แม้ว่าสัญญาณบวกของ ตลาดพีซีโลก จะเริ่มเห็นตั้งแต่ปี 2024 ที่เติบโตขึ้น +1.3% แต่ภาพยิ่งชัดขึ้นในไตรมาสแรกปี 2025 ที่มียอดจัดส่งรวม 58.9 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นถึง +4.8% นับเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันที่มีการเติบโตหลังจากภาวะชะลอตัวต่อเนื่องหลายไตรมาส
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ตลาดพีซีโลกในปี 2025 กำลังอยู่ในช่วง ฟื้นตัวและเติบโต หลังจากช่วงซบเซา คือ การเปลี่ยนไปใช้ Windows 11 และ การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในพีซี (AI PC) โดยการ์ทเนอร์เผยว่า ภายในสิ้นปีนี้ (2568) คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI PCs จะครองส่วนแบ่งตลาดพีซีทั้งหมดทั่วโลก 31% โดยมียอดจัดส่ง AI PCs ทั่วโลกอยู่ที่ 77.8 ล้านเครื่อง ในปีนี้ จากในปี 2024 AI PCs มีสัดส่วนที่ 15.6%
โดยในปี 2569 คาดการณ์ว่า ยอดจัดส่ง AI PC จะอยู่ที่ 143 ล้านเครื่อง และจะครองส่วนแบ่งตลาดพีซีทั้งหมดถึง 55% โดยอีก 4 ปีข้างหน้า (2572) AI PC จะกลายเป็น มาตรฐานใหม่ ของการใช้งานเครื่องพีซี
Ranjit Atwal ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า แม้ว่าตลาดปีนี้อาจจะต้องเผชิญกับความท้าทายจากมาตรการด้านภาษี ส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของการซื้อ อันเนื่องมาจากเหตุความไม่แน่นอนของตลาด แต่ AI PCs กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงในตลาด โดยผู้ใช้จะลงทุนซื้อ AI PCs เพื่อความมั่นใจว่าพวกเขาพร้อมรับมือกับการนำ AI มาใช้งานมากขึ้นในยุคนี้
อย่างไรก็ตาม ในภาคธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไปจะมีการเลือก AI PC มาใช้งานแตกต่างกัน โดยการตัดสินใจหลัก ๆ จะเน้นไปที่การเลือกแพลตฟอร์มโปรเซสเซอร์ AI PC การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าแล็ปท็อปสถาปัตยกรรม Arm (Arm-based laptops) จะครองส่วนแบ่งในตลาดผู้บริโภคมากกว่าภาคธุรกิจ
ส่วนภาคธุรกิจ ผู้ใช้ให้ความสำคัญกับสถาปัตยกรรม x86 บน Windows ซึ่งคาดว่าจะครองส่วนแบ่งตลาด AI Business Laptop 71% ในปีนี้ ขณะที่ Arm จะอยู่ที่ 24%
เพื่อให้สอดรับกับ AI PC ที่แพร่หลายมากขึ้นในตลาด การ์ทเนอร์คาดว่าภายในสิ้นปี 2569 ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ 40% จะให้ความสำคัญกับการลงทุนความสามารถของ AI ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพโดยตรงของพีซี เพิ่มขึ้นจาก 2% ในปี 2567 และในปีเดียวกันนั้นโมเดลภาษาขนาดเล็กหลายตัว หรือ Multiple Small Language Models (SLMs) จะทำงานอยู่บนพีซีเพิ่มขึ้นจากศูนย์เมื่อปี 2566
โดยโมเดลภาษาขนาดเล็ก (SLMs) ช่วยทำให้การรันฟีเจอร์ AI ขั้นสูงตรงจากพีซีและอุปกรณ์ดีไวซ์อื่น ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้เครื่องตอบสนองรวดเร็วขึ้น ใช้พลังงานลดลง และลดการพึ่งพาบริการคลาวด์ลง โดย SLMs ยังมอบความอัจฉริยะในงานเฉพาะด้าน (Task-Specific Intelligence) ช่วยรักษาข้อมูลของผู้ใช้และธุรกิจให้ปลอดภัย เนื่องจาก AI ทำงานตรงผ่านอุปกรณ์ดีไวซ์
เพื่อปลดล็อกการเติบโตครั้งใหม่ ผู้จำหน่ายคอมพ์ส่วนบุคคลต้องมองให้ไกลกว่าเรื่องฮาร์ดแวร์และการส่งมอบซอฟต์แวร์ที่ถูกกำหนดไว้ โดยหันมายึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลางในการออกแบบ สำหรับรองรับบทบาทและยูสเคสการใช้งานที่มีความเฉพาะ
เนื่องจากอนาคตของ AI PCs ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งเฉพาะของแต่ละคน ซึ่งมันช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าอุปกรณ์ผ่านแอป ฟีเจอร์ และฟังก์ชันได้ตามที่ต้องการ ยิ่งผู้ใช้มีส่วนร่วมกับ AI PC ของผู้จำหน่ายมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ผู้จำหน่ายเข้าใจผู้ใช้มากขึ้นเท่านั้น และทำให้สามารถปรับปรุงคุณภาพพร้อมสร้าง Brand Loyalty ที่แข็งแกร่งขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง



