เนสท์เล่ไอศกรีมประกาศความสำเร็จครองส่วนแบ่งตลาด 38 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทุ่มงบ 800 ล้าน สานต่อปฏิบัติการสีฟ้าขั้นที่ 2

หลังประสบความสำเร็จอย่างเหนือความคาดหมายจากผลประกอบการไตรมาสแรก ส่งผลให้เนสท์เล่ครองตำแหน่งบริษัทไอศกรีมที่เติบโตเร็วที่สุดใน ประเทศไทย ด้วยอัตราการเติบโตกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 38 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางการแข่งขันอันร้อนแรงของตลาดไอศกรีมที่มีมูลค่ารวมสูงถึง 5,400 ล้านบาท

ดร.ฮานส์-อูริค เมเยอร์ ผู้จัดการทั่วไปของเนสท์เล่ไอศกรีม เปิดเผยว่า “เพื่อต่อยอดและขยายผลความสำเร็จของเนสท์เล่ไอศกรีม ในปีนี้บริษัทฯ ได้สานต่อกลยุทธ์ “ปฏิบัติการสีฟ้า 2 : ปฏิบัติการกล้าสู่ความเป็นจริง” ซึ่งเป็นกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อกระตุ้นและขยายตลาด พร้อมทั้งเพิ่มอัตราการเติบโตของบริษัทฯ ก้าวสู่อีกระดับหนึ่ง โดยทุ่มงบประมาณจำนวน 800 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายในการกระตุ้นตลาดที่ครบวงจรแบบ 360 องศา โดยจัดสรรงบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท ไปใช้ในการสร้างแบรนด์เนสท์เล่ไอศกรีมให้เป็นที่พบเห็นได้มากที่สุด ซึ่งเรียกแคมเปญนี้ว่า “ทาเมืองไทยให้เป็นสีฟ้า” เพื่อให้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ที่ตื่นเต้น และรสชาติที่สดชื่นแปลกใหม่ของเนสท์เล่ไอศกรีมอย่างไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน”

“บริษัทฯ จะทุ่มทุน 300 ล้านบาท เพื่อการกระตุ้นตลาด โดยลงทุนทั้งในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และการสร้างสรรค์กิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อให้ใกล้ชิดและเข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด และงบประมาณอีก 200 ล้านบาท จะใช้ในการพัฒนา พร้อมกับขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และอัดฉีดงบประมาณ 200 ล้านบาท ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่สินค้าสำหรับลูกค้าในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่”

ความสำเร็จของเนสท์เล่ไอศกรีมเกิดจากความมุ่งมั่นที่จะเข้าถึงผู้บริโภคทุกลุ่ม ด้วยกลยุทธ์ที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมในตลาดไอศกรีมทั้งหมด ตลอดจนความั้งใจของเนสท์เล่ไอศกรีมที่มุ่งจะกระตุ้นตลาดโดยรวมมากกว่าการแย่งชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่ง เนสท์เล่คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดถึง 40% เมื่อสิ้นปี 2547 นี้