รู้จัก ‘Cloudflare’ ทำไมเมื่อมีปัญหา ถึงทำหลายเว็บไซต์มีปัญหาตามไปด้วย?

ในช่วงค่ำวันนี้ หลายคนที่กำลังทำงานแพลตฟอร์มอย่าง X (Twitter), ChatGPT, Spotify, และ Canva ต่างก็เจอปัญหาล่ม ซึ่งสาเหตุก็มาจาก Cloudflare มีปัญหา ซึ่งหลายคนคงงงว่ามันคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ทำไมถึงลากหลาย ๆ แพลตฟอร์มล่มตามไปด้วย

Cloudflare คือบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการด้าน ความปลอดภัย และ ประสิทธิภาพ สำหรับเว็บไซต์ผ่านระบบคลาวด์ (Cloud) พูดง่าย ๆ คือ เป็น ตัวกลาง ระหว่างคนที่เข้าเว็บไซต์ (ผู้เข้าชม) กับเซิร์ฟเวอร์หลักที่เก็บข้อมูลเว็บไซต์

หน้าที่แรกของ Cloudflare เป็นเหมือน ยามรักษาความปลอดภัย เมื่อมีคนพยายามเข้าเว็บไซต์ ข้อมูลจะผ่านเครือข่ายของ Cloudflare ก่อน ซึ่งจะเป็นการช่วยกรองการเข้าถึงที่ไม่ปลอดภัย เช่น การโจมตีทางไซเบอร์ (DDoS) หรือบอตที่ไม่หวังดี ก่อนที่คำขอเหล่านั้นจะไปถึงเซิร์ฟเวอร์จริงของคุณ

อีกหน้าที่ก็คือ เป็นเครือข่ายส่งของด่วน (CDN) โดย Cloudflare มีเซิร์ฟเวอร์กระจายอยู่ทั่วโลก เมื่อผู้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลและรูปภาพต่าง ๆ ของเว็บไซต์จะถูกส่งมาจากเซิร์ฟเวอร์ของ Cloudflare ที่ อยู่ใกล้กับผู้เข้าชมมากที่สุด ช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ เพราะข้อมูลถูกส่งจากเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ที่สุด

นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสถียร ช่วยลดภาระของเซิร์ฟเวอร์หลักของคุณ ทำให้เว็บไซต์ยังคงทำงานได้แม้ในช่วงที่มีคนเข้าเยอะผิดปกติ

ดังนั้น ถ้า Cloudflare มีปัญหา เว็บไซต์ก็โหลดช้าลง เพราะข้อมูลทั้งหมดต้องถูกส่งมาจากเซิร์ฟเวอร์หลักที่อาจอยู่ไกล ทำให้ผู้เข้าชมต้องรอนานขึ้น เว็บไซต์ก็จะเสี่ยงต่อการโจมตี เพราะไม่มีเกราะป้องกันโดยตรง หากถูกโจมตีแบบ DDoS เว็บไซต์อาจล่ม และเข้าใช้งานไม่ได้

สรุปแล้ว Cloudflare ช่วยให้เว็บไซต์ เร็ว ปลอดภัย และพร้อมใช้งานเสมอ นั่นเอง โดยปัจจุบัน  Cloudflare มีส่วนในการดูแลอินเทอร์เน็ตกว่า 25% ทั่วโลก