นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยถึงมติคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการประชุมวันนี้ (25 กรกฏาคม 2550) ว่า คณะกรรมการได้มีมติยกเลิกการผ่อนผันการวางหลักประกันร้อยละ 10 ของวงเงินที่จะซื้อหลักทรัพย์ สำหรับบัญชีเงินสดของผู้ลงทุนบุคคลทั้งในและต่างประเทศ จากเดิมที่ได้มีการผ่อนผันให้ผู้ที่มีวงเงินต่ำกว่า 500,000บาท ไม่ต้องวางหลักประกันร้อยละ 10 ของวงเงินที่จะซื้อหลักทรัพย์ ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการได้พิจารณาข้อมูลของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้แจ้งว่า บริษัทสมาชิกมีความพร้อมในระบบการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการวางหลักประกันดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งเห็นว่า การกำหนดให้มีการวาง หลักประกันร้อยละ 10 ของวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงของบริษัท และส่งเสริมให้ผู้ลงทุนมีวินัยในการลงทุนเพิ่มขึ้น
“การยกเลิกการผ่อนผันดังกล่าว จะทำให้ผู้ลงทุนที่ซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีเงินสด ต้องมีการวางหลักประกันในอัตราอย่างน้อยร้อยละ 10 ของวงเงินที่จะซื้อหลักทรัพย์ ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ได้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงทั้งของผู้ลงทุนและบริษัทสมาชิกในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน และเป็นการเสริมสร้างเสถียรภาพของตลาดทุนโดยรวม รวมทั้ง จะมีส่วนส่งเสริมให้ผู้ลงทุนมีการวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายสุทธิชัยกล่าว
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่าการผ่อนผันการวางหลักประกันร้อยละ 10 ของวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ มีระยะเวลารวมประมาณ 3 ปีแล้ว นับตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ออกข้อบังคับให้บริษัทสมาชิกเรียกให้ลูกค้าวางทรัพย์สินเป็นหลักประกันก่อนการซื้อขายหลักทรัพย์ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อให้มีผลให้ตั้งแต่ 1 กรกฏาคม 2547 แต่ได้มีการผ่อนผันให้ผู้ลงทุนที่มีวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ต่ำกว่า 1,000,000 บาทไม่ต้องวางหลักประกัน ในช่วง 6 เดือนแรก ระหว่าง 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 2547 และผ่อนผันให้ผู้ที่มี วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ต่ำกว่า 500,000 บาท ไม่ต้องวางหลักประกัน ตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดให้มีการประชุมร่วมกับสมาชิก เพื่อให้มีการสร้างความเข้าใจกับลูกค้าอย่างทั่วถึง ก่อนที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป