รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 9 สิงหาคม 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม ปิดตลาดลดลงไปอีก 3.47 จุด หรือร้อยละ 0.57 ไปอยู่ที่ 607.47 จุด จากความวิตกกังวลในเรื่องของราคาน้ำมันในตลาดโลก และ การที่ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ต่างปรับตัวลดลง นอกจากนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนเพื่อดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯในการประชุม FOMC ในวันพรุ่งนี้ทำให้มูลค่าการซื้อขายในวันนี้ต่ำสุดในรอบ 14 เดือน

– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันนี้ โดยลดลงไป 11.27 จุด หรือร้อยละ 0.09 ไปปิดที่ระดับ 12,467.41 จุด จากแรงขายเพื่อทำกำไรออกมาในหุ้นหลายตัว หลังจากที่ตลาดได้ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนในช่วงเช้าวันนี้ตามความคาดหวังเกี่ยวกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/2547 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 12 สัปดาห์ โดยลดลงไปอีก 63.87 จุด หรือร้อยละ 0.6 ไปปิดที่ระดับ 10,908.7 จุด จากการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯในเดือน ก.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก และได้ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ของญี่ปุ่น

– ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม ปิดตลาดลดลงไปสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 2546 โดยลดลงถึง 147.7 จุด หรือร้อยละ 1.48 ไปอยู่ที่ระดับ 9,815.33 จุด โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับค่าเงินส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 110.44 เยน/ดอลลาร์ฯ , 1.22 ดอลลาร์ฯ/ยูโร และที่ 41.39 บาท/ดอลลาร์ฯ ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ปิดตลาดลดลงไปอีกที่ 3.47 จุด หรือร้อยละ 0.57 ไปอยู่ที่ 607.47 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ มูลค่าการซื้อขายเบาบางที่สุดในรอบ 14 เดือน โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่มั่นใจในเรื่องของราคาน้ำมันในตลาดโลก การที่ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโบายการเงินของที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อในกลุ่มของหุ้นสื่อสารได้เข้ามาหนุนตลาดไม่ให้ปรับลงไปมากนัก

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลดลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 12 สัปดาห์ โดยปิดที่ระดับ 10,908.7 จุด ลดลงไป 63.87 จุด หรือร้อยละ 0.6 โดยได้รับผลกระทบจากตัวเลขการจ้างงานเดือน ก.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ ซึ่งจะกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ตลาดได้ปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยก่อนปิดตลาด โดยได้แรงหนุนจากการประกาศตัวเลขคำสั่งซื้อเครื่องจักรเดือน มิ.ย.ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงในวันนี้เช่นเดียวกัน โดยลดลงไป 11.27 จุด หรือร้อยละ 0.09 ไปปิดที่ระดับ 12,467.41 จุด จากแรงขายเพื่อทำกำไรออกมาในหุ้นหลายตัว หลังจากที่ตลาดได้ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนในช่วงเช้าวันนี้ ตามความคาดหวังเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/2547 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม ปิดตลาดลดลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือน นับตั้งแต่ 28 พ.ย.2546 เป็นต้นมา โดยลดลงไปถึง 147.7 หรือ ร้อยละ 1.48 ลงไปอยู่ที่ 9,815.33 จุด โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานเดือน ก.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 32,000 ตำแหน่ง จากที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 228,000 ตำเเหน่ง ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยปัจจัยบวกจากการที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 44 ดอลลาร์/บาร์เรลแทบจะไม่ส่งผลให้ตลาดกลับมาอยู่ในแดนบวก

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ได้ปรับตัวลดลงไปเช่นเดียวกัน โดยได้ปิดตลาดที่ระดับ ต่ำสุดในรอบเกือบปีที่ระดับ1,776.89 จุด ลดลง 44.74 จุด หรือ ร้อยละ 2.46 ทั้งนี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดเช่นเดียวกัน

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้กลับแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวันศุกร์ จากการที่นักลงทุนได้มีการขายเงินดอลลาร์ออกมาเพื่อทำกำไรหลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ค่าเงินจะยังคงปรับตัวในช่วงแคบๆโดยนักลงทุนจะรอฟังผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยเงินดอลลาร์ฯได้รับแรงกดดันจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 32,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปถึง 228,000 ตำแหน่ง นอกจากนั้นกระทรวงแรงงานสหรัฐฯยังได้ปรับลดตัวเลขการขยายตัวของการจ้างงานในเดือน พ.ค. และ มิ.ย.ลงจากเดิมอีกด้วย อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 ในการประชุม FOMC ที่จะมีขึ้นวันพรุ่งนี้ นอกจากนั้นเงินเยนยังได้แรงหนุนจากการที่คาดว่าตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส2 ที่จะประกาศในวันศุกร์จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นไตรมาสที่9 ติดต่อกัน

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับเงินยูโรเช่นเดียวกัน โดยค่าเงินดอลลาร์ฯได้รับแรงกดดันจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานเดือน พ.ค.ที่อ่อนแอ กว่าที่คาดไว้ ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ ความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของสหรัฐฯ ในขณะที่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของยูโรโซน มีแนวโน้มที่จะถูกปรับขึ้นไปอีก

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 7,915.5 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนร้อยละ 7.4 โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นแทบไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นพันธบัตรอายุ 6 เดือนที่มีการปรับขึ้นไปถึง 5 bps ส่วนพันธบัตรระยะกลาง และ ระยะยาว ได้ปรับตัวลดลงไปตั้งแต่ -1 ถึง -3 bps.

Us Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯในวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค.ที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ซึ่งได้ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัวขึ้นตามที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯได้เคยกล่าวไว้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯอีกร้อยละ 0.25 ในการประชุมวันพรุ่งนี้ แต่ได้คาดว่าการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปีนี้อาจจะไม่มากเท่ากับที่คาดไว้ในตอนแรก