อัตราว่างงาน ‘เด็กจบใหม่’ ยังน่าห่วง

เด็กจบใหม่เสี่ยง ‘ตกงาน’ สูง โดยไตรมาส 2 แตะ 18.9% เหตุเพราะเศรษฐกิจชะลอตัว และการเข้ามาแทนที่ของ AI

‘ยรรยง ไทยเจริญ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) กล่าวว่า ปัญหาการว่างงานของไทยยังน่ากังวล โดยเฉพาะเด็กจบใหม่อายุ 15-24 ปี ที่อัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยไตรมาส 2 ปี 2568 อยู่ที่ 18.9% เพิ่มขึ้นจาก 16.1% ในไตรมาส 1 ปี 2568

เนื่องจาก 1. มาจากเศรษฐกิจชะลอตัว โดยในปีนี้ภาพรวมของ GDP จะเติบโตเพียง 1.8% ส่วนปีหน้ามีแนวโน้ม GDP โตลดลงมาอยู่ที่ 1.5% และ 2. การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โดยเฉพาะการนำ AI เข้ามาใช้ในตำแหน่งระดับเริ่มต้น ที่กดดันให้มีการจ้างงานลดลง

“การว่างงานที่สูงในกลุ่มแรงงานจบใหม่ ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว เพราะจะทำให้ทักษะที่ได้จากระบบการศึกษาของคนกลุ่มนี้หายไปเมื่อไม่มีการนำมาใช้จริงในตลาดแรงงาน และยังเสี่ยงที่แรงงานกลุ่มนี้จะเข้าสู่เศรษฐกิจนอกระบบที่มีรายได้ต่ำ ไม่มีสวัสดิการคุ้มครองที่เพียงพอ”

ดังนั้น เพื่อทำให้ตนเองเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน เด็กจบใหม่จำเป็นต้องเร่งปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ทั้ง Upskill การยกระดับทักษะแรงงาน และ Reskill การเรียนรู้ทักษะใหม่ให้พร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ

นอกจากการว่างงานในกลุ่มเด็กจบใหม่ที่สูงขึ้นแล้ว อีกสัญญาณที่น่ากังวล คือ ‘การว่างงานในระบบประกันสังคม’ ที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จาก 1.8% ในปีก่อนมาอยู่ที่ 2.2% โดยพบว่า ธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงถึงปานกลางอย่างธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ และธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงได้เริ่มปรับลดแรงงานลงแล้ว

  • กลุ่มธุรกิจเสี่ยงสูง เช่น ยางพารา สิ่งทอ อาหารทะเลประเภทกุ้ง และยานยนต์ ฯลฯ มีการจ้างงานลดลง 260,000 คน
  • ธุรกิจเสี่ยงปานกลาง เช่น มันสำปะหลัง น้ำตาล ปาล์มน้ำมัน อาหารสัตว์เลี้ยง ยานยนต์เชิงพาณิชย์ เหล็ก ขนส่ง และโลจิสติกส์ ฯลฯ มีการจ้างงานลดลง 470,000 คน