กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ สถาบันเทคโนโยลีราชมงคล วิทยาเขตพระนครเหนือ จัดพิธีเปิดตัวและแถลงข่าวโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการและสร้างโอกาสทางการตลาดสำหรับธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ ณ ห้องประชุมใหญ่ สถาบันเทคโนโยลีราชมงคล วิทยาเขตพระนครเหนือ ถนนพิบูลสงคราม เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้
นางเกษสิริ ศิริภากรณ์ รองกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศเริ่มดีขึ้น ทำให้ประชาชนมีกำลังที่จะซื้อรถยนต์มาเป็นของตัวเองมากขึ้น จากสถิติการเพิ่มจำนวนของรถยนต์ในประเทศ คาดว่าในปี 2546 จะมีรถยนต์จดทะเบียนทั่วประเทศประมาณ 8.2 ล้านคัน ในจำนวนดังกล่าวเป็นรถยนต์ใช้แล้วมากกว่าร้อยละ 90 จึงทำให้ธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นด้วย ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาธุรกิจ SMEs เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ ธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์จึงเป็นธุรกิจที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันสู่ตลาดสากล เนื่องจากฝีมือช่างซ่อมรถยนต์คนไทยเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ไม่น้อยหน้าคนต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการบริหารจัดการธุรกิจ มีความจำเป็นต้องพัฒนาเพิ่มเติม
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงได้ร่วมมือกับศูนย์ส่งเสริมและเผยแพร่เทคโนโยลี (ประเทศไทย) สถาบันเทคโนโยลีราชมงคล วิทยาเขตพระนครเหนือ จัดทำโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการและสร้างโอกาสทางการตลาดสำหรับธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ เพื่อปรับสร้างแนวคิดในการทำธุรกิจอู่ซ่อมรถให้พร้อมรับการแข่งขัน พัฒนาความสามารถและทักษะของผู้ประกอบการให้มีศักยภาพก้าวสู่ตลาดสากล
การอบรมจะจัดขึ้น 2 รุ่น ระยะเวลาตลอดหลักสูตร 60 ชั่วโมง โดยมีผู้เข้ารับการอบรมรุ่นละ 60 คน รุ่นที่ 1 สำหรับอู่ซ่อมรถยนต์ที่เปิดมาแล้วตั้งแต่ 3 ปี และมีคนงาน 30 คนขึ้นไป เริ่มวันที่ 21 พฤศจิกายน 2546 และรุ่นที่ 2 สำหรับอู่ซ่อมรถยนต์ที่เปิดมาแล้วไม่เกิน 3 ปี และมีจำนวนคนงานน้อยกว่า 30 คนขึ้นไป เริ่มวันที่ 21 ธันวาคม 2546 ทั้งนี้คาดว่าหลังจากการอบรมเสร็จสิ้นลงจะสามารถเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ในรุ่นต่อๆ ไป อันเป็นการยกระดับธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ให้มีมาตรฐานการจัดการในระดับที่เท่าเทียมกันในอนาคต
รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ทำความตกลงร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ให้สิทธิแก่ผู้ที่สำเร็จการอบรมตามหลักสูตร 60 ชั่วโมง สามารถยื่นหลักฐานขอรับการพิจารณาสินเชื่อเร่งด่วน (Fast Track) ที่เป็นช่องทางพิเศษในการพิจารณาสินเชื่อและหลักประกันในวงเงิน 50,000 ถึง 500,000 บาทอีกด้วย