ไม่บ่อยนักที่ ‘พีช-พชร จิราธิวัฒน์’ จะขึ้นมาแชร์มุมมองในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท ร็อคส์ พีซี จำกัด ที่พา Potato Corner ในไทยเติบโตได้เร็วมาก ยังไม่รวม UNO Coffee และข้าวโซอิ ซึ่งขณะที่หลายคนกำลังบ่นและกังวลเรื่องสภาพเศรฐกิจ เขากลับบอกว่า เวลานี้คือโอกาสทองที่ SMEs จะสามารถโตได้อย่างเร็ว ถ้าว่องไวและพยายามทำให้เกิด Value มากพอ
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า แม้ Personal Branding หรือการมีชื่อเสียง จะส่งผลต่อการรับรู้แบรนด์และทำให้ธุรกิจเติบโต แต่นั่นเป็นสิ่งสำคัญเฉพาะช่วงเริ่มต้นธุรกิจ เพราะในระยะยาวแล้ว แบรนด์ต้องสามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง
เรื่องราวเหล่านี้ ‘พีช-พชร’ ได้แชร์บนเวทีเสวนาเรื่อง ทางรอด SMEs ไทย ในงาน BITKUB SUMMIT 2025 โดยเริ่มต้นเล่าถึงการเข้ามาในธุรกิจอาหารว่า เป็นความฝันตั้งแต่เป็นเด็กประถมที่อยากมีร้านอาหารเป็นอย่างตัวเอง เพราะเป็นคนชอบกิน และเมื่อเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยในคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เจอเพื่อนกลุ่มนึงจึงอยากลองทำธุรกิจดู
“ตอนเข้ามหาวิทยาลัยเลือกเรียนด้านธุรกิจ แล้วช่วงนั้นมีเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาชวนว่า อยากลองทำอะไรใหม่ ๆ ซึ่งถ้าเป็นวัยรุ่นทั่วไปอาจจะตั้งวงดนตรี แต่เพื่อนเล่นดนตรีไม่เป็น เลยมองหากิจกรรมอื่นทำด้วยกันแทน”
กิจกรรมที่ว่า ก็คือ การทำร้านอาหาร โดยตอนแรกลองทำหลายโมเดล ทั้งร้านอาหารแบบ full service, ร้าน dining เต็มรูปแบบ แต่ด้วยประสบการณ์น้อยเมื่อลงมือทำจริงกลับพบปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็น การบริหารจัดการ ทั้งสต็อกวัตถุดิบและต้นทุนที่คุมยาก ทำให้ปรับโมเดลเรื่อย ๆ
กระทั่งเจอโปรดักต์ที่เหมาะกับตัวเอง นั่นคือ ‘ของกินเล่น’ ที่บริหารจัดการง่าย ไม่ซับซ้อน และตรงกับความชอบส่วนตัวของเขาที่ชอบกินสแน็กอยู่แล้ว จึงรวมตัวกันทำธุรกิจ ‘Potato Corner’ แฟรนไชส์ชื่อดังจากประเทศฟิลิปินส์
“โชคดีที่เพื่อนเล่นดนตรีไม่เป็น เพราะนั่นทำให้ได้มาทำธุรกิจด้วยกันจนถึงทุกวันนี้”
เขาเล่าอีกว่า Potato Corner ในฟิลิปปินส์ จะเป็นร้านรถเข็นหรือคีออสขนาดเล็กมีรูปแบบง่าย ๆ ตั้งขายอยู่ตามตลาด ไม่มีที่นั่งกิน และแม้แบรนด์ดังกล่าวจะมี Playbook จาก Global Brand อยู่แล้ว แต่ด้วยคนไทยรสนิยมและพฤติกรรมการกินแตกต่างจากประเทศอื่น ทำให้การนำ Potato Corner เข้ามาไทยต้องทำการบ้านกันอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องสูตรอาหารและบรรยากาศของร้าน
สำหรับรสชาติอาหาร แบรนด์จะมี 4 รสชาติหลักที่เป็นเอกลักษณ์และเปลี่ยนไม่ได้ แต่ในรายละเอียดของรสชาติเรามีการปรับสูตรใหม่ทั้งหมดใช้เวลาทำ R&D นานถึงปีครึ่ง เพื่อให้ตรงกับรสนิยมการกินของคนไทยถึงเปิดตัวจริง และทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีก จนได้สิ่งที่ถูกปากถูกใจลูกค้าไทย
ดังนั้น Potato Corner ในไทย จึงเป็นการ Localization ปรับให้เข้ากับคนในพื้นที่ ซึ่งนอกจากสูตรอาหารแล้ว ยังรวมไปถึงรูปแบบร้าน และวิธีทำการตลาด ที่เรียกว่า ต้องออกแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความคาดหวังของผู้บริโภคไทยโดยเฉพาะ
“การแข่งขันของตลาด F&B ในไทยดุเดือดมาก ดังนั้นต้องจัดหนักกว่าตลาดอื่น ๆ ทั้งความคิดสร้างสรรค์และความละเอียดในการสื่อสาร แบบที่เรียกได้ว่า แทบจะต้องรื้อ Playbook จากต่างประเทศทิ้ง แล้วเขียนขึ้นใหม่ให้เหมาะกับบริบทของบ้านเรา”
หลายคนอาจมองว่า การเป็นคนดังมีชื่อเสียง พ่วงด้วยตำแหน่ง ‘ทายาทตระกูลจิราธิวัฒน์’ น่าจะเป็นใบเบิกทางชั้นดีกับธุรกิจของพีช-พชร ซึ่งเขาบอกว่า Personal Branding เป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์สำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ แต่ในระยะยาวแล้ว แบรนด์ต้องสามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง
“ผมมองว่า Personal Branding ช่วยให้การเริ่มต้นของแบรนด์เดินได้เร็วขึ้น เพราะคนรู้จักเรา แต่วันหนึ่งถ้าเราไม่อยู่ แบรนด์จะไปต่อยังไง ถ้ามันผูกติดอยู่กับตัวเรามากเกินไป โดยสิ่งที่ผมคิดถึงความยั่งยืนในระยะยาวของธุรกิจ คือจะสร้างระบบยังไงให้แบรนด์อยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งตัวเรา”
เพราะในฐานะเจ้าของธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อทีมงาน ต่อคนที่ร่วมเดินทางกับเรา หากวันหนึ่งหากอยากไปทำอย่างอื่น หรือหลีกไปทำบทบาทอื่น ระบบที่สร้างไว้จะทำให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อได้ด้วยตัวเอง เป็นของที่ส่งต่อให้เขาได้จริง ๆ
ส่วนการใช้ Personal Branding เข้ามาช่วยสร้างธุรกิจจะดีหรือไม่ดี?
พีช-พชร มองว่า ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของแต่ละธุรกิจและแนวคิดของแต่ละคน แต่สิ่งที่เขาเชื่อ คือ ถ้าไม่ผูกตัวเองกับแบรนด์มากเกินไป จะมีอิสระในการสร้างสรรค์มากขึ้นเพราะแบรนด์จะมี flexibility และ agility ในการเติบโต
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจไม่ดี จนหลายคนออกปาก ‘เป็น SMEs ลำบาก’ ทว่าเขากลับมองต่างออกไป โดยเชื่อว่า เวลานี้คือช่วงเวลาที่ SMEs จะโตได้เร็วที่สุด เพราะองค์กรใหญ่จะขับเคลื่อนได้ยากลำบากกว่า จากต้นทุนและภาระต่าง ๆ ที่แบกเอาไว้สูง
ขณะที่ SMEs สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า คล่องตัวกว่า และถ้าว่องไว พยายามทำให้เกิด Value ให้มากสุด ซึ่งพีช-พชร บอกว่า นั่นคือโอกาสทอง
“ช่วงนี้หลายคนเหนื่อย หลายคนท้อ ผมอยากให้กำลังใจว่า มันคือเวลาของเราจริง ๆ คือเวลาที่ทุกคนต้องสู้”
เมื่อมองย้อนมาดูผลประกอบการของบริษัท ร็อคส์ พีซี จำกัด จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์จะพบว่า มีการเติบโตที่ดี
- ปี 2564 รายได้ 414.2 ล้านบาท กำไร 1.7 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 528.2 ล้านบาท กำไร 25.3 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 652.9 ล้านบาท กำไร 35.4 ล้านบาท
- ปี 2567 รายได้ 790.5 ล้านบาท กำไร 62.1 ล้านบาท



