‘เซ็นทรัล ทำ’ ต่อยอดคุณค่าข้าวไทยพื้นเมือง ร่วมสร้าง New Rice Economy

ตอนนี้ New Rice Economy การปรับโครงสร้างของข้าวไทยจากเดิมที่เน้น Volume หรือ ‘ปริมาณการผลิต’ มาสู่ Value การให้ความสำคัญกับ ‘คุณค่า’ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ การสร้างอัตลักษณ์ และเรื่องราว กำลังถูกหยิบยกมาพูดถึงเพื่อให้ข้าวไทยพ้นกับดักการใช้ ‘ราคา’ เป็นตัวแข่งขัน และโดดเด่นกว่าคู่แข่งบนเวทีโลก   

 

สำหรับ ‘เซ็นทรัล ทำ’ โครงการด้านความยั่งยืนดำเนินการโดยกลุ่มเซ็นทรัล ก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน เพราะมองว่า ข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวพื้นเมือง ซึ่งถือเป็นมรดกของชาติที่สะท้อนอัตลักษณ์ วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาคมายาวนาน 

 

โดยที่ผ่านมา เซ็นทรัล ทำ ได้ลงไปมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสายพันธุ์ข้าวพื้นบ้านและสอนให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวเชิงคุณภาพ เพื่อให้ได้คุณภาพของข้าวที่ดี รวมไปถึงการต่อยอดคุณค่าข้าวไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าและกระจายความเสี่ยงหากราคาข้าวตก

 

เพราะเป้าหมายไม่เพียงเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้ชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน แต่เป็นการกระตุ้นให้คนตระหนักรู้ถึงความหลากหลายของสายพันธุ์ข้าวไทย ทั้งพันธุ์คุณค่าสูงและพันธุ์หายากที่ใกล้สูญหาย

พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เซ็นทรัล ทำ เชื่อมั่นในพลังของการลงมือทำร่วมกัน ระหว่างภาคธุรกิจ ชุมชน และเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทย ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าการพัฒนาที่แท้จริงต้องเริ่มต้นจากต้นน้ำ และเดินหน้าไปพร้อมกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ชุมชนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน 

 

อย่างในงาน Thailand Rice Fest 2025 ทางเซ็นทรัล ทำได้รวบรวมข้าวพื้นเมือง 10 สายพันธุ์ จาก 7 จังหวัด 8 ชุมชนทั่วประเทศ และมูลนิธิชัยพัฒนา นำมาจัดแสดงและจัดจำหน่าย ภายใน ‘เซ็นทรัล ทำ พาวิลเลียน’ เปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้สัมผัสคุณค่าของข้าวไทยทั้งในเชิงรสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ ตลอดจนเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้คนกับผืนดินและวัฒนธรรมไทย

สำหรับข้าวไทยพื้นเมืองที่ถูกนำมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงานดังกล่าว เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองเด่นจากทั่วประเทศ อาทิ

  • ข้าวหอมมะลิ จ.สุรินทร์ : เมล็ดเรียวยาว มีกลิ่นหอมใบเตยเด่น เป็นข้าว GI ที่ขึ้นชื่อด้านรสชาติและสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ข้าวผกาอำปึล จ.สุรินทร์ : ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์ที่มีกลิ่นคล้ายข้าวโพดข้าวเหนียว เหนียวนุ่ม ดัชนีน้ำตาลต่ำ
  • ข้าวหอมมะลิแดง จ.สุรินทร์ : กลิ่นหอมชัด โดดเด่นเรื่องวิตามินบีและการบำรุงเลือด
  • ข้าวฮางหอมมะลิ และข้าวฮางข้าวเหนียว จ.สกลนคร : ข้าวฮางที่ช่วยดึงสารอาหารสูง โดยเฉพาะ GABA ที่ดีต่อสมอง
  • ข้าวสังข์หยด จ.พัทลุง : ข้าวไทยพันธุ์แรกที่ได้ GI หุงนุ่มมากและอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ข้าวเบายอดม่วง จ.ตรัง :ข้าวเพื่อสุขภาพที่รักษาพันธุ์มากว่า 100 ปี โปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ
  • ข้าวไร่ดอกข่า จ.พังงา : ข้าวพื้นเมืองกว่า 100 ปี กลิ่นหอมคล้ายใบเตย อุดมด้วยโอเมก้า 9 และสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ข้าวกล้องดอยพื้นเมือง (บือซอมี) จ.เชียงใหม่ : ข้าวของชนเผ่าปกาเกอะญอ มีกลิ่นหอม ใยอาหารสูง
  • ข้าวหอมปทุมธานี 1 จ.ปทุมธานี : ข้าวหอมคุณภาพสูงที่มุ่งสู่มาตรฐานคาร์บอนต่ำ

การต่อยอดในเรื่อง Value เซ็นทรัล ทำ ไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องคุณภาพและความหลากหลายของพันธุ์ข้าวเท่านั้น ยังโฟกัสการเพิ่มมูลค่าในด้านอื่น ๆ อาทิ การดีไซน์แพ็กเกจจิ้ง ให้มีความสวยงาม ทันสมัย และมีเอกลักษณ์ด้วยสินค้าชุมชน เช่น กระเป๋าสาน ตะกร้าถัก ฯลฯ เพื่อให้เกิดความสวยงาม มีความทันสมัย สำหรับให้คนสามารถเลือกซื้อไปเป็นของฝากหรือของขวัญได้ 

 

ขณะเดียวกัน ก็พยายามสนับสนุนในเรื่องการหาตลาดและช่องทางขาย เช่น จับมือกับไปรษณีย์ไทย เพื่อให้ซื้อข้าวไปแจกเป็นของขวัญช่วงปีใหม่รวมมูลค่าที่ขายได้กว่า 2 ล้านบาท เป็นต้น และในอนาคตอาจมองไปถึงการส่งออก