คาริสซาเตรียมโชว์ 4 คอลเล็คชั่นใหม่ ในงาน “สัปดาห์เครื่องหนังและรองเท้าไทย 2550”

ศรีราชา โมด้า เตรียมโชว์คอลเล็คชั่นกระเป๋าหนังจระเข้เกรดเอ แบรนด์ “คาริสซา” 4 คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด “เมโทร” สำหรับหนุ่มเมืองกรุง “ลอนดอน” “นิวยอร์ก” และ “ซานฟรานซิสโก” สำหรับสาวสมัยใหม่ผู้มีรสนิยม พร้อมรับสั่งจองในราคาพิเศษเพียงที่เดียวในงานสัปดาห์เครื่องหนังและรองเท้าไทย 2550 ระหว่างวันที่ 2-11 พฤศจิกายน 2550 ณ อาคารแสดงสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก

นายกำธร เต็มศิริพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชา โมด้า จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท ศรีราชา โมด้า จำกัด ได้ผันตัวจากการเป็นเพียงผู้ส่งออกหนังจระเข้ดิบให้กับแบรนด์เนมในต่างประเทศ และเป็นผู้ให้บริการผลิตกระเป๋าหนังจระเข้และสินค้าอื่นตามคำสั่งจากลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ มาพัฒนาแบรนด์ของตัวเองชื่อ คาริสซา (Karissa) ก็มีผู้สนใจให้การสนับสนุนลูกค้าเป็นจำนวนมาก จนปัจจุบันศรีราชา โมด้ามีจุดจำหน่ายสินค้า 2 แห่ง คือ ที่ชั้น 2 ศูนย์การค้า เพนนินซูล่า พลาซ่า (MODA Sriracha Shop) และเคาน์เตอร์ คาริสซา ชั้น M ภายในบริเวณดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ในช่วงส่งท้ายปลายปีนี้คาริสซาได้ออกคอลเล็คชั่นใหม่ 4 คอลเล็คชั่น ได้แก่

เมโทร (Metro) คอลเล็คชั่นสำหรับผู้ชาย มี 8 ดีไซน์ ทั้งกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าเอกสาร และสะพานข้าง รูปทรงที่เหมาะสำหรับวันเดินทาง และตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของสังคมเมืองปัจจุบัน ราคาขายในประเทศประมาณ 70,000 – 160,000 บาท

สำหรับสุภาพสตรี มี 3 คอลเล็คชั่นใหม่ ราคาขายในประเทศอยู่ระหว่าง 40,000-80,000 บาท ซึ่งดีไซน์เนอร์ของคาริสซาออกแบบโดยดึงบุคคลิกของ 3 มหานครของโลก พรีเซนต์ออกมาเป็นแต่ละ คอลเล็คชั่น ดังนี้

ลอนดอน (London) สำหรับสาวผู้รักแฟชั่น มีทั้งหมด 4 ดีไซน์ เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย สง่างาม แต่ยังคงความทันสมัยไว้ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไป สามารถใช้ได้กับทุกโอกาส

นิวยอร์ก (New York) สะท้อนถึงบุคลิกสมาร์ทแบบเวิร์คกิ้ง วูเม่น กระเป๋าทั้ง 4 ดีไซน์ ถูกออกแบบให้มีรูปทรงที่ดูทันสมัย มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วน ให้ความรู้สึกคล่องแคล่วและกระฉับกระเฉง

ซานฟรานซิสโก (Sanfrancisco) มี 3 ดีไซน์ เหมาะสำหรับสาวรีแลกซ์ สดใส มีชีวิตชีวา คอลเล็คชั่นนี้มีการนำเทคนิคพิเศษในการฟอกย้อมหนังให้ดูมีลักษณะเฉพาะมากขึ้น ก่อให้เกิดผิวสัมผัสที่แตกต่างและให้ความรู้สึกสบายๆ เหมาะสำหรับวันพักผ่อน

และที่พิเศษสุดก็คือกระเป๋าทุกใบจะฝังไมโครชิพที่เก็บข้อมูลของสินค้าชิ้นนั้นๆ อย่างละเอียด พร้อมใบรับรองจากอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ CITES ซึ่งจะทำให้การนำผลิตภัณฑ์ออกจากประเทศ หรือนำเข้าประเทศสะดวกมากยิ่งขึ้น

การฝังไมโครชิพไม่ได้ทำหน้าที่แค่บอกวัน เดือน ปีที่ผลิต หรือบอกลำดับในแต่ละลิมิเต็ด คอลเล็คชั่นเท่านั้น แต่มันยังสามารถสร้างความภาคภูมิใจให้ผู้ซื้อได้ว่า ตัวเองมีส่วนร่วมในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในแง่ของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพราะชิพจะสามารถบ่งบอกให้ผู้ซื้อทราบว่า กระเป๋าใบนี้เป็นเครื่องหนังที่ผลิตขึ้นจากสัตว์ที่ถูกเพาะเลี้ยงจากฟาร์มจริงๆ ไม่ได้มาจากการไล่ล่าสัตว์ในป่าเพื่อมาแปรรูปเป็นสินค้าประดับเรือนกาย

ประเทศไทยได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Land of exotic skin เนื่องจากความพร้อมทุกด้านของเมืองไทย ที่ถือเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบหนังจระเข้ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เพราะอยู่ในพื้นที่อบอุ่นที่จระเข้สายพันธุ์ Siamese หรือ Crocodylus siamensis จระเข้น้ำจืด เลี้ยงง่าย และให้ลายที่สวยงาม โดยเฉพาะลายกลางตัวเป็นตารางขนาดใหญ่ไล่ไปหาเล็ก ดีไซน์เนอร์ชื่นชอบที่จะนำไปออกแบบเครื่องหนังมากกว่าพันธุ์อื่นๆ เพราะเป็นลายที่ดูแล้วไม่เลี่ยนตา หนังจระเข้มีเสน่ห์ตรงมีรายละเอียดของหนังที่ชัดเจน สวยงาม ทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

“เพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงในราคาที่สามารถซื้อหาได้ ในปีนี้ศรีราชา โมด้า ได้ตัดสินใจรับคำเชิญจากสมาคมเครื่องหนังไทยให้มาร่วมออกบูธในงาน “สัปดาห์เครื่องหนังและรองเท้าไทย 2550” ระหว่างวันที่ 2-11 พฤศจิกายน 2550 ณ อาคารแสดงสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก โดยศรีราชา โมด้าจะนำกระเป๋าแบรนด์คาริสซาทั้ง 4 คอลเล็คชั่นใหม่ไปแสดง และเปิดรับสั่งสินค้าในราคาพิเศษ ลดสูงสุดถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และมอบโปรโมชั่นขอบคุณลูกค้า แจกของแถมเก๋ๆ สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าภายในบูธครบทุก 10,000 บาทอีกด้วย” นายกำธรกล่าว

“งานนี้พิเศษจริงๆ เพราะปกติสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดจะไม่ค่อยลดราคา แต่ครั้งนี้ลดสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ผู้ชื่นชอบกระเป๋าหนังจระเข้แท้ไม่ควรพลาด รับรองว่าไม่มีราคาพิเศษไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะราคากระเป๋าหนังจระเข้ในตลาดต่างประเทศจะสูงกว่าที่จำหน่ายในไทยถึง 10 เท่า” นายกำธรกล่าวทิ้งท้าย