รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวันพุธที่ 28 กรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นที่ 634.73 จุด เพิ่มขึ้น 1.52 จุด หรือร้อยละ 0.24 โดยการที่นักลงทุนได้เริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการตั้งสำรองหนี้เสียของธนาคารทั้งระบบ ได้ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารอีกครั้ง ประกอบกับได้แรงบวกจากการที่ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ได้ปิดตลาดเพิ่มขึ้นในวันนี้

• ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้น 18.95 จุดในวันนี้ หรือร้อยละ 0.15 ไปปิดที่ระดับ 12,320.27 จุด จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นในกลุ่มธนาคาร หลังจากที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าผลประกอบการในกลุ่มดังกล่าวน่าจะเพิ่มสูงขึ้น จากการกันสำรองหนี้เสียที่ระดับต่ำลง

• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดเพิ่มขึ้นในวันนี้หลังจากที่ได้ลดลงไปเป็นเวลา 4 วันติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 172.83 จุด หรือร้อยละ 1.57 ไปปิดที่ระดับ 11,204.37 จุด โดยนักลงทุนได้เริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีคืน หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯได้ปรับตัวขึ้นวันก่อน ประกอบกับผลประกอบการไตรมาส 2/2547 ที่ดีขึ้นของบริษัทไซโก้ เอปสัน และ มิตซูบิชิ อิเลคทริคก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดในวันนี้

• ตลาดหุ้น Dow Jones วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นหลังจากที่ได้ลดลงไปเป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน โดยเพิ่มไป 123.22 จุด หรือร้อยละ 1.24 ไปอยู่ที่ระดับ 10,085.14 จุด โดยได้ปัจจัยหนุนจากราคาหุ้นบริษัทเวอริซอน คอมมิวนิเคชันส์ ที่เพิ่มขึ้นจากการเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีขึ้น และตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.ที่เพิ่มสูงขึ้น

• เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 111 เยน/ดอลลาร์ฯ, 41.42 บาท/ดอลลาร์ฯ และที่ 1.2062 ดอลลาร์ฯ/ยูโร ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1.52 จุด หรือร้อยละ 0.24 ไปอยู่ที่ 634.73 จุด โดยได้เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร จากการที่นักลงทุนได้เริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มการสำรองหนี้เสียของธนาคารทั้งระบบ ประกอบกับได้แรงบวกจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค และการที่มีแรงซื้อเข้ามามากขึ้นในกลุ่มของหุ้นเคมีภัณฑ์ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่เงินบาทอ่อนค่าลงอย่างมาก ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่านักลงทุนต่างชาติจะขายหุ้นออกไป และ ราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ตลาดไม่ได้ปรับขึ้นไปมากนัก

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในวันนี้หลังจากที่ได้ปิดตลาดลดลงเป็นเวลา 4 วันติดต่อกัน โดยปิดที่ระดับ 11,204.37 จุด เพิ่มขึ้นไป 172.83 จุด หรือร้อยละ 1.57 โดยนักลงทุนได้กลับเข้ามาซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีคืน หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯได้ปรับตัวขึ้นเมื่อวันก่อน ประกอบกับการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2/2547 ที่ดีขึ้น และการปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ป และ มิตซูบิชิ อิเลคทริค ก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่ได้ช่วยหนุนตลาดในวันนี้

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้น 18.95 จุด หรือร้อยละ 0.15 ไปปิดที่ระดับ 12,320.27 จุด โดยตลาดได้แรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มธนาคารหลังจากที่นักลงทุนได้คาดว่าผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มดังกล่าวจะดีขึ้น จากการที่มีการกันสำรองหนี้เสียในระดับที่ต่ำลง อย่างไรก็ตาม ตลาด ตลาดยังคงปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆ ก่อนการรายงานผลประกอบการไตรมาส2/2547 ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในอังคารที่ 27 กรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นหลังจากที่ได้ลดลง 2 วันติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นไป 123.22 จุด หรือร้อยละ 1.24 ไปปิดที่ระดับ 10,085.14 จุด จากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นบริษัทเวอริซอน คอมมิวนิเคชั่นส์ หลังจากที่บริษัทได้ประกาศตัวเลขผลประกอบการไตรมาส2/2547 ที่ดีขึ้น นอกจากนั้นตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.ของ Conference Board ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยนักลงทุนได้กลับเข้ามาซื้อคืนหุ้นหลายตัวที่ราคาได้ปรับลดลงอย่างมากในช่วงหลายวันที่ผ่านมาโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้ปิดตลาดที่ระดับ 1,869.1 จุด เพิ่มไป 30.08 จุด หรือ ร้อยละ 1.64 โดยนักลงทุนได้กลับเข้ามาซื้อหุ้นคืน หลังจากมีการประกาศผลประกอบการไตรมาส2/2547 ที่ดีขึ้นของบริษัทเวอริซอน คอมมิวนิเคชั่น

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน โดยเป็นการอ่อนค่าลงไปเช่นเดียวกับค่าเงินเยน และค่าเงินอื่นๆในภูมิภาค ในขณะที่เงินดอลลาร์ฯได้แข็งค่าขึ้นจากการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.ที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้กลับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนมาจากการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสำนักงาน Conference Board เดือน ก.ค.ที่ได้เพิ่มขึ้นสู่ 106.1 สูงขึ้นกว่าที่คาดไว้ที่ 102.0 ทำให้นักลงทุนคาดว่าการที่ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่อ่อนแอลงไปในช่วงที่ผ่านมาจะยุติลงในไม่ช้า และการที่นักลงทุนยังได้คาดว่าอัตราดอกเบี้นของสหรัฐฯมีแนวโน้มจะถูกปรับขึ้นอีกในเดือน ส.ค.นี้ ก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ฯ

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรในวันนี้ โดยเงินดอลลาร์ฯได้รับแรงบวกจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นกว่าที่คาดไว้ ซึ่งได้ช่วยหนุนค่าเงินต่อหลังจากแถลงการณ์นโยบายการเงินรอบครึ่งปี ของนาย อลัน กรีนสแปน เมื่อสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่จะยังคงรอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน มิ.ย. ที่จะประกาศในวันนี้ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น และตัวเลข จีดีพี ไตรมาส2 ที่จะประกาศในวันศุกร์ ซึ่งคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยกว่าไตรมาสแรก

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 15,903.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนร้อยละ 15 โดยปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 73 อยู่ในกลุ่มของตั๋วเงินคลัง ตามมาด้วยพันธบัตรรัฐบาล อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลส่วนใหญ่ เพิ่มขึ้นไปตั้งแต่ 1 ถึง 6 bps. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มขึ้นในกลุ่มของพันธบัตรระยะกลาง และระยะยาว

Us Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯในวันพุธที่ 28 กรกฎาคม ได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากที่ได้มีการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และสูงกว่าระดับที่คาดไว้ ประกอบกับการที่ตลาดหุ้นได้ปิดตลาดเพิ่มขึ้นในวันนี้ หลังจากที่มีแรงซื้อคืนเข้ามาในกลุ่มของหุ้นเทคโนโลยี ก็ได้เป็นปัจจัยที่ทำให้มีการขายพันธบัตรออกมา ซึ่งทำให้ราคาลดลงไป