ผลการสำรวจล่าสุดซึ่งศึกษาปัจจัยที่เป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดต่อการประสบความสำเร็จของธุรกิจเผยว่า นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่อุปสงค์ที่ลดลงถูกมองว่าเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุด โดยได้รับการจัดอันดับจาก 49% ของธุรกิจทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 31% เมื่อปี 2008 (ดูแผนภาพประกอบ) นอกจากนี้ กลุ่มเศรษฐกิจ 25 กลุ่มจาก 36 กลุ่มที่ได้รับการสำรวจจากรายงานผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติที่จัดทำโดยแกรนท์ ธอร์นตัน (Grant Thornton International Business Report: IBR) ได้จัดอันดับให้อุปสงค์ที่ลดลงเป็นข้อจำกัดทางธุรกิจที่เป็นอุปสรรคมากที่สุดในบรรดาข้อจำกัดทางธุรกิจอื่นๆ
สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดเกี่ยวกับบรรยากาศทางเศรษฐกิจในปัจจุบันคือความล่าช้าในการดำเนินงาน (30%) ยังคงได้รับการจัดอันดับให้เป็นอุปสรรคต่อแผนการในการขยายกิจการมากกว่าปัจจัยทางด้านการเงิน (27%) ส่วนข้อจำกัดอันดับแรกสำหรับปีที่แล้ว ได้แก่การขาดแคลนแรงงานฝีมือ ไม่อยู่ในสามอันดับแรกตามที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ ประเทศต่างๆ ที่มีความกังวลต่ออุปสงค์ที่ลดลงได้แก่ ญี่ปุ่น (78%), อิตาลี (70%) และเวียดนาม (64%)
มร. ปีเตอร์ วอล์คเกอร์ กรรมการอาวุโส แกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย กล่าวว่า “เห็นได้ชัดเจนว่าผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลงสามารถรับรู้ได้ทั่วโลก เนื่องจากผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลงเพราะมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของงานของตน โดยทุกบริษัทในทุกตลาดนั้นได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันไปจากสภาพเศรษฐกิจที่อยู่ในขาลง และบ่อยครั้งเป็นสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทีมงานบริหารอย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือเจ้าของธุรกิจจะยังต้องเป็นผู้ควบคุมอนาคตธุรกิจของตนเอง นั่นหมายควมว่า ต้องกระตือรือร้น ใช้เวลาทำความเข้าใจประเด็นต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของตนโดยเฉพาะ และพัฒนากลยุทธ์เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในตลาดได้”
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หลายพื้นที่ทั่วโลกมองว่าอุปสงค์ที่ลดลงเป็นข้อจำกัดนั้น บางกลุ่มเศรษฐกิจ ได้แก่ บอตสวาน่า (54%), ออสเตรเลีย (47%) และแอฟริกาใต้ (41%) ยังคงระบุว่าการขาดแคลนแรงงานฝีมือเป็นอุปสรรคทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพื้นที่ของตน
ส่วนบริษัทในประเทศอื่นๆ ยังคงมองว่าความล่าช้าในการดำเนินงานยังเป็นข้อจำกัด โดยเม็กซิโก (66%) และโปแลนด์ (45%) จัดอันดับปัจจัยดังกล่าวในอันดับที่สูงกว่าข้อจำกัดประการอื่นๆ
ในประเทศไทย เจ้าของธุรกิจมองว่าอุปสรรคแต่ละข้อมีน้ำหนักเท่าๆ กัน โดยอยู่ที่ประมาณ 20% ได้แก่ ต้นทุนทางการเงิน เงินทุนในการดำเนินงานที่ขาดแคลน ความล่าช้าในการดำเนินงาน การขาดแคลนแรงงานฝีมือ และอุปสงค์ที่ลดลง การให้คำตอบแบบกระจายน้ำหนักเช่นนี้บ่งชี้ว่าธุรกิจในประเทศไทยรู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากหลายด้าน โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่แต่ละบริษัทจะต้องเผชิญ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัดในผลการสำรวจของปีก่อนหน้าและปีล่าสุดอยู่ที่การขาดแคลนแรงงานฝีมือ ซึ่งเคยสูงถึง 68% ในปีที่แล้วแต่ลดลงอยู่ที่ 17% ในปีนี้ โดย มร. ปีเตอร์ วอล์คเกอร์ ให้ความคิดเห็นว่า “การลดลงของความกังวลต่อการขาดแคลนแรงงานฝีมือสะท้อนให้เห็นถึงการจ้างแรงงานที่ลดลง และยังถูกบดบังด้วยประเด็นปัญหาอื่นๆ ที่ธุรกิจกำลังเผชิญในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แม้กระนั้น เรายังคงแนะนำให้ลูกค้าของเราให้ความสำคัญต่อการรักษาพนักงานไว้ เนื่องจากพนักงานที่ดีนั้นมีทางเลือกเสมอหากว่าไม่พึงพอใจในการทำงาน แม้ว่าบริษัทอาจจะไม่สามารถจ่ายโบนัสก้อนใหญ่หรือขึ้นเงินเดือนให้พนักงานได้ แต่บริษัทควรพิจารณาถึงกลยุทธ์ในการจูงใจพนักงานที่ไม่ใช้ตัวเงิน”
รายงานผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติของ แกรนท์ ธอร์นตัน (IBR) ทำการสำรวจทัศนคติของผู้บริหารในบริษัทเอกชนทั่วโลกทุกปี การสำรวจริเริ่มขึ้นเมื่อปี 1992 ใน 9 ประเทศในทวีปยุโรป และในปัจจุบันครอบคลุม 7,200 ธุรกิจในเศรษฐกิจ 36 กลุ่ม โดยเป็นการรายงานข้อมูลเชิงแนวโน้มในระดับพื้นที่ ระดับภูมิภาค และระดับโลก ในประเด็นเศรษฐกิจและการพาณิชย์ที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ‘เครื่องจักร’ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ซึ่งข้อมูลสำหรับภาคอุตสาหกรรมหลัก 8 ภาคนั้นมีการจัดทำเป็นครั้งแรกในปี 2009 นี้ การสำรวจดำเนินการโดย Experian Business Strategies Limited ทั้งนี้ แกรนท์ ธอร์นตัน อินเตอร์เนชั่นแนล จะมอบเงิน 5 ดอลลาร์สหรัฐให้แก่ องค์กร UNICEF ต่อผลสำรวจหนึ่งฉบับที่มีผู้ร่วมให้ข้อมูล รวมเป็นเงิน 39,000 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2008
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IBR กรุณาเข้าชมเว็บไซต์ www.internationalbusinessreport.com และท่านสามารถดาวน์โหลดข่าวประชาสัมพันธ์นี้ได้ที่เว็บไซต์ www.grantthornton.co.th/press
เกี่ยวกับ แกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย:
แกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงธุรกิจในฐานะบริษัทที่ปรึกษาและให้บริการอย่างมืออาชีพระดับแนวหน้าของประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาแก่บริษัทต่างๆ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียปี พ.ศ. 2540 โดยใช้วิธีการปรับโครงสร้างหนี้ การลดค่าใช้จ่าย และการปรับปรุงแผนธุรกิจการให้บริการของแกรนท์ ธอร์นตัน ได้แก่
• การให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ
• การตรวจสอบบัญชี
• การให้คำปรึกษาทางภาษี
• การให้บริการปรึกษาเฉพาะทาง
• การจัดหาบุคลากรระดับผู้บริหาร
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย กรุณาเข้าชมเว็บไซต์ www.grantthornton.co.th.



