เนคเทค/ สวทช. จับมือ RosettaNet Thailand และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ในการร่วมพัฒนาหลักสูตร การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานสำหรับผู้บริหาร (Executive Program in Supply Chain Management)
RosettaNet Thailand ร่วมมือกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้ลงนามข้อตกลงบันทึกความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตร การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานสำหรับผู้บริหาร (Executive Program in Supply Chain Management) โดยเนคเทคและ RosettaNet Thailand จะให้การสนับสนุนในส่วนของความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีที่ใช้ในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน เช่น เทคโนโลยี RFID เทคโนโลยี Voice Over IP (VoIP) มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างองค์กรตามแบบ RosettaNet รวมถึงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ควรเลือกในใช้โดยเน้นที่ Open Source เป็นหลัก ทั้งนี้ในหลักสูตรดังกล่าวมีการบรรจุหัวข้อ RosettaNet Standard and Technology ด้วยเพื่อให้บุคลากรของภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในระดับผู้บริหารให้มีความรู้พื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีมาตรฐานของ RosettaNet เพราะมาตรฐาน RosettaNet สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการด้านห่วงโซ่อุปทานได้เป็นอย่างดี
ดร.พันธศักด์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) กล่าวว่า “เนคเทคมีความต้องการเห็นอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทยโดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตเพื่อส่งออกและ SMEs มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและมาตรฐานของ RosettaNet มากขึ้น เพื่อเป็นการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของตน เมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันในต่างประเทศ โดยเนคเทคให้ความสนับสนุนการเผยแพร่มาตรฐาน RosettaNet ในประเทศไทย และเห็นความสำเร็จของการใช้มาตรฐาน RosettaNet จากบริษัทชั้นนำของโลก อาทิเช่น Intel, Nokia, Sony และ Seagate เป็นต้น จึงสนับสนุนการเผยแพร่มาตรฐานนี้ในประทศไทย”
ทางด้าน อ.ปิยวรรณ พุทธิพันธ์เจริญศรี จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่า “ทางมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญมีความยินดี ต่อความร่วมมือที่เกิดขึ้นนี้และหวังว่าทางผู้บริหารที่ได้เข้าร่วมในหลักสูตรนี้จะได้รับความรู้ในทุกด้าน ทั้งในแง่ของทฤษฏีการจัดการลอจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงเทคโนโลยีที่สามารถใช้เพื่อให้การส่งข้อมูลระหว่างองค์กรเป็นไปได้โดยง่าย และทำให้การจัดการห่วงโซ่อุปทานประสบผลสำเร็จต่อไป ”
ดร.ชยกฤต เจริญศิริวัฒน์ ผู้อำนวยการองค์กร RosettaNet Thailand กล่าวเสริมว่า “การร่วมมือครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของแผนทั้งหมดที่จะทำให้ผู้บริหารในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เห็นความสำคัญของการใช้ IT ในการจัดการห่วงโซ่อุปทานของตน ปัจจุบันประเทศไทยมีความตื่นตัวในด้านของการลดต้นทุนผ่านการจัดการทางด้านลอจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทานมากขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับปรุงระบบทั้งหมดจะเป็นไปไม่ได้หากผู้บริหารไม่มีความเข้าใจพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่อยู่เบื้องหลังการจัดการทางด้านลอจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด องค์กร RosettaNet Thailand และเนคเทค ให้ความสำคัญในเรื่องนี้จึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญซึ่งมีชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหารจัดการในระดับสากล เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้พื้นฐานของมาตรฐาน RosettaNet สู่ผู้บริหารขององค์กรในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งนี้ทาง RosettaNet Thailand และเนคเทคมีความยินดีที่จะเริ่มความร่วมมือเช่นนี้กับสถาบันการศึกษาอื่นๆ ต่อไปในอนาคต”
เกี่ยวกับหลักสูตร Executive Program in Supply Chain Management
หลักสูตรการจัดการห่วงโซ่อุปทานสำหรับผู้บริหาร ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญนี้ เกิดจากความต้องการที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนสามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน โดนหลักสูตรนี้จะเปิดสอน 2 session ต่อ 1 ภาคปีการศึกษา โดยจะเปิดสอนในเดือน มิถุนายน และ กันยายน ระยะเวลาในการเรียนแต่ละ session ประมาณ 5 สัปดาห์ หลักสูตรจะเน้นเนื้อหาไปที่แนวคิด และทฤษฎีกระบวนการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ถึง model ทางธุรกิจในรูปแบบเก่าและแบบสมัยใหม่ พัฒนากลยุทธ์ในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานในองค์กรพร้อมดัชนีชี้วัดผลของการบริหาร supply chain เพื่อการนำไปปรับปรุงและแก้ไขแผนกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพต่อไป พร้อมทั้งเรียนรู้ถึง แนวคิดและแนวทางแก้ปัญหาจากกรณีศึกษาบริษัทต่างๆ ที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีการบรรจุหัวข้อทางด้าน IT ที่ใช้ในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพอย่างเช่น เทคโนโลยีมาตรฐาน RosettaNet เพื่อให้ผู้เรียนได้มองเห็นแนวทางในการบริหาร supply chain ได้อย่างชัดเจนขึ้น
เกี่ยวกับองค์กร RosettaNet
RosettaNet เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ส่งเสริมการพัฒนามาตรฐานในการส่งผ่านข้อมูลทางธุรกิจระหว่างองค์กรผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยมีกลุ่มสมาชิกมากกว่า 500 บริษัททั่วโลก ได้แก่ กลุ่มบริษัทในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ กลุ่มบริษัทอิเล็กทรอนิกส์คอนซูเมอร์ กลุ่มบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ กลุ่มบริษัทโลจิสติกส์ และกลุ่มบริษัทโทรคมนาคม ปัจจุบันนี้มีสมาชิกเป็นบริษัททั่วโลกกว่า 1,000 บริษัท ซึ่งรวมเอาบริษัทชั้นนำ อาทิ Intel, Cisco, Sony, Nokia, Seagate และ DHL ที่ได้นำเอามาตรฐานของ RosettaNet ไปใช้ในการดำเนินธุรกิจระหว่างองค์กรแบบ B2B ทำให้บริษัทเหล่านั้น ลดค่าใช้จ่ายได้หลายพันล้านบาทในแต่ละปี
สำหรับในประเทศไทยนั้น มาตรฐานของ RosettaNet จะเป็นประโยชน์ทั้งกับกลุ่มบริษัทนานาชาติ (Muti-national companies) และกลุ่ม SMEs อีกทั้งยังช่วยลดช่องว่างด้านเทคโนโลยีระหว่างกลุ่มบริษัทนานาชาติ และ SMEs ผู้ผลิตของไทย ในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจระหว่างกัน และหากในอนาคตกลุ่ม SMEs ผู้ผลิตของไทยมีการใช้มาตรฐานระดับโลกของ RosettaNet แล้ว ก็จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency) ในการประกอบธุรกิจและความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) ของผู้ประกอบการของอุตสาหกรรมในประเทศไทยตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ RosettaNet ได้ที่ ดร. ชยกฤต เจริญศิริวัฒน์ โทรศัพท์ 02-564-6955-58 หรือเว็บไซต์ http://www.RosettaNet.org