เด็มโก้โชว์ผลงานไตรมาส 2 ปีนี้กำไรโต 76.82% ผลจากการรับรู้รายได้งานภาครัฐและเอกชน พร้อมเดินหน้าลุยงานเพิ่ม คาดไตรมาส 3 รับรู้ผลการประมูลงานใหม่กว่า 4,000 ล้านบาท หวังดันรายได้ปีต่อไปโตต่อเนื่องตามเป้า
บริษัทเด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ผู้นำด้านงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้ามากกว่า 15 ปี โดยให้บริการงานระบบวิศวกรรมไฟฟ้าและโทรคมนาคมอย่างครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบงาน จัดหา ก่อสร้าง และติดตั้ง เปิดเผยผลการดำเนินงานสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2550 ว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 51.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.34 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 29.08 ล้านบาทหรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 76.82 % โดยมีรายได้รวม 906.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.86 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 83.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.90 ล้านบาท หรือ 62.27 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 51.22 ล้านบาท โดยรายได้รวมอยู่ที่ 1,333.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 599.80 ล้านบาทหรือ 81.79 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 733.34 ล้านบาท
อนายไพฑูรย์ กำชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการเงิน DEMCO กล่าวว่า สาเหตุที่รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทเร่งติดตั้งอุปกรณ์สถานีไฟฟ้าภาครัฐ ซึ่งอุปกรณ์ส่วนใหญ่ส่งถึง Site งานในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2550 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว วัตถุประสงค์เพื่อเตรียมทีมงานให้พร้อมสำหรับโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการประมูลงานในช่วงไตรมาส 3 – 4
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนประมูลงานในช่องทางการตลาดใหม่ๆ เพิ่มอีก อาทิ งานสายเคเบิลใต้น้ำมูลค่างานประมาณ 1,000 ล้านบาท การประมูลงาน 500 KV ร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศ ซึ่งจะยื่นซองในไตรมาส 4 รวมถึงงานประเภท Wind Energy และโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังานทดแทนประเภทต่าง ๆ
นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับงานด้านบริการของเด็มโก้แล้ว บริษัทฯ ยังปรับแผนธุรกิจด้านการขายจากนโยบายการเปิดหน่วยธุรกิจใหม่ ด้วยบริการ ONE STOP SHOPPING ซึ่งเป็นการขายอุปกรณ์ระบบจำหน่ายไฟฟ้าและงานขายเสาโครงเหล็กพร้อมอุปกรณ์ในการติดตั้ง โดยลูกค้าหรือผู้รับเหมาสามารถสั่งซื้ออุปกรณ์ในงานก่อสร้างระบบไฟฟ้าหรืองานติดตั้งเสาโทรคมนาคม จากบริษัทแบบครบวงจร โดยเฉพาะงานเสาโทรคมนาคมสามารถจ้างออกแบบและผลิตได้ในลักษณะ Made to order ซึ่งบริษัทถือเป็นนโยบายธุรกิจที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต
นายไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอผลสรุปงานที่เข้าไปยื่นประมูลประมาณ 1,403.4 ล้านบาท ซึ่งจะทราบผลในไตรมาส 4 นี้ พร้อมกับเดินหน้าเข้าประมูลงานเพิ่มอีกมูลค่างานไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ในช่วงครึ่งหลังของปี 2550 ซึ่งเชื่อว่า บริษัทฯ จะได้รับความไว้วางใจเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากศักยภาพของทีมงาน และประสบการณ์ รวมถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทมีงานในมือเข้ามาอย่างต่อเนื่อง