กินเจปี ’47 : ตลาดโต15% …มูลค่า 1,500 ล้านบาท

เทศกาลกินเจในปี 2547 นี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 13-22 ตุลาคม บรรยากาศในการกินเจปีนี้คาดว่าจะคึกคักเช่นเดียวกับปีที่ผ่านๆมา แม้ว่าราคาน้ำมันจะสูงขึ้นทำให้ราคาสินค้าที่เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารเจมีเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่ามีคนกรุงเทพฯที่ตั้งใจจะกินเจมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อต้องการทำบุญทำทานงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ รวมทั้งยังได้กระแสสนับสนุนการที่ผู้บริโภคหันมาสนใจบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น

นอกจากนี้บรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารหันมาขยายผลิตภัณฑ์อาหารเจหลากหลายชนิดตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารเจแช่แข็ง อาหารเจกึ่งสำเร็จรูป และเบเกอรี่เจ ทำให้ผู้ที่ต้องการบริโภคอาหารเจมีทางเลือกมากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้บริโภคยังเน้นนโยบายประหยัดเช่นเดียวกับในปีที่ผ่านมา ทำให้บรรดาผู้ที่จำหน่ายอาหารเจต้องปรับตัวโดยการใช้กลยุทธ์ไม่ปรับราคา แม้ว่าราคาวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารเจจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นประมาณร้อยละ 10-20 ก็ตาม

นอกจากนี้ผู้ประกอบการขายอาหารเจก็ปรับตัวด้วยการเริ่มจำหน่ายอาหารเจล่วงหน้าตั้งแต่ในช่วงวันที่ 11-12 ตุลาคม แม้ว่าเทศกาลรับประทานอาหารเจจะเริ่มในช่วงเย็นของวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งถือว่าเป็นมื้อล้างท้องก่อนที่จะเข้าสู่การรับประทานอาหารเจกันจริงๆเช้าตรู่ของในวันที่ 14 ตุลาคม ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าตั้งแต่ช่วงวันที่ 11-12 ตุลาคมจะเริ่มเห็นร้านอาหารเจที่มีธงสีเหลืองซึ่งถือเป็นสัญญลักษณ์ของอาหารเจมีให้เห็นอยู่ทั่วกรุงเทพฯ

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่ามูลค่าตลาดอาหารเจในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ล้านบาท สาเหตุที่คนกรุงเทพฯตั้งใจจะรับประทานอาหารเจมากขึ้น เนื่องจากถือว่าการทำบุญล้างกายและล้างใจ นอกจากนี้ประเด็นสำคัญคือ ความเชื่อว่าการกินเจช่วยทำให้สุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง รวมทั้งการรับประทานอาหารเจในปัจจุบันไม่ได้ยากลำบากเหมือนกับเมื่อก่อน เนื่องจากมีธุรกิจหลายแขนงผลิตสินค้าขึ้นมาสนองความต้องการของคนที่รับประทานอาหารเจ ยอดจำหน่ายของสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ นอกจากนี้ยังมีกระแสการรักษาสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง เช่น มังสวิรัติ แม็คโครไบโอติก ชีวจิต เป็นต้น

ตลาดอาหารเจมูลค่า 1,500 ล้านบาท…หลากปัจจัยหนุน

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สำรวจพฤติกรรมการบริโภคอาหารเจในช่วงเทศกาลกินเจของคนกรุงเทพฯมาอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ทางบริษัทมีการสัมภาษณ์เชิงลึกโดยเจาะกลุ่มตัวอย่าง ปรากฏว่าพฤติกรรมการบริโภคอาหารเจของคนกรุงเทพฯยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยคาดว่าในปีนี้ยังคงมีคนกรุงเทพฯถึง 2 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจที่จะบริโภคอาหารเจ อย่างไรก็ตามคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เลือกที่จะบริโภคอาหารเจเป็นบางวันหรือบางมื้อตามสะดวก คนกรุงเทพฯที่จะบริโภคอาหารเจคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารเจเฉลี่ยประมาณวันละ 120 บาท ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณแล้วคาดว่ามูลค่าของธุรกิจอาหารเจในปี 2547 สูงถึงประมาณ 1,500 ล้านบาทเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 เมื่อเทียบกับในปี 2546

ปัจจัยที่เอื้ออำนวยในการเติบโตต่อธุรกิจอาหารเจในปีนี้ที่สำคัญ มีดังนี้

1.จำนวนคนกรุงเทพฯตั้งใจจะรับประทานอาหารเจมากขึ้น ทั้งนี้สาเหตุสำคัญเนื่องจากคนกรุงเทพฯหันมาสนใจในเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการรับประทานอาหารเจเพื่อที่จะได้ทำตามประเพณีขอร่วมกินเจทำบุญล้างกายและล้างใจ โดยการละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ เท่ากับเป็นการลดการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต นอกจากนี้ยังพบประเด็นสำคัญว่าอาหารเจนั้นสามารถจำหน่ายได้ตลอดทั้งปีเนื่องจากมีคนกรุงเทพฯบางกลุ่มที่นิยมบริโภคอาหารเจแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ โดยมีลักษณะพฤติกรรมบริโภคอาหารเจตามสะดวก กินเจในช่วงวันพระ และกินเจโดยตลอด รวมทั้งยังมีคนกรุงเทพฯจำนวนมากขึ้นที่พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์เพื่อรักษาสุขภาพด้วย ซึ่งนับว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งของร้านจำหน่ายอาหารที่จะจัดให้มีเมนูอาหารเจไว้รองรับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ

2.คนกรุงเทพฯหันมาบริโภคอาหารเจสำเร็จรูปมากขึ้น เพราะสะดวก มีจำหน่ายทั่วไป หาซื้อได้ไม่ยาก และราคาไม่แพง เนื่องจากปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้ออาหารเจของคนกรุงเทพฯคือ มีคุณภาพ สะอาด และราคาไม่แพง ดังนั้นบรรดาร้านอาหารเจสำเร็จรูปคงต้องอาศัยกรรมวิธีการพลิกแพลงสูตรอาหารเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ เนื่องจากคาดว่าราคาวัตถุดิบในการประกอบอาหารเจ โดยเฉพาะผักต่างๆคาดว่าจะมีราคาสูงขึ้น

หลากธุรกิจปรับกลยุทธ์…รับมือผู้บริโภคเน้นประหยัด

เทศกาลกินเจที่จะมาถึงในช่วงมื้อเย็นวันที่ 13 ตุลาคมนี้คาดว่าสภาพตลาดจะมีการแข่งขันอย่างรุนแรง เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ถดถอย และมุ่งเพิ่มยอดขายเพื่อให้ผลประกอบการปลายปีเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยรูปแบบการแข่งขันจะยังคงเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตามจุดขาย จัดรายการส่งเสริมการจำหน่ายเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และพยายามลดต้นทุนทุกด้านทั้งนี้เพื่อคงราคาสินค้าไว้ รวมถึงการเข้าสนับสนุนในชุมชนที่จัดพิธีกินเจ เช่น ภูเก็ต ตรัง เป็นต้น โดยปกติผลิตภัณฑ์เจจะมีฤดูการจำหน่ายสั้นประมาณ 10 วันเท่านั้นในช่วงเทศกาลกินเจ ดังนั้นจึงมีส่วนกระตุ้นยอดขายในระยะสั้นให้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5-10 ของยอดขายในช่วงปกติ

ความนิยมในการรับประทานอาหารเจอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ ร้านที่ไม่ได้มีอาหารเจไว้บริการลูกค้าจะมียอดจำหน่ายลดลง ธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากช่วงเทศกาลกินเจ ได้แก่

– อาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขาย

จากการสำรวจพบว่าคนกรุงเทพฯที่รับประทานอาหารเจส่วนใหญ่เลือกซื้ออาหารสำเร็จรูป และอาหารสำเร็จรูปยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ คืออาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขายหรืออาหารเจประเภทจานเดียว โดยเฉพาะการรับประทานอาหารเจมื้อกลางวันและมื้อเย็น เนื่องจากสอดคล้องกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารในช่วงปกติของคนกรุงเทพฯที่นิยมซื้ออาหารสำเร็จรูปประเภทตักขายอยู่แล้ว ซึ่งปัจจัยที่สำคัญ 3 อันดับแรกในการเลือกร้านที่จะซื้ออาหารเจ คือ ความสะอาด ราคาพอสมควร และคุณค่าทางอาหาร จะเห็นได้ว่าคนกรุงเทพฯที่กินเจนั้นไม่ได้เคร่งครัดในเรื่องการประกอบอาหารเจว่าถูกต้องตามประเพณีมากนัก เนื่องจากการประกอบอาหารเจที่ถูกต้องนั้นนอกจากจะต้องใช้ส่วนประกอบอาหารเจที่ถูกต้อง ไม่มีของต้องห้ามที่รับประทานไม่ได้แล้ว ภาชนะที่ใช้ในการปรุงอาหาร หรือแม้แต่ภาชนะที่ใช้ในการรับประทานนั้นจะต้องแยกต่างหากจากภาชนะปกติด้วย

ภาพรวมของตลาดอาหารเจสำเร็จรูปในปีนี้ยังคงเป็นที่นิยมของคนกรุงเทพฯ แต่คาดว่ายอดการจำหน่ายจะขยายตัวอยู่ในเกณฑ์สูง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ตามคาดว่าในปีนี้การแข่งขันของธุรกิจอาหารเจโดยเฉพาะธุรกิจจำหน่ายอาหารเจสำเร็จรูป(ตักขาย)จะมีสูงมาก โดยจะมีแม่ค้า/พ่อค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่เข้ามาจำหน่าย ดังนั้นบรรดาแม่ค้า/พ่อค้าคงเพิ่มราคาอาหารได้ไม่มากนัก ดังนั้นธุรกิจร้านจำหน่ายอาหารเจในปีนี้แต่ละรายคงไม่ได้กำไรสูงมากนัก อย่างไรก็ตามผู้ที่ยังคงจะได้กำไรอย่างงดงามคือ ผู้ที่รู้จักดัดแปลงเครื่องปรุง และส่วนประกอบอาหารตามสถานการณ์ตลาด

– ร้านจำหน่ายส่วนประกอบของอาหารเจ

จากการสำรวจพบว่าคนกรุงเทพฯไม่ถึงร้อยละ 10 เลือกที่จะทำอาหารเจรับประทานเอง ดังนั้นในช่วงเทศกาลกินเจร้านที่จำหน่ายส่วนประกอบของอาหารเจนั้นจะขายดิบขายดีอย่างมาก แหล่งจำหน่ายเครื่องปรุงอาหารเจที่สำคัญและเป็นแหล่งใหญ่ที่เป็นที่รู้จัก คือ ตลาดเก่าเยาวราช ซึ่งมีเครื่องปรุงอาหารเจให้เลือกมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุงอาหารเจทั่วๆ ไป ตลอดจนเครื่องปรุงอาหารเจสำหรับผู้ที่ยังละทิ้งรสชาติของอาหารปกติไม่ได้ บรรดาพ่อค้าก็คิดค้น“แป้งประดิษฐ์” ซึ่งเป็นการดัดแปลงให้ละม้ายคล้ายกับเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ ทั้งรูปร่าง และรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นหมูเนื้อแดง เครื่องในหมู หมูสามชั้น เป็ด ไก่ และเนื้อปลา โดยที่ในช่วงปกติตลาดแป้งประดิษฐ์นี้ผู้ที่ซื้อหาไปรับประทานจะเป็นผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ และในช่วงเทศกาลกินเจนั้นแป้งประดิษฐ์นี้จะขายดิบขายดีมากขึ้นด้วย อาหารเจที่ทำจากแป้งประดิษฐ์นี้นับว่าช่วยเพิ่มสีสันในการกินเจได้อย่างมาก

นอกจากนี้บรรดาร้านที่จัดเป็นตลาดย่อยๆ ตามแหล่งชุมชนต่างๆ และบรรดาแผงผัก รวมทั้งร้านขายของชำ และร้านที่ขายเต้าหู้และของเบ็ดเตล็ดในตลาดสดก็พลอยขายดิบขายดีไปตามๆ กัน โดยเฉพาะเต้าหู้ในช่วงเทศกาลกินเจนั้นจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ผู้ที่จะประกอบอาหารเจรับประทานเองที่บ้านต้องไปตลาดแต่เช้า หรือไม่ก็ต้องมีเจ้าประจำสั่งจองไว้ล่วงหน้าเลยทีเดียว สำหรับแหล่งเลือกซื้อส่วนประกอบอาหารเจอีกแหล่งหนึ่งที่เป็นที่นิยมของคนกรุงเทพฯ คือ ซุปเปอร์มาร์เก็ตตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งซุปเปอร์มาร์เก็ตแต่ละแห่งต่างก็มีการส่งเสริมการจำหน่ายอาหารเจกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ทั้งเครื่องประกอบอาหารเจ อาหารเจสำเร็จรูป และกึ่งสำเร็จรูปเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

– น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง

ผลจากการสำรวจพบว่าน้ำเต้าหู้และนมถั่วเหลืองบรรจุกล่องนั้นนับว่าเป็นอาหารเจยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ ธุรกิจจำหน่ายน้ำเต้าหู้ร้อนๆ บริโภคกับปาท่องโก๋จะขายดิบขายดีทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็น ส่วนบริษัทที่ผลิตนมถั่วเหลืองบรรจุกล่องต้องมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากภาวะปกติถึง 3 เท่าตัวเพื่อรับมือกับช่วงเทศกาลกินเจ

นอกจากนี้ ธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากเทศกาลกินเจคือ ธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีประเพณีการกินเจไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต ตรัง กระบี่ และพังงา ในช่วงเทศกาลกินเจสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้เข้ามาเที่ยวชมเทศกาลได้อย่างมาก เนื่องจากในช่วงนี้ตรงกับช่วงปิดเทอมซึ่งเป็นช่วงที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปภูเก็ตมากกว่าในช่วงอื่นๆ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์

ส่วนประกอบอาหารเจที่เป็นที่นิยมในช่วงเทศกาลกินเจที่ขายดิบขายดี มีดังต่อไปนี้

– ผัก
ผักต่างๆนับว่าเป็นวัตถุดิบสำคัญอย่างหนึ่งในการประกอบอาหารเจ โดยผลจากการสำรวจพบว่าคนกรุงเทพฯที่ประกอบอาหารเจรับประทานเองนิยมใช้ผักเป็นส่วนประกอบสำคัญ ความต้องการผักในช่วงเทศกาลกินเจนั้นพุ่งสูงขึ้นจากช่วงปกติประมาณ 1 เท่าตัว จนกระทั่งนับได้ว่าราคาผักในช่วงกินเจเป็นช่วงที่ผักมีราคาแพงช่วงหนึ่งของปี อย่างไรก็ตามในปีนี้เนื่องจากกระแสการรักษาสุขภาพนั้นมาแรงมาก ประเภทผักที่คาดว่าจะมีการขยายตัวของการบริโภคอย่างมาก คือ ผักปลอดสารพิษ หรือผักอนามัย แม้ว่าผักประเภทนี้จะมีราคาสูงกว่าผักโดยทั่วไปก็ตาม

– โปรตีนเกษตร
เดิมนั้นสินค้าตัวนี้พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ซึ่งต่อมาก็เป็นที่แพร่หลายในกลุ่มของผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ และผู้ที่พยายามหลีกเลี่ยงในการรับประทานเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพ ตั้งแต่ปี 2539 บริษัทเอกชนมีการพัฒนาโปรตีนเกษตรไปอีกขั้นหนึ่ง โดยการสกัดไขมันในระหว่างขั้นตอนการผลิต ยอดจำหน่ายโปรตีนเกษตรในช่วงเทศกาลกินเจในแต่ละปีคาดว่าสูงถึง 200 ล้านบาททีเดียว

– น้ำมันพืชและซอสปรุงรส
ในช่วงเทศกาลกินเจจะมีโฆษณาของน้ำมันพืชและซอสปรุงรสให้เห็นอยู่เนืองๆ ประมาณว่าในช่วงเทศกาลกินเจในแต่ละปียอดจำหน่ายน้ำมันพืชและซอสปรุงรสเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5 ของยอดจำหน่ายปกติ

– อาหารเจสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป
อาหารเจที่เป็นที่นิยมอย่างมากอีกประเภทหนึ่งคือ อาหารเจสำเร็จรูปและอาหารเจกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งบรรดาบริษัทผู้ผลิตเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้าเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค สินค้าเหล่านี้ขายดิบขายดีอย่างมากในช่วงเทศกาลกินเจ เนื่องจากสามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคมากขึ้น สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของคนกรุงเทพฯที่ต้องทำกิจกรรมทุกอย่างแข่งกับเวลา นอกจากนี้ผู้ผลิตยังมีการพัฒนาเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาหารเจสำเร็จรูปเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ตลาดอาหารเจสำเร็จรูปที่น่าสนใจคือ อาหารเจกระป๋อง ซึ่งมีอัตราการเติบโตของตลาดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20-25 ในแต่ละปี คาดว่าตลาดอาหารเจกระป๋องเฉลี่ยในแต่ละปีสูงถึง 200 ล้านบาท และอาหารเจสำเร็จรูปแช่แข็งรวมทั้งอาหารเจกึ่งสำเร็จรูป ผู้ที่ผลิตอาหารสำเร็จรูปหันมาพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในช่วงของเทศกาลกินเจ โดยยังคงอาศัยช่องทางการจัดจำหน่ายเดิมในการกระจายสินค้า เน้นการจัดจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อที่มีกระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งในแต่ละช่วงที่มีเทศกาลกินเจยอดจำหน่ายสินค้าประเภทนี้ทำเงินให้กับผู้ผลิตอย่างงดงามทีเดียว นอกจากนี้บริษัทผู้ผลิตอาหารเจสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูปยังหันไปจับลูกค้าเป้าหมายที่รักษาสุขภาพโดยการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพและหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถมียอดจำหน่ายตลอดทั้งปี

อุปสรรคในการกินเจ…คุณค่าทางอาหารไม่ครบ

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เคยสำรวจพบว่าอุปสรรคสำคัญที่คนกรุงเทพฯคาดว่าจะพบในการรับประทานอาหารเจที่ผู้ประกอบธุรกิจอาหารเจยังไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก คือ คุณค่าทางอาหารไม่ครบ และกลัวอ้วน เนื่องจากอาหารเจส่วนใหญ่จะประกอบด้วยแป้งและเป็นอาหารมันๆ ดังนั้นผู้บริโภคอาหารเจบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงและบรรดาวัยรุ่นกังวลว่าการบริโภคอาหารเจจะสร้างปัญหากับน้ำหนักตัวและสุขภาพ ดังนั้นถ้าผู้ประกอบธุรกิจอาหารเจจับประเด็นในเรื่องคุณค่าทางโภชนาการนี้เป็นหลักในการประชาสัมพันธ์จะทำให้สามารถขยายตลาดอาหารเจออกไปได้อีกมาก

ทุกปีที่ผ่านมาในช่วงของเทศกาลกินเจนับเป็นช่วงของการกอบโกยกำไรของธุรกิจจำหน่ายอาหารเจ โดยเฉพาะร้านอาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขาย มักจะมีข้ออ้างในเรื่องของส่วนประกอบที่นำมาทำอาหารเจนั้นมีราคาแพงโดยเฉพาะผัก ซึ่งเมื่อใกล้ถึงเทศกาลกินเจเกษตรกรส่วนใหญ่ชะลอการเก็บผลผลิตเพื่อรอให้เข้าสู่เทศกาลกินเจเสียก่อน เนื่องจากคาดหวังว่าจะได้ราคาสูงกว่าเดิม ดังนั้นราคาผักนั้นเริ่มสูงขึ้นก่อนช่วงเทศกาลประมาณ 1 สัปดาห์ และในช่วงเทศกาลกินเจก็ปรับตัวสูงขึ้นอีก เนื่องจากเป็นช่วงที่ความต้องการในการบริโภคเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผักที่เป็นที่นิยมในการบริโภค เช่น ผักบุ้งจีน ผักคะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ถั่วฝักยาว เป็นต้น นอกจากนี้ในปีนี้ยังมีปัจจัยในเรื่องน้ำท่วมและภาวะฝนตกหนักมาซ้ำเติมให้ราคาผักพุ่งสูงขึ้นไปอีก

นอกจากนี้การเลือกซื้อและบริโภคอาหารเจนั้นผู้บริโภคพิถีพิถันในเรื่องของความสะอาดมาก่อนการคำนึงในเรื่องของรสชาติอาหาร เพราะในยุคนี้กระแสการระมัดระวังในเรื่องการรักษาสุขอนามัยมาแรง ดังนั้นร้านอาหารและแผงลอยที่จำหน่ายอาหารเจก็ต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในการจำหน่ายอาหารเจที่คำนึงทั้งในเรื่องของความสะอาด ปลอดภัย และถูกต้องตามหลักสุขอนามัย รวมทั้งสุขอนามัยของสถานที่ปรุงและสถานที่จำหน่าย ความสะอาดของภาชนะอุปกรณ์ที่ใช้ ตลอดจนผู้ที่สัมผัสกับอาหารต้องมีสุขนิสัยที่ดี เช่น ต้องมีการล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ต้องสวมหมวกในขณะปรุงและขายอาหารอยู่ตลอดเวลา เป็นต้น อาหารเจที่ปรุงสำเร็จแล้วจะต้องมีการเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด และมีการอุ่นให้ร้อนเป็นระยะๆ กรณีที่ต้องมีการเก็บเกิน 4 ชั่วโมงควรเก็บไว้ในตู้เย็น เมื่อนำออกมาจำหน่ายหรือนำไปบริโภคก็จะต้องอุ่นให้ร้อนอีกครั้งหนึ่ง

บทสรุป

บรรยากาศในการกินเจปี 2547 นี้คาดว่าจะคึกคักเช่นเดียวกับในปีที่ผ่านๆมา เนื่องจากคาดว่ามีคนกรุงเทพฯที่ตั้งใจจะกินเจมากขึ้นและเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาบริโภคอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น แต่ผู้บริโภคจะยังเน้นนโยบายประหยัด โดยจะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่ายในการบริโภคอาหารเจต่อคนนั้นเพิ่มขึ้นไม่มากนัก อย่างไรก็ตามยังมีหลากหลายธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากช่วงเทศกาลกินเจที่ทำให้ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ นับได้ว่าประเพณีที่เกิดจากความเชื่อถือที่มีการปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นเวลานานช่วยให้หลากธุรกิจพลิกกลยุทธ์รับประโยชน์ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในช่วงเทศกาลกิจเจ 10 วัน

อย่างไรก็ตามการกินเจในปีนี้ยังคงมีปัจจัยหนุนเนื่องหลายประการได้แก่ ในปีนี้มีคนกรุงเทพฯตั้งใจจะกินเจในช่วงเทศกาลกินเจเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะได้ขอร่วมกินเจทำบุญล้างกายและล้างใจ และกระแสความเชื่อว่าการกินเจช่วยทำให้สุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมที่จะรับมือกับภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจที่เข้ามารุมเร้าอยู่ในเวลานี้ รวมทั้งการรับประทานอาหารเจในปัจจุบันไม่ได้ยากลำบากเหมือนกับเมื่อก่อน เนื่องจากมีธุรกิจหลายแขนงผลิตสินค้าขึ้นมาสนองความต้องการของคนที่รับประทานอาหารเจ ทำให้ยอดจำหน่ายสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าในปีนี้ทั้งผู้บริโภคอาหารเจต่างปรับตัว โดยหันไปรับประทานอาหารเจกึ่งสำเร็จรูป อาหารเจแช่แข็ง เบเกอรี่เจ ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ของอาหารเจมากขึ้น