วัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของไทย เผยผลสำรวจ “Customer Trend Survey” ประจำไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 จากสมาชิกวัตสันกว่า 4,000 คน พบเทรนด์ Health Longevity มาจริงผ่าน 3 พฤติกรรมเด่น ทั้งการลงทุนสุขภาพ การดูแลตัวเองแบบครบทุกมิติและการชะลอวัย ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงกระแส แต่กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่อย่างแท้จริง
The Holistic Wellness Era สุขภาพครบทุกมิติคือรากฐานของ Longevity
ผลสำรวจสะท้อนชัดว่าคนไทยให้ความสำคัญด้านการดูแลตัวเองแบบ “ครบทุกมิติ” มากขึ้น ทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจ และไลฟ์สไตล์ โดยกว่า 72% ให้ความสำคัญกับสุขภาพเท่ากับหรือมากกว่าความงาม สื่อให้เห็นว่าลูกค้าเชื่อว่า “ความงามที่แท้จริง เริ่มจากภายในที่สมดุล” และเมื่อดูลึกไปถึงเป้าหมายหลักที่ให้ความสนใจ พบว่า
• ควบคุมน้ำหนัก 25.5%
• เสริมภูมิคุ้มกัน 21.3%
• การนอนหลับ 19.7%
• สุขภาพจิต 18.3%การขับถ่าย 17.4%
ซึ่งตัวเลขทั้งหมดนี้ไม่ได้สะท้อนเพียงความสนใจเฉพาะด้าน แต่บอกถึงการเปลี่ยนผ่านจากการ “เสริมสุขภาพเฉพาะกิจ” ไปสู่การ “ดูแลสุขภาพเชิงลึกและสม่ำเสมอ” ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนไทยยุคใหม่แล้วอย่างแท้จริง
“Health Investment” เปย์เพื่อสุขภาพ ได้กำไรชีวิต
หมดยุคที่มองว่าการซื้อของสุขภาพคือรายจ่ายฟุ่มเฟือย เพราะยุคใหม่มองว่ามันคือ “สินทรัพย์ระยะยาว” (Long-term Asset) โดยพฤติกรรมใหม่ที่น่าสนใจคือ ไม่ได้ “ซื้อเพราะจำเป็น” อีกต่อไป แต่ “กันงบประจำเดือนเพื่อสุขภาพ” เหมือนที่เคยกันเงินไว้ชอปปิงหรือดูหนัง! โดยเกินครึ่ง ตั้งงบไว้ที่ 1,000 – 3,000 บาท/เดือน และ 1 ใน 4 เปย์หนักเกิน 3,000 บาท/เดือน
นี่คือสัญญาณว่า Healthy Lifestyle ไม่ใช่กระแส แต่เป็น New Spending Priority ของผู้บริโภคไทย ที่มองว่าการดูแลตัวเองคือ “กำไรชีวิต” ในระยะยาว
The Rise of Anti-aging ความงามเหนือวัย และขยายสู่ไลฟ์สไตล์การดูแลตัวเองครบทุกมิติ
อีกหนึ่งความน่าสนใจของผลสำรวจพบว่าหลายคนเริ่มโฟกัสเรื่อง “ริ้วรอย” มากกว่า “ความขาว” โดยแนวโน้มนี้สะท้อนว่าคนไทยกำลังมองความงามในมิติที่กว้างขึ้นเน้น “ผิวที่แข็งแรงและดูดีระยะยาว” มากกว่า “ผลลัพธ์เร่งด่วน” ส่งผลให้รูปแบบการเลือกสกินแคร์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน โดยให้ความสำคัญกับ “ส่วนผสมที่ช่วยแก้ปัญหาของตัวเองจริงๆ” ซึ่งส่วนผสมที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ได้แก่
• Hyaluronic Acid (25.18%) — เติมความชุ่มชื้น ผิวอิ่มฟู ดูสุขภาพดี
• Vitamin C (23.65%) — ช่วยฟื้นผิวให้ดูสดใส มีชีวิตชีวา
• Retinol (20.82%) — ลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวเสื่อมสภาพ
• Niacinamide (16.53%) — ปรับสมดุลผิว ให้ผิวแข็งแรงขึ้น
• BHA/AHA (13.82%) — ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยให้ผิวเรียบเนียน
สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าคนไทยหาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น พร้อมชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการเลือกสินค้าให้ “ตรงกับผิวของตัวเอง” มากกว่าการตามกระแส และเมื่อเจาะลึกลงไปอีกพบว่าพฤติกรรม “การชะลอวัย” ที่ทำบ่อยที่สุด ได้แก่
• ใช้สกินแคร์ลดริ้วรอย (25.33%)
• เลือกทานอาหารต้านอนุมูลอิสระ (23.35%)
• ออกกำลังกาย (22.21%)
• รับประทานวิตามิน/อาหารเสริม (20.93%)
ส่วนการทำหัตถการเพื่อชะลอวัยอยู่ที่เพียง 8.18% แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่เลือก “วิธีที่ทำได้ทุกวัน” มากกว่าการพึ่งวิธีลัดและเมื่อถามว่าการชะลอวัยที่ดีควรเริ่มจากอะไร คำตอบส่วนใหญ่ไปในทิศทางเดียวกันคือ
การดูแล “จากภายใน” ได้แก่
• สุขภาพดีปราศจากโรค 31.39%
• ป้องกันการเสื่อมตั้งแต่เนิ่น ๆ 25.08%
• ดูแลจากภายในสู่ภายนอก 22.22%
• สุขภาพจิตดี 21.30%



