เส้นทางส้ม 100 ล้าน! “เกรียงศักดิ์ เถ้าแก่ส้ม” ปั้นโชกุนเบตง–สายน้ำผึ้งฝาง เซเว่นฯ ช่วยเปิดตลาดใหญ่ ส่งถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศ

การเติบโตของ “ส้มแพ็กพร้อมทาน” ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ส้มเซเว่น” กำลังกลายเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจของตลาดผลไม้ไทย เมื่อโมเดล “คัด–แพ็ก–ส่ง” จาก SME สามารถขยายตัวบนเครือข่ายเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกทั้งเหนือและใต้ พร้อมเปิดภาพใหม่ของ SME ที่ใช้มาตรฐานค้าปลีกสมัยใหม่ต่อยอดธุรกิจท้องถิ่นให้เติบโตได้จริง

หนึ่งใน SME ที่สามารถพัฒนาโมเดลนี้จนประสบความสำเร็จ คือ “SME ส้มเซเว่นฯ 100 ล้าน” อย่าง “เกรียงศักดิ์ เถ้าแก่ส้ม” ที่ร่วมพัฒนากระบวนการผลิตกับเซเว่น อีเลฟเว่น จนทำให้ “ส้มโชกุนเบตง” และ “ส้มสายน้ำผึ้งฝาง” กลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมบนเชลฟ์ และสร้างรายได้กลับคืนสู่เกษตรกรอย่างมั่นคง

จุดเริ่มต้นโรงแพ็กส้มรายใหญ่ภาคใต้: เส้นทางเติบโตของเถ้าแก่ส้มตัวจริง

เส้นทางธุรกิจของ เกรียงศักดิ์ พิพิธภัณฑ์ หรือ เกรียงศักดิ์ เถ้าแก่ส้ม เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2537 จากการส่ง วุ้นน้ำมะพร้าว เข้าจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น สาขากิมหยง หาดใหญ่ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้น เมื่อปี 2547 เซเว่นฯ ต้องการ SME ผู้ส่งผลไม้ในพื้นที่สงขลา เขาตัดสินใจลองส่ง “ส้มโชกุนเบตง” เข้าจำหน่าย และมียอดขายดีเกินคาด เปิดเส้นทางขยายตลาดผลไม้ไปยังปั๊มน้ำมัน โรงพยาบาล และสาขาในกรุงเทพฯ จากธุรกิจเสี่ยงสู่ธุรกิจดาวรุ่ง จนคนในวงการเริ่มเรียกเขาว่า “เถ้าแก่ส้ม”

ปัจจุบัน เกรียงศักดิ์ กลายเป็น SME ผลไม้รายสำคัญของเซเว่น อีเลฟเว่น ด้วยยอดขายกว่า 10–15 ล้านบาทต่อเดือน หรือมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ทุกวันนี้เขาสามารถรับผลผลิตได้วันละ 3 ตัน พร้อมจ้างงานในพื้นที่หลายสิบชีวิต และรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรหลายร้อยราย โดยรับซื้อส้มโชกุนจาก 6 สวนใหญ่ในเบตงกว่า 1,490 ไร่ และส้มสายน้ำผึ้งจาก 3 สวนในอำเภอฝางกว่า 1,100 ไร่ เพื่อให้ได้ผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการ รวมถึงส่งเสริมให้สวนเข้าสู่มาตรฐานแปลง GAP และควบคุมการใช้สารเคมีก่อนเก็บเกี่ยว

หนึ่งในจุดแข็งสำคัญ คือ “ส้มโชกุนเบตง” เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สร้างการรับรู้ในตลาดว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ทั้งรสหวาน เปลือกบาง เนื้อแน่น เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นทุกปี การนำส้มโชกุนวางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทำให้ผลผลิตมีมูลค่าเพิ่ม และเปิดตลาดใหม่ที่มั่นคงกว่าเดิม

“ถ้าเกษตรกรอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ ธุรกิจเราถือกำเนิดมาจากสวน เราต้องดูแลต้นทางให้ดีที่สุด การร่วมงานกับกลุ่มเกษตรกรต้องเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย จึงวางระบบรับซื้อที่ชัดเจนเพื่อให้เกษตรกร ปลูกแล้วมีที่ขายแน่นอน ต้องดูแลทุกกระบวนการให้ดี เราคัดตั้งแต่สวนจนถึงโรงงาน ลูกไหนไม่ผ่านมาตรฐาน ไม่ส่งเด็ดขาด ทุกกระบวนการเราใส่ใจทุกขั้นตอน เริ่มจากการล้าง–เป่าแห้ง มีการสุ่มตรวจสารพิษตกค้างอย่างสม่ำเสมอ และคัดเกรด ขนาด-ผิว-รสชาติ บรรจุในแพ็กเกจ ทำให้มั่นใจว่าผู้บริโภคได้ทานผลไม้ที่ปลอดภัย ได้กินส้มสดใหม่ราวกับเพิ่งเด็ดจากต้น” เกรียงศักดิ์ เล่า

โรงแพ็กส้ม สร้างงาน–สร้างอาชีพคนพื้นที่ เดินหน้าต่อแม้ได้รับผลกระทบอุทกภัย

โรงงานของเกรียงศักดิ์ พิพิธภัณฑ์ มี 2 แห่งคือ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จ้างงานหลายสิบครอบครัว และอุดหนุนผลผลิตจากเกษตรกรหลายร้อยรายทั่วภาคเหนือและใต้ แม้จะประสบอุทกภัยใหญ่จนโรงงานเสียหายหลายแสนบาท แต่เขายังเดินหน้าธุรกิจต่ออย่างไม่ย่อท้อ พร้อมตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตรองรับผลไม้อื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ เสาวรส และมะม่วงเขียวเสวย

ความภูมิใจในธุรกิจ คือสามารถช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรทั้งจากภาคใต้และเหนือจำนวนมาก โดยเฉพาะ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกส้มโชกุน อ.เบตง จ.ยะลา ที่ทางโรงงานรับผลผลิตมากถึง 2 ตันต่อวัน กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกส้มสายน้ำผึ้ง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่ทางโรงงานรับผลผลิตมากถึง 1 ตันต่อวัน การที่มีตลาดอย่างเซเว่นฯ รองรับตลอดฤดูกาล ทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจในการวางแผนการผลิตระยะยาว

การส่งเสริมเกษตรกรและผู้ประกอบการ SME เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด “SME โตไกลไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ที่มุ่งส่งเสริมเกษตรกรสร้างงานสร้างอาชีพ สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นตัวกลางที่ช่วยให้ของดีจากท้องถิ่นไทยเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกวัน รวมถึงให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ แหล่งข้อมูล และเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้ กลยุทธ์ 3 ให้ ของโครงการ ได้แก่ ให้ช่องทางจำหน่าย ให้ความรู้ และให้การเชื่อมโยงเครือข่าย

#CPALL #7Eleven #เซเว่น #SME #SMEโตไกลไปด้วยกัน #สร้างอาชีพ