23 พฤศจิกายน 2548- ไมก้า กรุ๊ป บริษัทรับสร้างบ้านระดับแถวหน้า ที่แตกไลน์สู่งานระบบสระว่ายน้ำเพื่อสุขภาพระบบเกลือ สั่งปั๊มโลโก้“Pool & Fresh” แทนการสั่งยี่ห้อผู้ผลิตชั้นนำจากออสเตรเลียมาทำตลาด ชี้ความต้องการของตลาดสระเพื่อสุขภาพเพิ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของกราฟขาขึ้น ย้ำภาพความเป็นผู้นำที่บุกเบิกตลาดเป็นเจ้าแรก ตั้งเป้ายอดขายปี 49 มูลค่า40ล้านบาท
นายธงชาติ ธรรมปราโมทย์ ประธานกรรมการ บริษัท Pool and Fresh จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการสร้างสระว่ายน้ำระบบเกลือ ในเครือไมก้า กรุ๊ป เปิดเผยถึงกลยุทธ์การทำตลาดของ Pool and Fresh ที่เตรียมพร้อมสำหรับการรุกตลาดในปี 2549 เนื่องจากคาดการณ์ว่ากระแสความต้องการของตลาดสระว่ายน้ำเพื่อสุขภาพจะมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งผลิตอุปกรณ์งานระบบยี่ห้อ Pool & Fresh จากผู้ผลิตสระว่ายน้ำระบบเกลือมาตรฐานชั้นนำของโลกจากประเทศออสเตรเลีย
“เดิมทีการดำเนินงานของ Pool and Fresh เป็นลักษณะที่เราสั่งยี่ห้อ Monarch Pool Systems เข้ามาติดตั้งให้ลูกค้า แต่กลยุทธ์ใหม่คือเราสั่งผลิตยี่ห้อ“Pool and Fresh” ซึ่งจะเป็นลักษณะรวมทั้งการขาย การบริการ และการการันตีไปด้วย ในลักษณะที่เรียกว่า Pool Shop โดยมีบริการหลังการขายที่มากกว่านั่นเอง ขณะนี้กระแสความต้องการสระว่ายน้ำระบบเกลือในตลาดโลกมีทิศทางเป็นกราฟขาขี้น โดยเฉพาะในบ้านเราเรียกได้ว่าเพิ่งจะเริ่มต้น จากที่ Pool & Fresh เริ่มเป็นผู้บุกเบิกตลาดตั้งแต่ปลายปี 2547 เป็นต้นมา ดังนั้นความต้องการของตลาดจึงยังมีมากแน่นอน ” นายธงชาติกล่าว
การดำเนินงานติดตั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือของ Pool & Fresh สามารถทำได้ทั้งลักษณะที่ลูกค้าต้องการสร้างสระว่ายน้ำใหม่ และบ้านที่มีสระว่ายน้ำระบบคลอรีนอยู่เดิมที่ต้องการเปลี่ยนเป็นระบบเกลือก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยผลดีของสระว่ายน้ำระบบเกลือ นอกจากง่ายต่อการบำรุงรักษา ค่าใช้จ่ายต่ำ คือ ประหยัดค่าไฟฟ้า ค่าบำรุงรักษาต่อเดือนที่ต่ำกว่าระบบคลอรีนอย่างมาก เช่น ในสระขนาดเดียวกัน ค่าบำรุงรักษาของระบบเกลือจะตกประมาณ 300 บาทต่อเดือน ในขณะที่ระบบคลอรีนจะตกประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องจากราคาคลอรีนและเกลือนั้นต่างกันหลายเท่า นอกจากนั้นยังมีผลดีต่อสุขภาพเนื่องจากเป็นธรรมชาติบำบัดที่ไม่เป็นอันตราย ไม่มีผลข้างเคียง ทั้งต่อสุขภาพผิว สุขภาพผม รวมถึงสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบเกลือ สำหรับสระขนาดมาตรฐาน 4 x 12 เมตร จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท ซึ่งจัดว่าต่ำมากหากเปรียบกับความคุ้มค่าของผลที่จะได้รับ
ผลประกอบการสามไตรมาสของปี 2548 มีจำนวน 35 สระ มูลค่ารวมประมาณ 25 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเป้าหมายปี 2548 ที่ตั้งไว้ทั้งปี 30 ล้านบาท หรือ 40 สระ จะสามารถทำได้ตามเป้าอย่างแน่นอน สำหรับเป้าหมายยอดขายปี 2549 ตั้งไว้ที่ 40 ล้านบาท หรือโตขึ้นกว่า 30 %
“ขณะนี้บริษัทได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเป็นพันธมิตรธุรกิจ ในลักษณะตัวแทนจำหน่าย Pool Shop ทั่วประเทศสามารถติดต่อข้อมูลรายละเอียดเข้ามาที่บริษัทได้”นายธงชาติกล่าวเสริม