แคนนอน และ อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ ผนึกพลังสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่ ผสานเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก ซัพพอร์ตอุตสาหกรรมการผลิตสื่อครบวงจรของเมืองไทย

แคนนอน (CANON) ผู้นำด้านเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก นำโดยนายฮิโรชิ โยโกตะ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร และบริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการผลิตสื่อและคอนเทนต์ครบวงจรของเมืองไทย โดยนายนรรัตน์ ลิ่มนรรัตน์ (ที่ 4 จากซ้าย) รองประธานคณะกรรมการบริหาร ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวใน “Strategic Partnership Program” ผสานจุดแข็งด้านเทคโนโลยีการพิมพ์และโซลูชันอิมเมจจิ้งของแคนนอน เข้ากับศักยภาพการผลิตสื่อและแพลตฟอร์มการสื่อสารที่หลากหลายของอมรินทร์ เพื่อร่วมกันยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมสื่อ ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ และเสริมพลังด้านการตลาดร่วมกันให้ครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์ ออนกราวนด์ และการจัดอีเวนต์ ประเดิมโครงการแรกโดยทางอมรินทร์เลือกติดตั้งเครื่องพิมพ์ Canon ColorStream 8000 Series เป็นรายแรกในประเทศไทย เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการพิมพ์ให้รองรับดีมานด์ตลาดหนังสือยุคใหม่ที่ต้องการทั้งคุณภาพ ความรวดเร็ว ไม่จำกัดจำนวนงานพิมพ์ พร้อมกับอนุรักษ์พลังงานในเวลาเดียวกัน

นายโทเดะ คัตสึยะ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจงานพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (เอเชีย) กล่าวว่า “แคนนอนมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับอมรินทร์ ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำที่ในอุตสาหกรรมสื่อและสิ่งพิมพ์ของประเทศไทย ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การติดตั้งเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ที่เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ แต่คือจุดเริ่มต้นของการร่วมมือแบบพันธมิตรทางธุรกิจครั้งสำคัญแห่งอนาคต เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้อ่านในอนาคต เพราะเรามีความเชื่อมั่นว่า ศักยภาพความเป็นผู้นำที่ครอบคลุมของอมรินทร์ ผสานกับความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งของแคนนอน จะเปิดทางให้เกิดโครงการที่มีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมสื่อและสังคมไทยอีกมากมาย และในโอกาสนี้ แคนนอนขอขอบคุณอมรินทร์ที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ ColorStream 8000 Series เป็นครั้งแรกของประเทศ ซึ่งเราขอเน้นย้ำว่า แคนนอนไม่ได้สนับสนุนเฉพาะการติดตั้งเครื่องจักรเท่านั้น แต่ยังมอบโซลูชันงานพิมพ์แบบครบวงจรพร้อม Professional Service Support ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสนับสนุนให้อมรินทร์และพาร์ตเนอร์ธุรกิจทุกฝ่าย เติบโตไปพร้อมกับเราได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคง”

หัวใจสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อมั่นในศักยภาพระดับผู้นำของทั้งสองฝ่าย โดยแคนนอนเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกด้านเทคโนโลยีการพิมพ์และอิมเมจจิ้ง นับตั้งแต่โซลูชันงานพิมพ์เชิงพาณิชย์ เครื่องพิมพ์สำนักงานกล้องพร้อมอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง ไปจนถึงเทคโนโลยีการถ่ายภาพและวิดีโอระดับมืออาชีพ ขณะที่อมรินทร์ในฐานะหนึ่งในกลุ่มบริษัท TCC Group ถือเป็น Media partner แถวหน้าของเมืองไทยและเป็นผู้บริหารแพลตฟอร์มการสื่อสารที่ครบวงจรทั้ง Online / On Ground / On Fair / On Event ด้วยทีมงานที่เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์และการผลิตคอนเทนต์คุณภาพอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือครั้งนี้จึงถือเป็นการพัฒนาธุรกิจของทั้งสองฝ่าย โดยอมรินทร์จะได้โซลูชันการทำงานที่ตอบโจทย์ดีมานด์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่คุณภาพ ความคุ้มค่า และบริการสนับสนุนระดับพรีเมียมจากแคนนอน ในขณะที่แคนนอนจะได้ใช้ศักยภาพของแพลตฟอร์มสื่ออันแข็งแกร่งของอมรินทร์ในการต่อยอดการตลาด โปรโมตโครงการต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยจุดแข็งในระดับ Industrial leader ของทั้งสององค์กร ทำให้การจับมือครั้งนี้สามารถปูทางไปสู่โครงการอื่น ๆ อีกมากมาย

จับตาเทรนด์ตลาดสิ่งพิมพ์ไทย – จากแหล่งความรู้ สู่ของสะสมที่มีมูลค่า

ในฐานะสำนักพิมพ์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้อมรินทร์มีดาต้าในมือเป็นจำนวนมากและมองเห็นอินไซต์พฤติกรรม    ผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งพบว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้มองหนังสือเป็นเพียงสื่อสำหรับการอ่านเท่านั้น แต่ได้กลายเป็น Collectable Items ที่มีคุณค่าทางจิตใจ ใช้เติมเต็มไลฟ์สไตล์การอ่านให้มีอรรถรสมากขึ้น และยังเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้าน เช่น การสั่งหนังสือในรูปแบบบ็อกซ์เซต ทั้งนิยาย ไลฟ์สไตล์ และการ์ตูน ส่งผลให้การผลิตหนังสือต้องใช้เทคนิคที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การพิมพ์ขอบสเปรย์ การเข้าเล่มปกแข็งพิเศษ การปั๊มเพื่อเพิ่มมูลค่า ไปจนถึงการใช้วัสดุใหม่ ๆ เทรนด์เหล่านี้ยิ่งเห็นได้อย่างชัดเจนจากยอดผู้เข้าร่วมงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมาซึ่งเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการซื้อหนังสือเพื่อสะสมตามรสนิยมเฉพาะตัว มากกว่าจะซื้อเพื่ออ่านเพียงอย่างเดียว

กลยุทธ์การปรับตัวของอมรินทร์: จากออฟเซตสู่ดิจิทัลอิงค์เจ็ทเต็มรูปแบบ

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนว่า ผู้บริโภคยุคใหม่คาดหวังให้หนังสือแต่ละเล่มมีดีไซน์และคุณภาพการพิมพ์แบบ High Quality กล่าวคือ มิติด้าน Volume การพิมพ์อาจเติบโตอย่างช้า ๆ แต่มูลค่าต่อเล่มกลับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อมรินทร์จึงเร่งยกระดับมาตรฐานการผลิตตลอดซัพพลายเชน จากเดิมที่ใช้ระบบออฟเซตซึ่งต้องพึ่งพาจำนวนพิมพ์สูงจึงจะคุ้มทุนและยังใช้พลังงานมาก บริษัทฯ ได้หันมาลงทุนเฟสแรกด้วยการปรับเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลอิงค์เจ็ท โดยทำการศึกษา เปรียบเทียบสเปกจากหลายแบรนด์อย่างละเอียด ซึ่งใช้เวลานานกว่า 3 เดือนในการเดินทางไปทดสอบเครื่องจริงทั้งที่ประเทศจีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี ก่อนจะพบว่าเทคโนโลยีอิงค์เจ็ทของแคนนอนตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน ทั้งในด้านคุณภาพ ความเร็ว ความเสถียร ความคุ้มค่าและการประหยัดพลังงาน

นอกจากตัวเครื่องพิมพ์ อมรินทร์ยังให้ความสำคัญกับซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานอย่าง Raster Image Processing (RIP) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการจัดการตั้งแต่ไฟล์ต้นฉบับ การวางเลย์เอาต์เพื่อประหยัดกระดาษ      ไปจนถึงการทำ Colour Conversion ให้ได้สีตรงตามมาตรฐาน เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพงานพิมพ์ได้สม่ำเสมอในทุกล็อตการผลิต

นายรวี วัฒนเชื้อ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อมรินทร์ให้ความสำคัญอย่างมากกับการคัดเลือกระบบการพิมพ์ใหม่ เราทำเทสต์อย่างหนัก เปรียบเทียบในทุกแง่มุมทั้งด้านประสิทธิ ภาพ คุณภาพงานพิมพ์ และการใช้งานจริงในเงื่อนไขการผลิตของเรา ผลลัพธ์คือระบบของแคนนอนให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งการประมวลผลไฟล์ที่รวดเร็ว การปรับตั้งเครื่องที่ง่ายดาย และเป็นมิตรกับคนทำงาน เราจึงตัดสินใจเลือก ColorStream 8000 Series และยิ่งมั่นใจมากขึ้นกับระบบเซอร์วิสที่เข้มแข็งและไว้ใจได้ ทั้งด้านโครงสร้างค่าใช้จ่ายและการดูแลแบบ 24/7 พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญชุดเดิมที่เข้าใจเนื้องาน และสนับสนุนการทำงานของเราได้อย่างราบรื่น”

“อมรินทร์ถือเป็นผู้นำในโลกหนังสือและอุตสาหกรรมการพิมพ์ของไทย เรามีทีมงานครอบคลุมตั้งแต่กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ ไปจนถึงซัพพลายเชนด้านการขายทั้งหมด เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาให้วงการหนังสืออยู่คู่สังคมไทยต่อไป เพราะหนังสือคือสื่อที่ผสานทั้งความรู้และความน่าเชื่อถือไว้ในหนึ่งเดียว เป็น Reference ที่จับต้องได้มากกว่าสื่อดิจิทัล โดยเรามีแผนจะ Transform กระบวนการทำงานตลอด Value Chainซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนวิธีทำงานทั้งระบบ ดังนั้น สิ่งที่เรามองหาจึงไม่ใช่แค่เครื่องจักรหรือโซลูชันการทำงาน แต่เป็นพาร์ตเนอร์ที่สามารถต่อยอดและเติบโตไปด้วยกันในหลากหลายมิติ นับตั้งแต่ก้าวแรกในวันนี้และก้าวต่อ ๆ ไป ซึ่งเรามองว่าแคนนอนคือคำตอบของเราในการเดินทางครั้งนี้” นายรวี กล่าวเสริม

ColorStream 8000 Series: ตอบโจทย์งานพิมพ์ยุคใหม่ด้วยนวัตกรรมไฮเทครอบด้าน

เครื่องพิมพ์ ColorStream 8000 Series ซึ่งถูกติดตั้งในสำนักพิมพ์อมรินทร์ ถือเป็นเครื่องแรกในประเทศไทย และยังเป็นเครื่องแรก ๆ ที่ถูกนำมาใช้งานในกลุ่มอาเซียน โดยเป็นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทแบบป้อนม้วนความเร็วสูงเชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ที่โดดเด่นทั้งด้านความเร็วและคุณภาพ พิมพ์เร็วสูงสุดถึง 160 เมตรต่อนาที สามารถพิมพ์งานได้อย่างมีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง รองรับวัสดุพิมพ์ได้หลากหลายประเภท และด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัยทำให้ ColorStream 8000 Series สามารถลดอัตรากระดาษเสีย รักษาสิ่งแวดล้อม ยกระดับประสิทธิภาพการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับงานพิมพ์ได้อย่างดีเยี่ยม โดยอมรินทร์จะใช้เครื่องพิมพ์รุ่นนี้สำหรับการพิมพ์หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กและการ์ตูนเป็นหลัก เพื่อรองรับความต้องการของผู้อ่านรุ่นใหม่ที่มองหาทั้งเนื้อหาที่สวยงาม คมชัด ลูกเล่นการพิมพ์ที่แปลกใหม่โดนใจ และได้งานพิมพ์คุณภาพสูง

เดินหน้าสู่อนาคตแห่งการพิมพ์ที่ยั่งยืนด้วยพลังงานสะอาด

อีกหนึ่งจุดเด่นของการเปลี่ยนจากระบบออฟเซตมาใช้ดิจิทัลอิงค์เจ็ทของอมรินทร์ คือการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ลดลง โดยล่าสุด อมรินทร์ได้ลงทุนสร้างโซลาร์ฟาร์มภายในพื้นที่โครงการคอมเพล็กซ์ซึ่งมีกำหนดเปิดใช้ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อนำพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้มาฟีดให้กับเครื่องพิมพ์ ColorStream 8000 Series ในโรงพิมพ์อมรินทร์ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นควบคู่ไปกับโครงการความร่วมมือระหว่างแคนนอนและอมรินทร์ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ไทยสู่ความยั่งยืน

ความร่วมมือของแคนนอนและอมรินทร์ครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งหลักชัยสำคัญเพื่อการต่อยอดสู่โครงการอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งนอกจากวัตถุประสงค์ด้านการเติบโตทางธุรกิจ ทั้งสององค์กรยังมีเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับมาตรฐานการผลิตสื่อของเมืองไทยในทุกมิติ เพื่อส่งต่อประสบการณ์ที่เปี่ยมคุณค่าและความหมาย ผ่านคุณภาพ      ที่จับต้องได้ไปยังผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

ผู้สนใจสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://th.canon/th/consumer หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 02-344-9988 หรือ LINE @canonthailand ติดตามข่าวสารและกิจกรรมล่าสุดได้ที่ Facebook Canon Thailand และ Facebook Canon Imaging Thailand