“สกาย-ไฮฯ” งัดกลยุทธ์ CRM บุกธุรกิจวิทยุเต็มสูบ หวังสร้างแบรนด์รอยัลตี้รักษาฐานกลุ่มผู้ฟังเดิม และสร้างแบรนด์อะแวร์เนซขยายฐานกลุ่มผู้ฟังใหม่ เพื่อครองแชมป์เรตติ้งคลื่นวิทยุประเภทอีซี่ลิสซึ่นนิ่งอันดับ 1 ต่อเนื่อง ชิมลางเปิดตัว “ไหม-วิสา สารสาส” เป็นคูล แอมบาสเดอร์ ทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ประจำคลื่นวิทยุ COOL 93 fahrenheit บอกความเคลื่อนไหวของคลื่นฯ ตอกย้ำโพซิชั่นนิ่งในการเป็นคลื่นทันสมัย อารมณ์ดี เท่ห์ และเก๋ ประเดิมเทงบ 10 ล้าน ผุดกิจกรรมชื่อ Each Day is Yellow with COOL Ambassador นำแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเมืองไทยอย่าง ISSUE มาจัดทำ และออกแบบเสื้อเหลืองเป็นพิเศษ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความจงรักภักดีแด่ในหลวง เนื่องในวโรกาสพระชนม์มายุครบ 80 ชันษา เผยปีนี้ทุ่มงบทำตลาดเพิ่มเป็น 100-150 ล้าน คาดโกยรายได้รวมทะลุ 450 ล้าน โต 20% จากปีก่อน
ลาดพร้าว-นายคมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด บริษัทในกลุ่มสายงานอาร์เอส เรดิโอ ผู้ผลิตรายการวิทยุ MAX 88.5 FM, COOL 93 fahrenheit และ LATTE 106 FM เปิดเผยแนวทางการทำตลาดของคลื่นวิทยุ COOL 93 fahrenheit ในปี 50 ว่า จะใช้กลยุทธ์ CRM (Customer Relationship Management) เพื่อสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ให้กับกลุ่มผู้ฟังเดิม (Brand Royalty) รวมทั้งเพื่อสร้างแบรนด์ให้กับกลุ่มผู้ฟังใหม่เป็นที่รู้จัก และจดจำในวงกว้าง (Brand Awareness) ถือเป็นกลยุทธ์ช่วยรักษาเรตติ้งคลื่นวิทยุประเภทอีซี่ลิสซึ่นนิ่ง (Easy Listising) อันดับ 1 ต่อเนื่อง
ล่าสุด เปิดตัว “ไหม-วิสา สารสาส” เป็นคูล แอสบาสเดอร์ (COOL Ambassador) ปี 2007 เพื่อเป็นตัวแทนของคลื่นวิทยุ COOL 93 fahrenheit ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นของคลื่นฯ ให้กับผู้ฟังตลอดทั้งปี 50 ตอกย้ำโพซิชั่นนิ่งในการเป็นคลื่นทันสมัย อารมณ์ดี เท่ห์ และเก๋ ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มคนทำงานที่มีรสนิยม และความเป็นตัวของตัวเองซึ่งมีอายุระหว่าง 20-30 ปี
โดย “ไหม-วิสา สารสาส” จะเริ่มทำหน้าที่เป็นคูล แอสบาสเดอร์ในกิจกรรมแรกที่ชื่อ Each Day is Yellow with COOL Ambassador ซึ่งเป็นการนำแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเมืองไทยอย่าง ISSUE มาจัดทำ และออกแบบเสื้อเหลืองเป็นพิเศษให้กับคลื่นวิทยุ COOL 93 fahrenheit เพื่อรณรงค์ให้คนไทยร่วมใจกันใส่เสื้อเหลืองตลอดปี 2007 โดยไม่จำเป็นต้องใส่เฉพาะวันจันทร์เท่านั้น เพื่อแสดงถึงพลังแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ของคนไทย และเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสพระชนม์มายุครบ 80 ชันษา
นอกจากนี้ ยังมีแผนเตรียมจะทำมาร์คอม (Marcom) ด้วยการเริ่มจัดกิจกรรมแรกที่ชื่อว่า Season Impression เป็นการใช้ฤดู Summer, Rainy และ Winter มาเป็นตัวกำหนดรูปแบบกิจกรรม และรูปแบบในรายการให้มีความน่าสนใจมากขึ้น จึงมั่นใจว่ากลยุทธ์การทำตลาดในรูปแบบต่างๆ ที่จะนำเสนอตลอดปี 50 จะสามารถขยายฐานกลุ่มผู้ฟังได้ในวงกว้าง รวมทั้งจะสามารถดึงดูดให้เอเยนซี่และลูกค้าสนใจซื้อโฆษณามากขึ้น
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 50 คาดว่าจะใช้งบทำตลาดประมาณ 100-150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งใช้งบทำตลาด 85 ล้านบาท เนื่องจากต้องการทำตลาดเชิงรุกธุรกิจวิทยุเต็มรูปแบบ แม้แนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมวิทยุจะยังทรงตัวในช่วงครึ่งปีแรก แต่มั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังทุกอย่างจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ดังนั้น การตัดสินใจทำตลาดเชิงรุกตั้งแต่วันนี้ จะส่งผลดีในระยะยาวโดยเฉพาะในแง่รายได้รวมจะค่อยๆ ไต่ระดับเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่บริษัทฯ วางแผนทำตลาดชัดเจนในทิศทางเดียวกันทั้ง 3 คลื่น
ส่วนแนวทางการทำตลาดทั้ง 3 คลื่น เน้นใช้กลยุทธ์ CRM ผ่านการสร้างไอคอน (ICON) ของแต่ละคลื่นวิทยุ รวมทั้งจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างสังคม (Community) ของกลุ่มผู้ฟังในแต่ละคลื่นให้ช่วยกระตุ้นฐานกลุ่มผู้ฟังเดิม เกิดความจงรักภักดีต่อคลื่นวิทยุนั้นๆ มากขึ้น ตลอดจนช่วยขยายฐานกลุ่มผู้ฟังใหม่ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและจดจำในวงกว้าง โดยมั่นใจว่าสิ้นปีนี้บริษัทฯ จะมีรายได้รวม 450 ล้านบาท เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 370 ล้านบาท
“ทุกวันนี้ภาพรวมของวงการวิทยุมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ทำให้ต่างฝ่ายต่างต้องการสร้างความแตกต่าง ดังนั้น การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันหมุนเร็วมากขึ้นแค่ไหน เราก็จะได้เห็นกลยุทธ์ทางการตลาดสารพัดชนิด ที่แปลกใหม่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นทุกวัน เราจึงเห็นความสำคัญในการนำมาร์เก็ตติ้งในรูปแบบใหม่มาสร้างปรากฏการณ์บนหน้าปัดวิทยุ กับโปรเจค Each Day is Yellow with COOL Ambassador ซึ่งมีไหม-วิสา สารสาสเป็นคูล แอมบาสเดอร์ เพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการบอกความเคลื่อนไหวของคลื่นวิทยุCOOL 93 fahrenheit” นายคมสันต์ กล่าว