ฮอนด้ายกระดับมาตรฐานรถจักรยานยนต์ เตรียมขยายการติดตั้งหัวฉีด PGM FI ในรถทุกรุ่น

คุณณัฐชัย ศรีโสวรรณา ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานการตลาด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ฮอนด้าในฐานะของผู้ผลิตและผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ ได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเพื่อสนองตอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการพัฒนาระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM FI (Programmed Fuel Injection) สำหรับใช้ในรถจักรยานยนต์ ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีคุณสมบัติเด่นด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น รวมทั้งให้ไอเสียสะอาดมากขึ้นตลอดจนสมรรถนะสูงขึ้น

ทั้งนี้ฮอนด้าเริ่มต้นพัฒนาระบบนี้ ด้วยการนำมาใช้ในรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (Big Bike) ตลอดจนถึงรถแข่งในสนามแข่งระดับโลก World Grand Prix พร้อมกันนั้นมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นและ
ทุกประเภท อันเป็นการปฏิวัติการขับขี่สู่ยุคใหม่ที่ห่วงใยในสิ่งแวดล้อม รวมทั้งใส่ใจต่อความประหยัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันซึงราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญจะมีการนำระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM FI มาติดตั้งให้ครอบคลุมในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นในประเทศไทยเร็วๆ นี้

ปัจจุบัน ทางฮอนด้าได้นำเทคโนโลยีระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM FI ติดตั้งในรถจักรยานยนต์อย่างแพร่หลายในรุ่นต่างๆ ทั้งในรถขนาดใหญ่แบบสปอร์ต และแบบสกู๊ตเตอร์ (Scooter) ตลอดจนรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กในรูปแบบรถคับ (Cub) โดยรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่ติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM FI ที่ได้รับความนิยมในระดับโลก มีรายละเอียดและจุดเด่น อาทิ

ฮอนด้า CBR 600 RR และ CBR 1000 RR
รถจักรยานยนต์ในรูปแบบซูเปอร์ สปอร์ต ไบค์ (Super Sport Bike) เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 600 ซีซี และ 1000 ซีซี ที่มี
ความโดดเด่นทั้งในด้านสมรรถนะและรูปลักษณ์ โดยได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงทั้งในอเมริกา ยุโรป รวมถึงในเอเชีย รถจักรยานยนต์รุ่นนี้ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM FI โดยเฉพาะในขนาด 1000 ซีซี นั้น ติดตั้งระบบหัวฉีดล้ำสมัยแบบ PGM DSFI ซึ่งใช้หัวฉีดถึง 2 ชุดต่อหนึ่งลูกสูบ ส่งผลให้ตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างแม่นยำ และที่สำคัญทั้ง CBR 600 RR และ CBR 1000 RR สามารถครองตำแหน่งแชมป์ในการแข่งขันรถแบบซูเปอร์ไบค์อันยิ่งใหญ่ระดับโลกประจำปี 2007 คือ รายการเวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปี้ยนชิพ (World Supersport Championship) อันเป็นการแข่งขันในระดับ 600 ซีซี และรายการเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ (World Superbike Championship) ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับ 1000 ซีซี

ฮอนด้า DN-01
รถจักรยานยนต์สปอร์ต ครุยเซอร์ (Sport Cruiser) ที่มีดีไซน์ล้ำสมัย โดยพัฒนามาจากรถต้นแบบ (Concept Bike) มีขนาดเครื่องยนต์ 680 ซีซี แบบ 2 สูบ V-Twin 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM FI รวมทั้งระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ HFT (Human Friendly Transmission) ซึ่งเป็นกลไกไฮดรอลิค ที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบขับขี่ได้ทั้งในแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือเกียร์อัตโนมัติ และแบบเกียร์ธรรมดา (Manual)

ฮอนด้า Forza Z
รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่แบบสกู๊ตเตอร์ (Scooter) ขนาดเครื่องยนต์ 250 ซีซี พร้อมติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM FI และระบบขับเคลื่อนแบบ S-Matic ที่ให้การขับขี่นุ่มนวล รวมทั้งให้ความปลอดภัยสูงด้วยการติดตั้งระบบเบรก ABS (Anti-Lock Braking System) และ CBS (Combined Braking System)

ฮอนด้า Super Cub
รถจักรยานยนต์ในรูปแบบคับ (Cub) ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก เครื่องยนต์ 50 ซีซี มีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยโครงสร้างของตัวรถต่ำ ทำให้การก้าวขึ้นและลงจากรถได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งขับขี่ง่ายโดยไม่ต้องควบคุมคลัทช์ ด้วยการติดตั้งระบบคลัทช์อัตโนมัติแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง (centrifugal clutch) นอกจากนั้นยังติดตั้งบังลมพลาสติกขนาดเหมาะกับตัวรถ เพื่อป้องกันแรงลมและการกระเด็นของสิ่งสกปรกในขณะขับขี่ รถตระกูลคับเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2501 และในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ จะเป็นการครบรอบ 50 ปีของรถตระกูลคับ โดยปัจจุบันรถประเภทนี้มียอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกมากถึงกว่า 60 ล้านคัน สำหรับฮอนด้า Super Cub ในรุ่นปี 2007 ได้รับการติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM FI ส่งผลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในด้านการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม

ฮอนด้า Wave 125i
รถจักรยานยนต์แบบครอบครัว ซึ่งเป็นรูปแบบของรถตระกูลคับ (Cub Series) ที่ได้รับการติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM FI เป็นรุ่นแรกในประเทศไทย ซึ่งเริ่มต้นวางจำหน่ายในปี 2546 โดยมีเครื่องยนต์ขนาด 125 ซีซี 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ และที่สำคัญรถรุ่นนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นยุคเทคโนโลยีหัวฉีดในวงการรถจักรยานยนต์ของประเทศไทย

ทั้งนี้ในประเทศไทย ฮอนด้าวางแผนงานขยายการติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM FI ให้ครอบคลุมในรถจักรยานยนต์ทุกรุ่นภายในปีหน้า คือ ปี 2552 นี้ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ พร้อมทั้งก้าวสู่การขับขี่ยุคใหม่ของรถจักรยานยนต์