอร์ทั่วโลก ล่าสุด DJI ได้เดินหน้าสู่ตลาดกล้อง 360 องศาด้วยการเปิดตัว Osmo 360 ที่ผสานเลนส์คุณภาพสูงเข้ากับระบบกันสั่นชื่อดังของแบรนด์ ทำให้ถูกจับตามองทันทีว่าจะสามารถท้าทายคู่แข่งในสนามนี้ได้มากเพียงใด

ในอีกด้าน กล้อง Action 5 ยังคงรักษาฐานผู้ใช้ได้มั่นคง แม้จะไม่ใช่ตัวหลักด้านนวัตกรรม แต่ก็ยังได้รับความนิยมควบคู่ไปกับกระแสของ Insta360 Ace Pro 2 ที่ออกมาในปีเดียวกันและถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรง ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าตลาดกล้องพกพากำลังดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ DJI ยังคงยืนหยัดได้ด้วยชื่อเสียงด้านคุณภาพงานภาพและ Ecosystem ของ Creator ที่ครบวงจร ทั้งกล้อง, ไมโครโฟน, อุปกรณ์เสริม ไปจนถึงโดรนที่เสริมการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ.

รวมแนะนำกล้อง Action Cam ขายดีล่าสุดปี 2025

GoPro HERO13 Black เป็นกล้องแอคชันเรือธงรุ่นล่าสุดที่ยังคงความแข็งแกร่งในด้านความทนทานและระบบกันสั่น HyperSmooth 6.0 ที่ลื่นไหลที่สุดของ GoPro ในปัจจุบัน รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงถึง 5.3K60 และ 4K120 พร้อมภาพนิ่ง 27MP ในรูปแบบ RAW และ HDR จุดขายสำคัญคือการรองรับ เลนส์เสริม HB-Series Mods เช่น Ultrawide, Macro และ Anamorphic ที่ทำให้มุมมองภาพหลากหลายขึ้น ตอบโจทย์สายโปรดักชันและครีเอเตอร์ที่ต้องการกล้องตัวเดียวแต่ใช้งานได้หลายรูปแบบ ทั้งยังมีระบบเสียง Bluetooth, กันน้ำ 10 เมตรโดยไม่ต้องใส่เคส และแบตเตอรี่ Enduro ความจุ 1900mAh ที่ใช้งานต่อเนื่องได้ดี

Insta360 Ace Pro 2 คือกล้องเรือธงรุ่นล่าสุดที่ต่อยอดจากความสำเร็จของ Ace Pro เดิม โดยยังคงจับมือกับ Leica ในการพัฒนาเลนส์มุมกว้าง 157° และอัปเกรดเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.3 นิ้วให้รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 8K 30fps พร้อม Active HDR และระบบกันสั่น FlowState + Horizon Lock ที่นิ่งและลื่นไหลยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นอีกอย่างคือหน้าจอสัมผัสขนาด 2.5 นิ้วแบบพลิกได้ และการควบคุมด้วยเสียงหรือท่าทางที่ช่วยให้ใช้งานสะดวกในทุกสถานการณ์ ทั้งยังกันน้ำลึก 12 เมตรโดยไม่ต้องใช้เคสเสริม และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 3 ชั่วโมง เหมาะกับทั้ง Vlogger และผู้ที่ต้องการกล้องสายแอ็กชันที่ถ่ายได้ครบจบในตัวเดียว

Insta360 X5 เป็นกล้อง 360 องศารุ่นเรือธงที่เพิ่งเปิดตัวช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยอัปเกรดจาก X4 อย่างก้าวกระโดด มาพร้อมความละเอียดสูงสุด 8K 30fps เซ็นเซอร์ใหญ่ 1/1.28 นิ้ว และชิป AI สามตัวที่ช่วยให้การถ่ายในที่แสงน้อยมีคุณภาพดียิ่งขึ้น การใช้งานโหมด Me Mode, Bullet Time และ AI Auto Reframe ยังคงเป็นจุดแข็งที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถถ่ายก่อนแล้วเลือกมุมทีหลังได้ง่ายขึ้น พร้อมกันสั่น FlowState ที่นิ่งสมูท และกันน้ำได้ลึกถึง 15 เมตรโดยไม่ต้องใส่เคสเสริม

Insta360 GO Ultra เป็นกล้องจิ๋วที่เปิดตัวกลางปี 2025 และพัฒนาต่อจาก GO 3S ด้วยการใส่เซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้นขนาด 1/1.28 นิ้ว และใช้ชิปประมวลผล AI 5nm ทำให้รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K 60fps และทำงานได้ดีในที่แสงน้อย แม้มีน้ำหนักเพียง 53 กรัม แต่ยังรองรับกันสั่น FlowState, มุมมองกว้าง 156° และระบบชาร์จไวที่เติม 80% ได้ในราว 10 นาที พร้อมการ์ด SD แบบถอดเปลี่ยนได้และกันน้ำลึก 10 เมตร เหมาะสำหรับสาย Vlog, TikTok, POV ที่ต้องการกล้องเล็ก พกง่าย และฉลาดด้วยฟีเจอร์ AI

DJI Osmo Action 5 คือกล้องแอคชันที่มาพร้อมเซนเซอร์ 1/1.3 นิ้ว ระบบกันสั่น RockSteady 3.5 และ HorizonSteady รองรับการถ่าย 4K120 พร้อมสโลว์โมชั่น 240fps ที่ 2.7K จุดเด่นอยู่ที่จอ OLED คู่ใช้งานง่าย รองรับไมโครโฟนไร้สายผ่าน Bluetooth และกันน้ำได้ลึก 18 เมตรโดยไม่ต้องใส่เคส ทำให้กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Insta360 Ace Pro 2 ซึ่งเน้นความคมชัดของภาพและฟีเจอร์ AI รีเฟรมอัตโนมัติ สะท้อนให้เห็นว่าตลาดกล้องแอคชันกำลังแข่งขันดุเดือด โดยทั้งสองรุ่นถูกวางไว้สำหรับ Creator ที่ต้องการทั้งคุณภาพและความสะดวกในการทำงาน.

Osmo 360 คือกล้อง 360 องศารุ่นแรกของ DJI ที่เปิดตัวในปี 2025 พร้อมเซนเซอร์คู่ 1” square CMOS ที่ให้ภาพนิ่งสูงสุด 120MP และวิดีโอความละเอียด 8K 50fps จุดแข็งคือการผสานคุณภาพเลนส์กับระบบกันสั่น RockSteady 3.0 และ HorizonSteady 360° ที่ช่วยรักษาเส้นขอบฟ้าแม้กล้องหมุนอย่างรุนแรง หน้าจอสัมผัสแนวนอนขนาด 2 นิ้วสว่างชัดใช้งานง่ายแม้กลางแจ้ง แบตเตอรี่ 1,950mAh ใช้งานได้ราว 3 ชั่วโมง และต่อพลังด้วย Battery Extension Rod ได้สูงสุดถึง 4.5 ชั่วโมง พร้อมมาตรฐานกันน้ำ IP68 ลงน้ำลึกได้ 10 เมตรโดยไม่ต้องใส่เคส นี่คือก้าวแรกที่ DJI รุกเข้าสู่ตลาดกล้อง 360 อย่างเต็มตัว และกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Insta360 ในทันที

DJI Osmo Pocket 3 เป็นกล้อง gimbal ขนาดพกพาที่ใช้เซนเซอร์ 1 นิ้ว รองรับวิดีโอ 4K120 พร้อมระบบกันสั่น 3 แกนแบบ mechanical ที่ให้ภาพลื่นไหลกว่าแบบดิจิทัล หน้าจอสัมผัสขนาด 2 นิ้วที่หมุนได้ รองรับ ActiveTrack 6.0 สำหรับติดตามวัตถุอัตโนมัติ จุดเด่นอยู่ที่คุณภาพของภาพในที่แสงน้อย รวมถึงโหมดสี D-Log M และ HLG ที่ตอบโจทย์การทำงานระดับโปร นอกจากนี้ยังรองรับเสียง stereo และไมโครโฟนภายนอก เหมาะกับผู้ถ่าย Vlog แบบ handheld และคอนเทนต์ที่ต้องการความนุ่มนวลแม้ถือถ่ายด้วยมือเปล่า สิ่งที่ทำให้ Pocket 3 แตกต่างคือความลงตัวระหว่างขนาดเล็ก พกง่าย และคุณภาพระดับกล้องโปร จนหลังเปิดตัวในปี 2023 สามารถสร้างยอดขายถล่มทลาย กลายเป็นหนึ่งในกล้องพกพาที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดสองปีที่ผ่านมา ถูกยกให้เป็น “มาตรฐานใหม่” ของกล้องกิมบอลพกพาที่ทั้งครีเอเตอร์มือใหม่และมืออาชีพเลือกใช้.

บทส่งท้าย

ปี 2025 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดกล้องพกพา จากเดิมที่ Action Cam เคยมีภาพจำว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับสายกีฬาเอ็กซ์ตรีม วันนี้กลับกลายเป็นสนามแข่งขันของ “คอนเทนต์ครีเอเตอร์” ทุกระดับ ตั้งแต่มือสมัครเล่นไปจนถึงโปรดักชันเฮาส์ แบรนด์ใหญ่อย่าง DJI, GoPro และ Insta360 ต่างก็เดินหมากรุกกันคนละทาง บางรายเน้นการยกระดับสเปกดิบให้เหนือชั้น บางรายสร้างความต่างด้วยมุมมอง 360 องศา หรือ AI อัจฉริยะที่ช่วยลดขั้นตอนตัดต่อ

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ผู้บริโภคไม่ได้เลือกกล้องแค่เพราะสเปกเพียงอย่างเดียว แต่เลือก “ระบบนิเวศ” ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เสริม แอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย หรือบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ เพราะในโลกที่การถ่ายและแชร์คอนเทนต์เกิดขึ้นแทบจะทันที แบรนด์ที่ตอบโจทย์ความสะดวกและความครบวงจรได้มากกว่า ก็มักจะครองใจผู้ใช้ได้ยาวนานกว่า

สำหรับผู้สนใจกล้องพกพารุ่นล่าสุด การเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีประสบการณ์และความน่าเชื่อถืออย่าง EC MALL จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ไม่เพียงแต่ได้สินค้ารุ่นใหม่ครบทุกแบรนด์ แต่ยังมั่นใจได้ในประกันศูนย์และคำแนะนำจากทีมผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้ผู้ใช้เลือกได้ตรงความต้องการ และพร้อมออกลุยสร้างสรรค์คอนเทนต์ในทุกสถานการณ์