“การ์เด้น แอทลาส” เปิดตัวโครงการ “GARDEN ATLAS BAYVIEW” บนอ่าวมะขาม แหลมพันวา มูลค่า 2,000 ล้านบาท ชูแนวคิด “Monaco of Asia” ดันภูเก็ตสู่จุดหมายใหม่ของ Maritime Luxury Living

“การ์เด้น แอทลาส” (Garden Atlas) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ เปิดตัวโครงการใหม่ “GARDEN ATLAS BAYVIEW” มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 16 ไร่ ทำเล “อ่าวมะขาม-  แหลมพันวา” จังหวัดภูเก็ต เพียง 15 ยูนิต ราคาเฉลี่ยหลังละ 150 ล้านบาท ตั้งเป้าปั้นทำเลนี้ให้กลายเป็น “Monaco of Asia” เมืองแห่งไลฟ์สไตล์ริมทะเลสุดหรูของเอเชีย

นายต่อศักดิ์ ใจชื่น ซีอีโอ บริษัท การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่า จำกัด ผู้พัฒนาโครงการพักอาศัยระดับ Ultra Luxury เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW โครงการบ้านพักอาศัยระดับ Ultra Luxury บนทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา จังหวัดภูเก็ต บนพื้นที่ 16 ไร่ จำนวน 15 ยูนิต ราคาเฉลี่ยหลังละ 150 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท วิลล่าถูกออกแบบมีฟังก์ชันแบบบ้านขนาดใหญ่ 6 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 3 สเปซพักผ่อน 3 ที่จอดรถ 2 สระว่ายน้ำ พร้อมพูลเดย์เบดแบบฮันนีมูนซีท 6 ชุดอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 6×15 เมตร และมีพื้นที่พิเศษสวนลอยฟ้าพร้อมศาลา มีพื้นที่ใช้สอยทั้งภายในและภายนอกรวมประมาณ 1,585 ตารางเมตร

โครงการพัฒนาภายใต้แนวคิด Timeless ที่มีความงดงามร่วมสมัยเหนือกาลเวลา ด้วยวิลล่าสไตล์ Modern Bali Contemporary เลือกใช้วัสดุโทนสีชนิดดูแลง่าย Low Maintenance เพื่อการอยู่อาศัยแบบ Well being ใช้วัสดุเกรด Hi-end ทั้งหลัง โดยเน้นสร้างประสบการณ์การพักอาศัยที่แตกต่าง ทั้งการพักอาศัยระยะสั้น ระยะยาวหรือช่วงวันพิเศษ จอดรถได้กว่า 30 คัน พร้อมพื้นที่จัดงานกิจกรรม ซึ่งรองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มากถึง 150 คน

การที่บริษัทเลือกพัฒนาโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW ในทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา เพราะเป็นทำเลศักยภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต บริเวณแห่งนี้มีความเหมือนกับเมืองชายฝั่งสำคัญของโลกอย่างโมนาโกที่มีพื้นที่เพียง 2.02 ตารางกิโลเมตร เล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส และมีพื้นที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่หรูหราและมั่งคั่ง จึงเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองมหาเศรษฐีที่มีชีวิตความเป็นอยู่หรูหรา ทำให้คาดว่าไม่เกิน 10 ปีอ่าวมะขาม แหลมพันวาจะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับโมนาโก เพราะปัจจุบันโมนาโกมีข้อจำกัดไม่สามารถพัฒนาโครงการใหม่ได้และราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงมากขึ้น ราคาคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 52,000-130,000 ยูโรต่อตารางเมตร หากเปรียบด้านราคาอสังหาฯ บนพื้นที่อ่าวมะขาม แหลมพันวา ถือว่าแพงกว่าหลายเท่าตัว เทียบกับราคาอสังหาฯ ในพื้นที่อ่าวมะขาม แหลมพันวา ที่ราคายังจับต้องได้และมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามศักยภาพของพื้นที่ที่จะถูกพัฒนาให้เจริญมากขึ้น

“จากประสบการณ์ในการพัฒนาบ้านพักอาศัยมากว่า 20 ปี มองเห็นศักยภาพของทำเลดังกล่าว ซึ่งจะพัฒนาและเติบโตเป็นจุดหมายปลายทางของ Maritime Luxury Living พื้นที่การอยู่อาศัยระดับบนและไลฟ์สไตล์แบบเมืองชายฝั่ง เพราะมองเห็นวิวทะเลบนเนินเขา (Hilltop) เห็นวิวได้แบบพาโนรามา ได้ถึง 3 อ่าว และมีท่าจอดเรือ ถือว่าเป็น Rare Coastal Location ซึ่งอยู่ในฝั่งทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต แหลมพันวา จะกลายเป็น Monaco of Asia เมืองชายทะเลชั้นนำระดับนานาชาติที่ผู้ซื้อไม่ได้เป็นเจ้าของเพียงบ้านแต่คือผู้มีไลฟ์สไตล์ระดับโลก การซื้ออสังหาฯ ในทำเลนี้จึงถือว่าได้ราคาที่คุ้มค่า และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตด้วย”ผู้บริหารกล่าว

ทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา ยังมีความโดดเด่นเหนือกว่าที่ใด ๆ ในเกาะภูเก็ต คือ 1.True Coastal Privacy เป็นพื้นที่ชายฝั่งสงบ หายาก และไม่ถูกรบกวน 2.Maritime-Ready Location สภาพอ่าวเป็นพื้นที่ทะเลมีน้ำลึกและสันอ่าวนิ่ง จึงเหมาะสมสำหรับการการจอดเรือยอร์ชและการเดินเรือสากล 3.Seamless Yachting Access ใกล้ท่าเรือระดับนานาชาติ และบริการ Ocean Leisure ครบวงจร 4.Scarcity Drives Value ทำเลติดอ่าวที่มีจำนวนจำกัด คือ สินทรัพย์ที่มูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา และ 5.Prestigious อ่าวเดียวในภูเก็ตที่การเดินทางไม่ได้จำกัดเพียงทางรถ แต่ยังสามารถเดินทางด้วยเรือ ที่สำคัญในอนาคตจะสามารถเดินทางได้ด้วยเครื่องบินสำหรับการเดินทางทางน้ำ หรือ Seaplane ที่ทำให้การเดินทางสู่จุดหมายการท่องเที่ยวเป็นไปได้อย่างง่ายดายและไม่เหมือนใคร ซึ่งภาครัฐและเอกชนกำลังผลักดันการพัฒนาเทอร์มินัลซีเพลนที่ภูเก็ต เพื่อเชื่อมรีสอร์ตเดสติเนชันทั้งสมุย พัทยา และหัวหิน เข้าด้วยกัน ช่วยลดเวลาเดินทางข้ามอ่าวไทยและอันดามัน ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดทำ EIA และผลักดันเชิงนโยบาย

“จากจุดเริ่มต้นในการพัฒนาโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW เชื่อว่าจะมีส่วนผลักดันให้พื้นที่บริเวณอ่าวมะขาม แหลมพันวา กลายเป็น Monaco of Asia เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่คือผู้สร้างทิศทางการตลาดใหม่ในระดับโลก หรือผู้นำเทรนด์ (Trendsetter) ไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาออกแบบโครงการเท่านั้น ประสบการณ์ที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาวิลล่าระดับราคา 1 ล้านดอลล่าร์ที่เป็น Villa Inland เป็นคนแรกๆ หลังจากนั้นมีดีเวลลอปเปอร์หันมาพัฒนาโครงการลักษณะดังกล่าวตามเป็นจำนวนมาก เราจึงต้อง Beyond ตัวเองเข้ามาพัฒนาพื้นที่ใหม่โดยศักยภาพของพื้นที่อ่าวมะขาม แหลมพันวา และจังหวัดภูเก็ต จะโฟกัสกลุ่ม Ultra Rich หรือผู้มีสินทรัพย์ระดับพันล้านดอลล่าร์เลือกมาพักอาศัยที่นี่” นายต่อศักดิ์กล่าว

ซีอีโอยังเปิดเผยถึงการพัฒนาโครงการต่ออีกว่า บริษัทยังได้นำแนวคิดในการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ คือ “Life Curated” มาใช้ในการพัฒนาโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW ถือแนวคิดใหม่ของการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ เพราะผู้เป็นเจ้าของจะสามารถออกแบบชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองได้ตามความต้องการ ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าของโครงการที่เป็นเจ้าของธุรกิจทั้งในประเทศไทย รวมถึงกลุ่มนักลงทุนผู้มั่งคั่งทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม Hybrid Billionaire ผู้มีวิสัยทัศน์สามารถมองเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของวิลล่าในโครงการ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการให้เช่ากับกลุ่มลูกค้าระดับบนได้คืนละ 1,650-4,200 ดอลล่าร์ และยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตามกาลเวลาเมื่อถือครองต่อไปในอนาคต เป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าสูง

“ทำเล “อ่าวมะขาม–แหลมพันวา” ถือเป็น Rare Location ที่มีศักยภาพเติบโตสูง อัตราขึ้นของราคาที่ดินเฉลี่ย 10–15% ต่อปี เรามองว่าภูเก็ตโดดเด่นด้าน Value for Money — ไม่ใช่เพราะถูก แต่เพราะสิ่งที่ได้รับเกินมูลค่าที่จ่าย เช่น บ้านกว่า 500 ตร.ม. พร้อมวิวทะเลและคุณภาพชีวิตเหนือระดับ ในราคาที่คอนโดโมนาโกให้ได้เพียง 16 ตร.ม.” — นายต่อศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดที่พักอาศัยตากอากาศประเภทวิลล่ามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าปี 2567 มียอดขายเพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนหน้า ซึ่งต้องถือว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา หากพิจารณาโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ที่มีมูลค่ามากกว่าหลังละ 90 ล้านขึ้นไป ซัพพลายในตลาดมีเพียง 6.89% ซึ่งมียอดขายแล้วกว่า 76% โดยทำเลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดคือทำเลชายฝั่งตะวันออก (ทิศใต้) สามารถทำยอดขายได้สูงที่สุดถึง 92.8% เหตุผลที่ทำเลนี้ได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับตลาดลักซ์ชัวรี่นี้คือ ทัศนียภาพอันงดงามของวิวทะเล ที่เรียงรายด้วยเกาะแก่งต่างๆ ทำให้วิวที่อยู่เบื้องหน้างดงาม อีกทั้งยังเห็นเรือสำราญจอดเทียบท่า จึงทำให้ภาพทิวทัศน์เปลี่ยนไปทุกวัน ทำให้ทำเลนี้เป็นทำเลศักยภาพ ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนและผู้ซื้อระดับบนจากทั่วโลกที่ต้องการไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ พร้อมการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ให้เข้ามาจับจองวิลล่าหรู
ทั้งนี้ จากพฤติกรรมลูกค้าที่ซื้อที่พักอาศัยตากอากาศประเภทวิลล่านี้ มีจุดประสงค์ในการซื้อเพื่อการลงทุน 68% และเพื่ออยู่อาศัยเอง 31% แบ่งเป็นสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 57% และชาวต่างชาติ 43% ซึ่งลูกค้าชาวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากโซนยุโรป อเมริกาและโซนเอเชีย ได้แก่ อังกฤษ ฮ่องกงและอเมริกาตามลำดับ