เป็นอีกหนึ่งคนที่เห็นด้วยว่า AI กำลังอยู่ในช่วง ฟองสบู่ สำหรับ เจฟฟ์ เบซอส (Jeff Bezos) ผู้ก่อตั้ง Amazon แต่เชื่อว่าเทคโนโลยีนี้ เป็นของจริง และจะนำมาซึ่งประโยชน์มหาศาลต่อสังคม แม้ว่าจะต้องมีหลายบริษัทที่ล้มละลายก็ตาม
Jeff Bezos ได้รับคำถามจาก John Elkann CEO ของ Exor บนเวที Italian Tech Week ที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี ว่ามีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรม AI กำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่หรือไม่ ซึ่ง Bezos ตอบว่า นี่คือฟองสบู่อุตสาหกรรมประเภทหนึ่ง โดยเขาได้ชี้ให้เห็นถึงลักษณะสำคัญบางประการของฟองสบู่ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ได้แก่
- ราคาหุ้นตัดขาดจากพื้นฐาน: ราคาหุ้นที่ตัดขาดจากปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ คือ บางธุรกิจยังไม่มีรายได้ หรือมีกำไร แต่มูลค่าหุ้นกลับพุ่งสูง
- ความตื่นเต้นอย่างล้นหลาม: ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นกับ AI มาก
- การระดมทุนอย่างไม่เลือก: ทุกการทดลองหรือแนวคิด ทั้งที่ดีและไม่ดี จะได้รับการสนับสนุนทางการเงิน โดยนักลงทุนจะแยกแยะได้ยากในช่วงที่ทุกคนตื่นเต้น
โดย Bezos ได้ยกตัวอย่างกรณี บริษัทขนาดเล็กที่มีพนักงานเพียง 6 คน แต่ได้รับการระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสัญญาณของฟองสบู่ แต่ Bezos ยืนยันว่า AI เป็นของจริง และมันจะเปลี่ยนแปลงทุกอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า ฟองสบู่อุตสาหกรรม ไม่เหมือนฟองสบู่ทางการเงิน เพราะแม้หลายบริษัทอาจจะล้มละลายไป แต่เทคโนโลยีความรู้จะยังคงเหลืออยู่ ดังนั้น ฟองสบู่ AI อาจส่งผลดีในท้ายที่สุดได้
โดยเขายกตัวอย่าง ฟองสบู่ของบริษัทยาและไบโอเทคในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งนำไปสู่การพัฒนายาช่วยชีวิต แม้ว่าบริษัทหลายแห่งจะล้มละลายไปในที่สุด เช่นเดียวกับ AI ที่อุตสาหกรรมจะได้รับประโยชน์มหาศาลจากเทคโนโลยี เพียงแต่บางบริษัทอาจหายไป แต่ผู้ที่อยู่รอดจะเป็น ผู้สร้างนวัตกรรมระดับที่เปลี่ยนโลก
อย่างไรก็ตาม Jeff Bezos ไม่ใช่คนเดียวที่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับฟองสบู่ AI แต่ แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI ก็ออกมาเตือนว่า นักลงทุนอาจจะกำลังตื่นเต้นกับ AI เกินไป พร้อมกับเปรียบเทียบกระแสการลงทุน AI ตอนนี้กับ ฟองสบู่ดอทคอม (dot-com bubble) ช่วงปลายยุค 1990 ที่นักลงทุนแห่ลงทุนในหุ้นบริษัทอินเทอร์เน็ต แต่เนื่องจากหลายบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้ได้จริง ส่งผลให้ในช่วงระหว่างปี 2000–2002 ดัชนี Nasdaq ร่วงลงเกือบ 80%



