รี้ดเทรดเด็กซ์” ทุ่มกว่า 20 ล้าน ขยายพื้นที่ "เมทัลเล็กซ์" เทรดโชว์ระดับนานาชาติในไทย

นางนิชาภา ยศวีร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ในการขยายพื้นที่ รองรับนวัตกรรมโลหะการกว่า 3,900 รายการ จาก 45 ประเทศทั่วโลก ที่จะเข้าร่วมแสดงในงาน “เมทัลเล็กซ์ 2007” งานมหกรรรมโลหะการที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เข้าสู่ ปีที่ 21 เป็นงานใหญ่ประจำปี ของคนในวงการอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักรโลหะการ โดยเฉพาะยานยนต์ เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ ที่ต้องเข้ามา อัพเดทเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ที่มาจากทั่วโลก ซึ่งขนาดของงานขยายใหญ่ เติบโตต่อเนื่องทุกปีโดย ปีนี้จัด ระหว่างวันที่ 15 – 18 พ.ย.นี้ ที่ ไบเทค บางนา

ในปีนี้งานเมทัลเล็กซ์ จำเป็นต้องขยาย เพิ่มพื้นที่ส่วนแสดงมากกว่า 7,000 ตารางเมตร ด้วยการติดตั้ง “ซูเปอร์โดม” ซึ่งจะโซนพิเศษไว้รองรับทัพสินค้าเครื่องจักร ด้านการผลิตลวดและท่อเหล็ก (WIRE & TUBE Tech) โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรที่ใช้ขึ้นรูปท่อขนาดต่างๆ เครื่องจักรตกแต่งท่อเครื่องจักรผลิตลวด รวมไปถึงเทคโนโลยีการผลิตลวดและสายเคเบิล และเป็นเวทีหลักสำหรับแสดงเทคโนโลยีการผลิต แม่พิมพ์และการขึ้นรูป รวมถึงเครื่องจักรกล เครื่องมือและเครื่องมือกล จากผู้แสดงสินค้าระดับนานาชาติ อาทิ กลุ่ม JAMTAT กลุ่ม UK , ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ไชน่า, สิงค์โปร์ และ บาวาเรียน พาวิลเลียน รวมถึง Mold Maker พาวิลเลียน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นงานที่รวมเทคโนโลยีงานเชื่อมที่ใหญ่ที่สุด โดยภายในงานจะมีการจัดการแข่งขันช่างเชื่อมแห่งประเทศไทย ( Thailand Welding Competition 2007 ) ซึ่งสนับสนุนโดยสมาพันธ์การเชื่อมโลหะแห่งเอเซีย และ สมาคมการเชื่อมโลหะแห่งประเทศไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานงานเชื่อมไทย สู่ระดับสากล

“ความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมผลิตฐานแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องในเมืองไทย กอปรกับนโยบายผลักดันไทยสู่ “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” รวมถึงฐานการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ เป็นแรงส่งต่อเนื่องมายังความต้องการใช้เครื่องจักรใหม่ๆ และเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้า สร้างให้เมืองไทยกลายเป็นศูนย์กลาง “ตลาด” ในอาเซียน ที่บรรดาเจ้าของเทคโนโลยีและเครื่องจักรต่างชาติ อาทิเช่น ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ อิตาลี ไต้หวัน เกาหลี จีน อินเดีย ฯลฯ ให้ความสนใจ ยกทัพสินค้ามาหาผู้ซื้อในงานเมทัลเล็กซ์ เชื่อว่างานนี้จะเป็นกุญแจการค้าที่สำคัญที่เปิดช่องทางการค้าและโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย ด้วยจำนวนผู้ซื้อคุณภาพมากกว่า 50,000 ราย ที่เข้ามาในงาน และเป็นการจุดพลุเบิกโรงฤดูกาลสั่งซื้อเครื่องจักรรอบใหม่ ซึ่งโดยเฉลี่ยจากการสำรวจ เม็ดเงินสะพัดจากการซื้อขายเครื่องจักรจะอยู่ที่ประมาณ 3,000-3,500 ล้านบาท แต่ปีนี้ จากการเพิ่มพื้นที่จัดงานและการเปิดซูเปอร์โดม ทำให้คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นอีก 500 ล้านบาท เป็น 4,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15%” นางนิชาภา กล่าว