จีเอ็ม เพิ่มการลงทุนในประเทศไทย ขยายศูนย์การผลิตฯ จ.ระยอง สร้างโรงงานทำสีรถแห่งใหม่

บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ทุ่มงบประมาณกว่า 66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 2,700 ล้านบาทเพิ่มศักยภาพการผลิต บนพื้นที่ 10,8000 ตารางเมตร ในศูนย์การผลิตเจนเนอรัล มอเตอร์ส จังหวัดระยอง เป็นโรงงานทำสีรถแห่งใหม่ ซึ่งขยายเพิ่มเติมจากพื้นที่ของศูนย์การผลิตฯเดิม เพื่อรองรับความต้องการรถเชฟโรเลต ของผู้บริโภคในประเทศไทย และตอบสนองการขยายตัวของตลาดรถยนต์ในภูมิภาคอาเซียน และในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยเมื่อเร็วๆนี้ พนักงานจีเอ็มกว่าร้อยคนได้เข้าร่วมพิธีทางพุทธศาสนาเพื่อเป็นสิริมงคล ในการก่อสร้างโรงงานทำสีรถแห่งใหม่ ณ ศูนย์การผลิตเจนเนอรัล มอเตอร์ส จังหวัดระยอง

ในระยะแรกของการขยายศูนย์การผลิตฯนี้ จีเอ็มได้ทุ่มงบประมาณไปกว่า 46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณเกือบ 2พันล้านบาท โดยการก่อสร้างโรงงานทำสีรถแห่งใหม่ จะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2549 ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตรถยนต์ให้มากขึ้นจาก 110,000 คัน เป็นกำลังการผลิตที่มากกว่า 160,000 คันต่อปี

โรงงานทำสีรถยนต์แห่งใหม่นี้ นับเป็นโรงงาน ‘สีเขียว’ แห่งใหม่ ของ ศูนย์การผลิต เจนเนอรัล มอเตอร์ส จังหวัดระยอง โดยได้นำเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัยที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมาใช้ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้มากที่สุด อาทิเช่น การปรับเปลี่ยนมาใช้สีที่ปลอดสารตะกั่ว ในโรงงานพ่นสี รวมทั้งการเปลี่ยนการใช้สารเคมีเป็นตัวทำละลายสีมาเป็นการใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษน้อยกว่า นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมอากาศเสียที่เกิดจากการผลิต และระบบบำบัดน้ำเสียใหม่อีกด้วย

โรงงานทำสีแห่งใหม่นี้ ดำเนินการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรและขั้นตอนการพ่นสีอัตโนมัติที่ทันสมัย เพื่อรองรับการพ่นสีรถกระบะขนาด 1 ตัน อย่างไรก็ตาม โรงงานทำสีใหม่ที่สร้างขึ้น จะยังคงมีศักยภาพการผลิต ที่สามารถรองรับการทำสีรถยนต์ประเภทอื่นๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

มร. วิลเลี่ยม บอทวิค ประธานกรรมการ ประจำภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทย บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เอเซีย แปซิฟิค จำกัด กล่าวว่า “โรงงานทำสีรถแห่งเดิมของศูนย์การผลิต เจนเนอรัล มอเตอร์ส จังหวัดระยอง สามารถดำเนินการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค ได้ถึงสิ้นปี 2548 เท่านั้น การลงทุนเพื่อขยายโรงงานทำสีรถ ของศูนย์การผลิตฯ ทั้งสองระยะนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตให้สูงยิ่งขึ้น ยังเป็นการตอบสนองความมุ่งมั่นของเราในการก้าวเป็น ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia) อีกด้วย”

ทั้งนี้ ศูนย์การผลิตเจนเนอรัล มอเตอร์ส จังหวัดระยอง ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นศูนย์การผลิตฯที่มีระบบการจัดการ และการดำเนินงานโดยคำนึงถึงความปลอดภัยดีเยี่ยม จนได้รับ การรับรองจากรัฐบาลไทย ทั้งในด้านความปลอดภัย สุขอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน เป็นเวลา 5 ปี ติดต่อกัน นอกจากนี้จีเอ็ม ประเทศไทย ยังได้รับรางวัลนายกรัฐมนตรี อุตสาหกรรมดีเด่นถึง 3 รางวัล ได้แก่ ประเภทการจัดการด้านความปลอดภัย ในปี 2544 ประเภทการควบคุมคุณภาพ ในปี 2547 และประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในปี 2548

ศูนย์การผลิตเจนเนอรัล มอเตอร์ส จังหวัดระยอง ผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์เชฟโรเลต เพื่อส่งออกไปจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ จีเอ็มประสบความสำเร็จด้านยอดขายทั่วภูมิภาคอาเซียน อย่างดีเยี่ยม ในปี 2547 โดยมีสัดส่วนการเจริญเติบโต เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 250 สำหรับในประเทศไทย ล่าสุด จีเอ็มได้สร้างสถิติยอดขายในเดือนพฤษภาคม ปี 2548 อย่างน่าประทับใจ ด้วยสัดส่วนการเจริญเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 139.76 เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขายเฉพาะเดือนพฤษภาคม ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ไม่เพียงแต่จะประสบความสำเร็จอย่างงดงามในประเทศไทยเท่านั้น จีเอ็มยังสร้างสถิติบรรลุถึงเป้าหมายยอดขายในประเทศภูมิภาคอาเซียนตลอดปี 2547 โดยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจากร้อยละ 4.8 เป็นร้อยละ 5.2 ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้ จีเอ็มกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ ที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคอาเซียน