เชื่อว่าประชาชนชาวไทยล้วนโศกเศร้าเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งพระองค์ทรงเป็นที่รักและเคารพยิ่ง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทยมาอย่างยาวนาน ความรู้สึกสูญเสียนี้จึงส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนไทยจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ความเศร้าโศก เป็นกระบวนการตอบสนองทางธรรมชาติของมนุษย์เมื่อต้องเผชิญกับการสูญเสีย ซึ่งระดับความรุนแรงแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และปัจจัยที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยทั่วไปแล้ว เมื่อรับรู้ได้ถึงการสูญเสีย บุคคลจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการ ทำความเข้าใจ ปรับตัว และยอมรับได้ แต่หากมีอาการโศกเศร้าผิดปกติและไม่สามารถยอมรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง หากปล่อยไว้อาจพัฒนากลายเป็นโรคซึมเศร้าได้
ดังนั้น หากใครที่รู้สึกเสียใจจากการสูญเสียครั้งสำคัญนี้ แต่ไม่รู้จะรับมืออย่างไร Positioning มีแนวทางเยียวยาความเศร้าโศกสำหรับการฟื้นฟูจิตใจมาฝาก
- ปล่อยให้ตัวเองได้อ่อนแอบ้าง และแสดงความอาลัยอย่างเหมาะสม
ความอ่อนแอไม่ใช่เรื่องผิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่ควรเก็บไว้คนเดียว การแสดงความอาลัยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเข้าร่วมพิธีถวายความเคารพ การแต่งกายไว้ทุกข์ หรือการเขียนข้อความแสดงความอาลัย เป็นการปลดปล่อยความรู้สึกอย่างเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับในสังคม ช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว และช่วยให้ก้าวข้ามความเจ็บปวดไปได้
- ไม่สนใจ ไม่นึกถึงไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหา
ถึงแม้บางครั้งความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นยากเกินกว่าจะยอมรับได้ แต่การพยายามปฏิเสธสุดท้ายแล้วเราก็ต้องกลับมาจมอยู่กับความรู้สึกเสียใจเหมือนเดิมอยู่ดี ดังนั้น เตือนตัวเองไว้ทุกครั้งว่าความสูญเสียเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ทุกคนต้องพบเจอ
- หากไม่ไหวก็แค่ขอความช่วยเหลือ
การขอความช่วยเหลือ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย หากจัดการกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ลองหาคนที่ไว้ใจได้ร่วมพูดคุยหรือแบ่งปันเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือมองหาการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสุขภาพจิต หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มีกำลังใจต่อสู้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น
- หมั่นเติมพลังบวกให้กับตนเอง และดูแลสุขภาพกายใจ
ด้วยการทำกิจกรรมเพิ่มความผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกายเบา ๆ การทำสมาธิ หรือการทำกิจกรรมตามความชอบส่วนตัว พร้อม ๆ กับการใส่ใจดูแลสุขภาพอย่างการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย ๆ ก็มั่นใจว่าวันที่จิตใจไม่ไหว ร่างกายยังสู้ต่อได้
ไม่มีใครอยากให้การสูญเสียหรือการพบเจอกับความโศกเศร้าเกิดขึ้น แต่นี่เป็นสัจธรรมของชีวิตมนุษย์ ดังนั้น ขอให้พสกนิกรชาวไทยทุกคนที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ดังกล่าวมีแรงกายแรงใจสู้ และมีชีวิตอยู่ต่อในเส้นทางของตัวเอง ผ่านการ น้อมนำเอาพระราชกรณียกิจและพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ท่าน มาเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต การทำความดี หรือการทำประโยชน์ต่อสังคม เพื่อเปลี่ยนความเศร้าโศกให้เป็นพลังบวกและเป็นการระลึกถึงพระองค์ท่านอย่างยั่งยืน
