กลุ่มบริษัทบูลมานน์ เทรดดิ้งชั้นนำระดับสากลแห่งวงการธุรกิจท่ออุตสาหกรรมเยอรมัน ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท รุกขยายตลาดการให้บริการแบบครบวงจรครั้งแรกในเมืองไทย ด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร One Stop Service โชว์ศักยภาพการให้บริการแบบเสร็จสรรพ รวดเร็วฉับไว ครอบคลุมทุกความต้องการ ด้วยคุณภาพสินค้ามาตรฐานสากล พร้อมคำแนะนำจากทีมงานระดับมืออาชีพ
มร.คาร์ล บูลมานน์ 1 ในประธานและประธานฝ่ายบริหาร กลุ่มบริษัทบูลมานน์ กล่าวว่า “กลุ่มบริษัท บูลมานน์ จำกัด ก่อตั้งในปี 1945 โดยเป็นธุรกิจของครอบครัวบูลมานน์ ปัจจุบันบริหาร โดย มร.แบร์นฮาร์ด บูลมานน์ และ มร.คาร์ล บูลมานน์ เปิดให้บริการด้านการจัดเก็บคลังสินค้า ท่อเหล็กและอุปกรณ์ประกอบต่างๆ เพื่อการจัดจำหน่าย การจัดหาระบบท่อทั้งระบบ โดยมีวัสดุให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่เหล็กคาร์บอนธรรมดา ไปจนถึงเหล็กกล้าผสมสูงไร้สนิม (High-alloy stainless steel) ด้วยคลังสินค้าขนาดใหญ่และมีสินค้าหลากหลาย ช่วยให้บริษัทฯสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ได้อย่างฉับไว และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในด้านการแก้ปัญหาเรื่องท่อ ระบบและการก่อสร้างโรงผลิตพลังงาน ทั้งยังให้บริการจัดหาผลิตภัณฑ์ และให้คำแนะนำในฐานะหุ้นส่วนผู้ให้คำปรึกษาในการวางแผนโครงการ การบริหารการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารการจัดเก็บและการจัดส่งสินค้า (Logistics) ตั้งแต่การเริ่มติดตั้ง รวมไปถึงการจัดหาอะไหล่ ตลอดจนการให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่องสำหรับแนวทางในการใช้งานแก่บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมพลังงาน โรงไฟฟ้า เคมี ปิโตรเคมี การต่อเรือ และวิศวกรรมเครื่องกลทั่วโลก ด้วยเครือข่ายที่กว้างขวางทั่วโลก ช่องทางการจัดซื้อและจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ กลุ่มบริษัทบูลมานน์ จึงสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ผู้อื่นไม่สามารถหาได้ หรือจัดหาผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังมีคลังเก็บสินค้า ชั้นเยี่ยม ซึ่งรวบรวมสินค้าที่หลากหลาย ผนวกกับระบบการจัดการและการขนส่ง (Logistics) ที่มีประสิทธิภาพ จึงสามารถรับรองได้ว่าสินค้าทุกชิ้นจะถูกส่งถึงมือลูกค้าในเวลาที่ต้องการอย่างรวดเร็ว ทุกๆรายละเอียดของความต้องการของลูกค้าจะไปถึงมือของผู้ผลิตโดยตรง พนักงานที่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านนั้นๆ จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กับฝ่ายผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้าจะเป็นไปตามข้อกำหนดของลูกค้าอย่างแท้จริง ถือได้ว่ากลุ่มบริษัทบูลมานน์ สามารถผนวกความเป็นผู้ค้าและผู้ให้บริการมืออาชีพ เข้าไว้ด้วยกันอย่างแท้จริง ในฐานะที่เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้งานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย
ปัจจุบันกลุ่มบริษัทบูลมานน์ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง และขยายสาขาครอบคลุมทั่วโลกกว่า 18 สาขา อาทิ ฝรั่งเศส อังกฤษ ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย อิตาลี สิงคโปร์ จีน และล่าสุดบริษัทฯ เล็งเห็น ถึงศักยภาพด้านการลงทุนของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านบุคลากร ทำเล จึงทุ่มงบลงทุน กว่า 100 ล้านบาท จัดตั้งบริษัท บูลมานน์ (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งสาขาในกลุ่มบริษัทระดับโลกในธุรกิจ ท่ออุตสาหกรรม พร้อมจะสร้าง warehouse ขนาดใหญ่ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในประเทศไทยและภูมิภาคใกล้เคียง” มร.คาร์ล กล่าวในที่สุด
นายเอกพจน์ ศรีสุธาพรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูลมานน์ (ประเทศไทย) จำกัด (Managing Director of Buhlmann (Thailand Ltd.) กล่าวเสริมว่า บริษัท บูลมานน์ (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งสาขาในกลุ่มบริษัทบูลมานน์ ผู้นำระดับโลกในธุรกิจท่ออุตสาหกรรม เดินหน้าดำเนินการก่อสร้าง warehouse ขนาดใหญ่ ระดับมาตรฐานต่างประเทศบนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ โดยมีพื้นที่ใช้สอยในช่วงแรกขนาด 4,000 ตารางเมตร เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการกับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมภายในประเทศไทย และภูมิภาคใกล้เคียง อาทิ สิงค์โปร์ อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เป็นต้น คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเร็วๆนี้ ทั้งนี้บริษัท บูลมานน์ (ประเทศไทย) จำกัด มีความโดดเด่นด้วยคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ผนวกกับการบริการที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมจากทีมงานมืออาชีพทั้งก่อนและหลังการขาย ซึ่งจะคอยช่วยเหลือลูกค้าตลอดเวลา พร้อมวิธีแก้ไขที่มีประสิทธิภาพเมื่อเกิดปัญหา อย่างครบวงจรแบบ One Stop Service รวดเร็ว ทันใจ สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการได้อย่างชัดเจน รวมถึงการทำตามคำมั่นสัญญา สำหรับปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ประมาณ 250 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังบริหารงานโดยมุ่งเน้นหลัก CSR ด้วยให้ความช่วยเหลือสังคม ตามนโยบายหลักของกลุ่มบริษัทและแนวคิดของผู้บริหาร ที่ว่า “บริจาคเพื่อการกุศลแทนของขวัญ” เพื่อให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือสังคมในโครงการต่างๆทั่วโลก และสำหรับเมืองไทยได้จัดตั้ง มูลนิธิคาร์ล บูลมานน์ (Karl Buhlmann Foundation) ที่ภูเก็ต ซึ่งมูลนิธินี้ก่อตั้งเมื่อเดือนกันยายน 2551 ที่ผ่านมา ได้ให้ความช่วยเหลือหลายด้าน อาทิการศึกษา สุขภาพร่างกาย การดำเนินชีวิตที่ดีในอนาคต แก่เด็กที่จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง นายเอกพจน์กล่าวในที่สุด