เอสบีไอ โฮลดิ้งส์ อิงค์ (SBI Holdings, Inc.) (TOKYO:8473) และเอฟพีที คอร์ป (The Corporation for Financing and Promoting Technology) ซึ่งเป็นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ประกาศให้ทราบถึงแผนการจัดตั้งพันธมิตรร่วมลงทุนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ประเทศเวียดนามซึ่งมีเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการทำตามสัญญาที่นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นและเวียดนามได้ให้คำมั่นว่าจะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอฟพีที แคปิตอล (FPT Capital) ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว มีแผนที่จะนำเงินทุนก้อนแรกไปใช้ในกระบวนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (SOE) ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเงินการธนาคาร และจะนำไปใช้พัฒนาภาคอุตสาหกรรมเกิดใหม่ อาทิ วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต เทคโนโลยีสารสนเทศ และบริการอินเทอร์เน็ต โดยเมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงไปรษณีย์และโทรสนเทศแห่งเวียดนามได้ประกาศว่าเวียดนามได้ไต่อันดับขึ้นเป็น 1 ใน 20 ประเทศที่มีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรสูง ซึ่งเป็นพัฒนาการที่จะช่วยเปิดทางให้มีการทำธุรกิจอิเล็คทรอนิคในประเทศเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการกำกับดูแลการพัฒนาและปรับปรุงวิสาหกิจแห่งชาติ (the National Steering Committee for Enterprise Renovation and Development (NSCRD)) รายงานว่า มีรัฐวิสาหกิจถึง 713 แห่งที่พร้อมสำหรับการแปรรูปในระยะเวลาหลายปีข้างหน้า ซึ่งเป็นขั้นตอนที่รัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
นายโยชิทากะ คิตาโอะ ซีอีโอของเอสบีไอ โฮลดิ้งส์ สนับสนุนการที่บริษัทเข้าลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมกับเอฟพีที “เราใช้เวลาทำความรู้จักกับเอฟพีทีอย่างใกล้ชิด และเราเชื่อว่าเอฟพีทีเป็นตัวแทนเวียดนามยุคใหม่ รวมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นบริษัทที่มองการณ์ไกลและเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งซึ่งจะนำทางเราในการร่วมเป็นหุ้นส่วนครั้งนี้ รวมถึงจะนำเราก้าวเขาไปหาโอกาสการลงทุนที่มีอยู่มากมายในประเทศนี้ การที่เราจัดตั้งกองทุนร่วมกับเอฟพีทีเป็นเพียงก้าวแรกในกลยุทธ์ที่เราวางแผนไว้เป็นอย่างดีสำหรับการที่เราจะเข้าลงทุนและเตรียมพร้อมธุรกิจที่มีคุณภาพ ตลอดจนสร้างสรรค์หนทางจากทุกที่ในโลกที่จะนำไปสู่ตลาดญี่ปุ่น ซึ่งสำหรับเราแล้วคือเวียดนาม และเรายินดีที่ได้ร่วมมือกับเอฟพีที กรุ๊ป”
นาย Truong Gia Binh ซีอีโอของเอฟพีที กล่าวเนื่องในโอกาสนี้ว่า “เราเลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับกลุ่มร่วมลงทุนที่มีทักษะและประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย สถิติการขยายตัวอย่างยอดเยี่ยมของเอสบีไอ โฮลดิ้งส์ตามหลังเรามาติดๆ นอกเหนือจากเงินทุนที่จะได้รับแล้ว เอฟพีทียังจะได้ประโยชน์จากความรู้ของเอสบีไอเกี่ยวกับวิธีการจัดการกองทุน บริการทางการเงิน การลงทุนด้านไอที และการที่เราจะสามารถเชื่อมโยงกับตลาดทุนของญี่ปุ่นได้โดยตรง เรามองว่าเอฟพีทีเป็นหุ้นส่วนระยะยาวที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับเราในการร่วมมือปฏิวัติและปรับปรุงวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนชาวเวียดนาม ด้วยความสำเร็จของเอฟพีทีในการรับจ้างพัฒนาซอฟท์แวร์ (Software Outsourcing) ให้กับญี่ปุ่น เราจึงเชื่อมั่นว่าแผนการเป็นพันธมิตรการจัดการกองทุนร่วมกับเอสบีไอ โฮลดิ้งส์ จะเป็นการสนับสนุนให้เป้าหมายของเราที่จะก้าวเข้าสู่ระดับสากลกลายเป็นความจริง”
เกี่ยวกับ เอฟพีที คอร์ป
เอฟพีที คอร์ป คือบริษัทด้านเทคโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เอฟพีทีคือผู้นำตลาดของเวียดนามในการจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ การรวมระบบ การพัฒนาและรับจ้างพัฒนาซอฟต์แวร์ ตลอดจนเป็นผู้นำในด้านเทเลคอม อินเทอร์เน็ต และอี-มีเดีย คอนเทนท์ และการประกอบชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ โดยพันธมิตรด้านเทคโนโลยีระดับโลกของเอฟพีที ได้แก่ ไอบีเอ็ม, ออราเคิล, ไมโครซอฟท์, ซิสโก ซิสเต็มส์ และอินเทล นอกจากนี้ เอฟพีทียังเป็นผู้นำในการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยี โดยมีผู้ลงทะเบียนถึง 28,000 คนนับตั้งแต่ปี 2542 ที่บริษัทได้เปิดให้มีการฝึกอบรมในสถานศึกษาของบริษัทที่มีอยู่ทั่วประเทศ เอฟพีทีก่อตั้งขึ้นในปี 2531 ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานประมาณ 8,000 คน และมีวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพด้านสารสนเทศเป็นจำนวนมากที่สุดในประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ http://www.fpt.com.vn
เกี่ยวกับ เอสบีไอ โฮลดิ้งส์ อิงค์
เอสบีไอ โฮลดิ้งส์ (TOKYO:8473) เพิ่งแยกตัวออกจาก ซอฟท์แบงก์ คอร์ปอเรชั่น (หรือ ซอฟท์แบงก์ อินเวสเมนท์ ในอดีต) ปัจจุบัน การดำเนินงานของ เอสบีไอ โฮลดิ้งส์ ครอบคลุมธุรกิจใน 3 สาขา คือ (1) การจัดการสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงการร่วมทุน (2) ธุรกิจนายหน้าและวาณิชธนกิจ และ (3) บริการทางการเงิน ซึ่งสามารถใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตได้ โดยบริษัทบริหารธุรกิจร่วมทุนเกือบ 70 แห่ง ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่ได้เป็นผู้นำบริการทางการเงินออนไลน์ที่หลากหลาย เช่น การให้การสนับสนุนเงินลงทุน การเป็นนายหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ เงินกู้เพื่อการซื้อหุ้นภายในประเทศ และการเปรียบเทียบด้านการประกัน ส่วนในระดับนานาชาตินั้น บริษัทเพิ่งจัดตั้งพันธมิตรร่วมกับ โกลด์แมน แซคส์ และกลุ่มต่างๆ ที่ควบคุมโดยบริษัทเทมาเส็ก โฮลดิ้งด์ ของสิงคโปร์ และเดอะ สเตท แบงก์ ออฟ อินเดีย นอกจากนี้ เอสบีไอยังวางแผนที่จะเปิดตัวธนาคารอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการครบวงจรเป็นรายแรกของญี่ปุ่นในปีหน้า โดยร่วมมือกับ ซูมิโตโม่ ทรัสต์ แอนด์ แบงกิ้ง รวมถึงมีแผนที่จะจัดตั้งธุรกิจประกันชีวิตแห่งใหม่ร่วมกับบริษัท เอเอ็กซ์เอ เจแปน และธุรกิจประกันด้านต่างๆ ยกเว้นประกันชีวิต (Non-Life Insurance) ร่วมกับบริษัทไอโออิ อินชัวรันซ์
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอสบีไอ โฮลดิ้งส์ ได้ที่ www.sbigroup.co.jp
ติดต่อ: เอสบีไอ โฮลดิ้งส์
Mr. Rahul Desai
ผู้จัดการใหญ่ (ฝ่ายวางแผนและพัฒนาองค์กร)
โทร: (81) 3 6229 0134
Ms. Miho Uratani
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทร: (81) 3 6229 0126
อีเมล์: muratani@sbigroup.co.jp
หรือ
เอฟพีที คอร์ป
Mr. Dang Luu Dung,
ที่ปรึกษาอาวุโสประธานกรรมการ
โทร: (84) 9 0418 6392
Mr. Dao Kien Trung
ที่ปรึกษากฎหมายอาวุโส
โทร: (84) 9 2225 0982
