รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกันที่ 676.15 จุด เพิ่มขึ้น 6.09 จุด หรือร้อยละ 0.91 มูลค่าการซื้อขายที่ 2 หมื่นล้านบาท ตลาดปรับตัวลดลงในช่วงเปิดตลาด จากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ใกล้ 53 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ได้ปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติ และสถาบันในหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และวัสดุก่อสร้าง ทำให้สามารถปรับตัวขึ้นได้ในวันนี้

– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวลดลงไปในวันนี้โดยปิดที่ 13,241.46 จุด ลดลงไป 80.27 จุด หรือร้อยละ 0.6 จากการขายทำกำไรของนักลงทุน และการปรับตัวลดลงของหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง จากความวิตกกังวลของนักลงทุนต่อการเสนอขายหุ้นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา

– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดปรับตัวลดลงไปเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 11,349.35 จุด ลดลงจากวันก่อน 5.24 จุด หรือร้อยละ 0.05 จากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่ดัชนี Nasdaq ได้ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 วัน และการปรับตัวลดลงของหุ้นในกลุ่มสายการบินหลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ตลาด NYMEX ได้ปรับตัวขึ้นไปปิดใกล้ระดับที่ 53 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม ปิดตลาดปรับตัวลดลงถึง 114.52 จุด หรือร้อยละ 1.12 ไปอยู่ที่ 10,125.4 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้เพิ่มขึ้นไปปิดที่ 52.67 ดอลลาร์/บาร์เรลในตลาด NYMEX และจากการปรับตัวลดลงของหุ้นบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่จากความเป็นไปได้ที่ว่าผู้ควบคุมด้านกฏระเบียบของสหรัฐฯจะทำการตรวจสอบบริษัทเวชภัณฑ์อย่างเข้มงวดขึ้น

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับเงินเยน , บาท และยูโร โดยอยู่ที่ระดับ 110.38 เยน/ดอลลาร์ฯ , 41.312 บาท/ดอลลาร์ฯ และที่ 1.2335 ดอลลาร์/ยูโร ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยปิดที่ 676.15 จุด เพิ่มขึ้นไป 6.09 จุด หรือร้อยละ 0.91 มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 20,159 ล้านบาท ตลาดปรับตัวลดลงในช่วงเปิดตลาด จากปัจจัยลบในเรื่องของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่แรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันได้ช่วยหนุนให้ตลาดสามารถปรับตัวขึ้นได้ โดยหุ้นที่นักลงทุนเข้าซื้ออย่างมากในวันนี้ ได้แก่ หุ้นในกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และปิโครเคมี

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดปรับตัวลดลงไปเล็กน้อย โดยลดลงไป 5.24 จุด หรือร้อยละ 0.05 ปิดที่ 11,349.35 จุด ทั้งนี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่ดัชนี NASDAQ ได้ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 วัน และการลดลงอย่างมากของราคาหุ้นในกลุ่มสายการบิน หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นไปอยู่ใกล้กับ 53 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากนั้นแล้ว นักลงทุนยังคงชะลอการเข้าซื้อเป็นจำนวนมากก่อนวันหยุดติดต่อกันสามวันในช่วงสุดสัปดาห์, การประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ เดือน ก.ย.ในคืนนี้ และการประกาศผลกำไรของบริษัทอินเทลในสัปดาห์หน้า

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดที่ 13,241.46 จุด ลดลงไป 80.27 จุด หรือร้อยละ 0.6 โดยได้รับแรงกดดันจากการขายเพื่อทำกำไรของนักลงทุนหลังจากวันหยุดติดต่อกันร่วมสัปดาห์ของจีนเนื่องในวันชาติ ทั้งนี้ได้มีแรงขายหุ้นบริษัทจีนออกมามากจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา และการปรับตัวลดลงของหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ก่อนการประมูลที่ดินของรัฐบาลในสัปดาห์หน้า

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดปรับตัวลดลงไปถึง 114.52 จุด หรือ ร้อยละ 1.12 ไปปิดที่ 10,125.4 จุด ปริมาณการซื้อขายที่ 1.45 พันล้านหุ้น โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ย.ที่ตลาด NYMEX ได้ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 52.67 ดอลลาร์/บาร์เรล และการปรับตัวลดลงอย่างมากของราคาหุ้นบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่จากความเป็นไปได้ที่ว่า ผู้ควบคุมด้านกฎระเบียบของรัฐฯจะทำการตรวจสอบเวชภัณฑ์อย่างเข้มงวดมากขึ้น

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปรับตัวลดลงไปจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนเมื่อวันก่อน โดยปิดที่1,948.52 จุด ลดลง 22.51 จุด หรือ ร้อยละ 1.14 โดยได้รับแรงกดดันจากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นไปอย่างมากไปอยู่ใกล้กับ 53 ดอลลาร์/บาร์เรล

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินเยน โดยเงินดอลลาร์ฯได้รับแรงกดดันจากความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯเกี่ยวกับการเพิ่มความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ และจากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการเข้าซื้อเงินดอลลาร์ฯก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานเดือน ก.ย.ในคืนนี้

Yen/USD
เงินเยนได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนจากความคิดเห็นของนายเบน เบอร์นักเก้ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯที่แสดงความเห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะยุติลงไปชั่วคราว หากว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว นอกจากนั้นแล้วเงินเยนยังได้รับแรงบวกจากการคาดการณ์ครั้งใหม่เกี่ยวกับการเพิ่มค่าเงินหยวน หลังจากมีข่าวการสนทนาระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีจีน และ แรงขายดอลลาร์ในกลุ่มผู้ส่งออกญี่ปุ่น โดยตลาดไม่ได้ให้ความสนใจกับตัวเลขคำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นเดือน ส.ค.ที่ลดลงไปมากนัก

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นไปเมื่อเทียบกับเงินยูโรเช่นเดียวกัน หลังจากที่ได้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความระมัดระวังที่เพิ่มขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากนายเบน เบอร์นันเก้ นอกจากนั้นแล้ว นักลงทุนยังชะลอที่จะเข้าซื้อขายก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานเดือน ก.ย.ซึ่งเพื่อหาแนวโน้มของเงินดอลลาร์ฯในอนาคต

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 13,102.13 ล้านบาท เพิ่มจากวันก่อนอย่างมากถึงร้อยละ 199 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวปรับตัวขึ้นไป 1 –2 bps.

US Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม ปรับตัวลดลงไปจากความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย.ที่จะประกาศในคืนนี้ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในเดือน พ.ย. ถึงแม้ว่านักลงทุนจะคลายความกังวลในเรื่องดังกล่าวลงไปในช่วงแรก หลังจากการแสดงความคิดเห็นของนายเบน เบอร์นันเก้ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯอาจจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว หากเศรษฐกิจของสหรัฐฯชะลอตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาพันธบัตร